'กักตัวเองในบ้านอาจไม่ปลอดภัย'ดร.เฉลิมพลยกบทความบลูมเบิร์กให้คิด


เพิ่มเพื่อน    

01 เม.ย.2563 - ดร.เฉลิมพล ไวทยางกูร นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กน่าสนใจในหัวข้อ “กักตัวเองในบ้านอาจไม่ปลอดภัย....” ระบุว่า ผมอ่านรายงานนี้ ( https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-03-30/italy-home-quarantine-repeats-mistake-made-in-china-doctors-say?fbclid=IwAR3GamNGvYQQjYPk-3M1kEe17XMIG7SNXOUmBqtMThHnB9F3avzD2goExAU) ด้วยความสนใจยิ่ง...

ขอให้คนที่อ่านก็อย่าเพิ่งตระหนกตกใจจนเกินเหตุ...ผู้เชี่ยวชาญจากจีนที่ไปช่วยอิตาลีเรื่องโรคระบาดโควิด 19 บอกว่า การให้ประชาชนแต่ละครอบครัวอยู่แต่ในบ้านเคยใช้ที่อูฮั่น เป็นความผิดพลาดของจีน ที่ไม่อยากให้เกิดซ้ำที่อื่นอีก....

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ สมาชิกครอบครัวบางคนที่กักตัวเองอยู่ด้วยกันนั้นมีเชื้อไวรัส แต่ยังไม่มีอาการแสดงออกมากนัก (mild symptom) เพราะโรงพยาบาลจะรับก็แต่ผู้ที่มีอาการชัดเจนแล้วเท่านั้น....

นั่นหมายความว่า แม้ไม่มีอาการใดๆ แต่เขาก็เป็นพาหะในตัว ทำให้เกิดการแพร่ไวรัสไปกับคนอื่นๆในครอบครัว
ด้วยเหตุนี้ การระบาดในหมู่สมาชิกครอบครัวจึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และสมาชิกครอบครัวทีร่างกายไม่สมบูรณ์ก็จะมีอาการหนักอย่างรวดเร็วจนถึงเสียชีวิตในบ้าน เพราะ โรงพยาบาลไม่มีเตียงว่าง ไม่มีเครื่องช่วยหายใจ ไม่มีวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์มากพอสำหรับทุกคนที่ป่วย การกักตัวผู้ที่มีอาการป่วยไม่มากที่บ้าน เท่ากับเป็นการแพร่เชื้อให้ทุกคนในบ้านโดยตรง

จีนได้เปลี่ยนนโยบายกักตัวในบ้านมาเป็นการสร้างโรงพยาบาลสนาม ใช้อาคารสถานที่ต่างๆที่สามารถนำผู้ที่มีอาการป่วยนิดหน่อยมาอยู่รวมกัน เป็นการกักรวมคนจำนวนมาก ด้วยวิธีนี้ ทำให้จีนสกัดกั้นการแพร่ระบาดได้รวดเร็ว เพราะคนที่มีอาการนิดหน่อยนั้น แม้ไม่ถึงต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล แต่ก็เป็นพาหะแพร่เชื้อไวรัสได้อยู่แล้ว เหลือแค่ผู้ที่ไม่ป่วยจริงๆเท่านั้นที่กักตัวเองที่บ้าน ป่วยนิดหน่อยก็ต้องมากักรวม...จะว่าบังคับก็ต้องบังคับ....

อ่านแล้วก็คิดว่า วิธีกักตัวเองที่บ้านที่รัฐบาลไทยกำลังให้ประชาชนทำอยู่นี้ เป็นการป้องกันการแพร่ระบาดได้แค่ไหน เพราะถ้าเป็นอย่างที่ผู้เชี่ยวชาญจีนว่า ก็เท่ากับว่าจะมีหลายครอบครัวคนไทยที่มีสมาชิกเป็นพาหะไวรัสอาศัยอยู่ในบ้านด้วย แล้วถ้าแยกตัวไม่ทัน ก็หมายความว่าสมาชิกในครอบครัวทุกคนก็มีโอกาสติดเชื้อ ทั้งๆที่กักตัวเองอยู่ในบ้าน ทั้งๆที่กินร้อน ช้อนใครช้อนมัน ไม่ใช่ของใช้ร่วมกัน แต่การรักษาระยะห่าง หรือ social distancing สองเมตรคงทำไม่ได้ตลอดเวลา ถ้าเป็นอย่างนั้น เราจะแก้ไขอย่างไร...

ในเมื่อกระทรวงสาธารณสุขก็ป่าวร้องให้ทุกคนอยู่แต่ในบ้าน เพราะผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนั้นก็มากมายจนเกินจะรับไหว อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์ก็ไม่พอ และถ้าทุกคนอยู่ในบ้าน แต่กลับมีบางคนที่เป็นพาหะ แต่ไม่แสดงอาการปนอยู่ด้วย แล้วอะไรจะเกิดขึ้น 

ภาวนาขอให้สิ่งที่ผมคิดไม่เกิดขึ้นจริง.....
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"