รัฐบาลสิงคโปร์ยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 นายกฯ ลี เซียนลุง ออกคำสั่งปิดโรงเรียนและสถานที่ทำงานนาน 1 เดือน ยกเว้นบริการที่จำเป็นเช่นธนาคารและซูเปอร์มาร์เก็ต และขอให้ประชาชนอยู่กับบ้าน

ร้านอาหารในสิงคโปร์จัดที่นั่งเว้นระยะห่างให้ลูกค้า เพื่อป้องกันการแพร่กระจายไวรัสโคโรนา

    นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ แถลงมาตรการใหม่ของรัฐบาลเมื่อวันศุกร์ที่ 3 เมษายน 2563 โดยวันเดียวกันนี้ สิงคโปร์มีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เป็นรายที่ 5 ของประเทศ ลีกล่าวว่า ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องใช้ "เครื่องตัดกระแสไฟ" เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของไวรัส

    สิงคโปร์ได้รับคำชมเชยเรื่องการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ด้วยการตรวจประชาชนจำนวนมากและติดตามผู้ที่ติดต่อสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ แต่ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อในสิงคโปร์ที่ยืนยันแล้วเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอยู่ที่ 1,114 ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เมื่อวันศุกร์อีก 65 ราย

    ทางการสิงคโปร์ใช้มาตรการควบคุมการแพร่เชื้อแล้วหลายประการ รวมถึงการปิดบาร์และไนต์คลับ แต่รัฐบาลยังไม่ตัดสินใจใช้การจำกัดการเคลื่อนย้ายอย่างเข้มงวดขึ้นเหมือนกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ดี มาตรการใหม่ที่ลีประกาศเมื่อวันศุกร์ เขาขอให้ประชาชนอยู่บ้านมากที่สุดเท่าที่ทำได้ และออกนอกบ้านเท่าที่จำเป็น เช่น เพื่อซื้ออาหารและออกกำลังกายเท่านั้น

    มาตรการใหม่ ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันอังคารที่ 7 เมษายน ถึง 4 พฤษภาคม จะสั่งให้ธุรกิจและสำนักงานปิดทำการ ยกเว้นบริการที่จำเป็น เช่น ตลาดและซูเปอร์มาร์เก็ต, คลินิก, โรงพยาบาล, สาธารณูปโภคพื้นฐาน, ระบบขนส่ง และธนาคาร ส่วนโรงเรียนจะเริ่มปิดตั้งแต่วันจันทร์ที่ 8 เมษายน เป็นเวลา 1 เดือนเช่นกัน และอาจจะขยายเวลาของมาตรการนี้ออกไปอีก 1 เดือนหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น

    วันเดียวกัน ประเทศเพื่อนบ้านร่วมอาเซียนอย่างอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มเป็ฯ 1,986 คน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 196 คน และมีผู้เสียชีวิต 11 คน ยอดรวมเป็น 181 ศพ ส่วนฟิลิปปินส์มีผู้เสียชีวิตเพิ่มถึง 29 คน ยอดรวมเป็น 136 ศพ ติดเชื้อรายใหม่ 385 คน ยอดรวมเป็น 3,018 คนแล้ว.