ยามที่พรรคประชาธิปัตย์โดนถล่มเละจากสังคม ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทั้งการแก้ไขปัญหาหน้ากากอนามัยที่ไม่เพียงพอกับความต้องการ และราคาไข่ไก่ที่แพงขึ้นอย่างรวดเร็ว
สาเหตุที่ทำให้พรรคกลายเป็นตำบลกระสุนตก มาจากรัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องนี้ คือ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่เขาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไม่สามารถจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้ชะงัก
แม้พรรคถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่ในเวลาเดียวกันก็มีคนของพรรคอีกมากเดินหน้าทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุด ทั้งรัฐมนตรีและ ส.ส.ไม่มีปริปากหรือจิกกัดด่าว่ารัฐบาล กลับตรงข้ามก้มหน้าก้มตาทำงานรับใช้ประชาชน และบุคลากรทางการแพทย์
ยกตัวอย่างเช่น รัฐบาลประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกจากเคหะสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. ซึ่งบ้านเราก็มีคนจำนวนหนึ่งที่เป็นพวกเร่ร่อน ไร้บ้าน ไม่อาจปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวได้ อีกทั้งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะสามารถติดไวรัสโควิด-19 ได้ง่าย
ดังนั้น “จุติ ไกรฤกษ์” อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเจ้ากระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จึงต้องเข้าไปดูแล เพราะเป็นส่วนงานที่ต้องรับผิดชอบ
ล่าสุด รมว.พม.ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกลุ่มคนดังกล่าว พร้อมคอนเซ็ปต์ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ได้ออกมาตรการช่วยเหลือดูแลจัดที่พักสะอาด ปลอดภัย แถมฟรีอาหาร 3 มื้อ โดยอาคารที่จัดให้มีทั้งหมด 5 แห่ง ได้แก่ 1.บ้านมิตรไมตรี 4 มุมเมือง กรุงเทพมหานคร (อ่อนนุช) 2.บ้านมิตรไมตรี 4 มุมเมือง กรุงเทพมหานคร (ธนบุรี) 3.บ้านมิตรไมตรี 4 มุมเมือง กรุงเทพมหานคร (ดินแดง) 4.บ้านสร้างโอกาส ปทุมธานี และ 5.บ้านสร้างโอกาส ปากเกร็ด พร้อมทั้งมีอาหารครบ 3 มื้อ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
นอกจากนี้ สถานที่รองรับทั้ง 5 แห่ง จะมีเจ้าหน้าที่พูดคุยให้คำแนะนำปรึกษาเพื่อทำความเข้าใจ พร้อมแจ้งสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับสวัสดิการสังคมต่างๆ จากรัฐ มีบริการทางการแพทย์ และการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายทั้งเช้าและเย็น โดยจะมีรถ กระทรวง พม. พร้อมรับส่งไปยังที่พักทั้ง 5 แห่ง ทั้งนี้ ในระยะยาวจะมีการสอนฝึกอาชีพ เพื่อให้มีรายได้ที่เพียงพอในการพึ่งพาตนเอง จะได้ไม่ต้องกลับมาใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะอีก
นอกจากนี้ ยังมี “นิพนธ์ บุญญามณี” รองหัวหน้าพรรค ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียกว่าแทบจะเป็นเบอร์ต้นๆ ที่ผุดโครงการผลิตหน้ากากผ้าแจกจ่าย โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบกลาง 225 ล้านบาทให้เมื่อวันที่ 3 มี.ค. และเกิดเป็นโครงการรวมพลังคนไทยร่วมใจป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ประสานให้เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทั้งประเทศ ดำเนินการ สามารถผลิตและแจกจ่ายไปแล้ว ซึ่งยอด ณ วันที่ 31 มี.ค. 42 ล้านชิ้น และตั้งเป้าหมายไว้ที่ 50 ล้านชิ้น
เลือดแท้ ปชป.รายต่อไป ที่อยากกล่าวถึงนั้น เป็นผู้ที่คลุกคลีอยู่กับประชาธิปัตย์โซนจังหวัดกระบี่มานาน จนรอบนี้ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ “พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล” ทายาทการเมืองของ “พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล” อดีตรัฐมนตรีและอดีต ส.ส.กระบี่หลายสมัยติดต่อกัน
ในช่วงแพ้ระบาด แม้ “พิมพ์รพี” จะเป็น ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ แต่เธอมีความผูกพันธ์ใกล้ชิดกับชาวกระบี่ ทำงานพัฒนาสังคมมาหลายสิบปี วันนี้กักตัวเองอยู่ในจังหวัด และใช้เวลาให้เกิดประโยชน์
ระดมพรรคพวกช่วยกันผลิตตู้ป้องกันโควิด-19 ซึ่งทำมาจากพลาสติกและท่อน้ำ PVC เพื่อเป็นอุปกรณ์กันไวรัสระหว่างบุคลากรทางการแพทย์กับผู้ป่วย จนถึงปัจจุบันแจกให้กับสถานพยาบาลทั้งในระดับตำบลและอำเภอไปแล้ว 80 ตัว
ปิดท้ายที่ “อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส.ส.คนรุ่นใหม่สมัยแรก ประกาศเปรี้ยง ขณะนี้ทำโครงการ “MiniMask” หน้ากากผ้าเพื่อเด็ก แจก 1 แสนชิ้น พร้อมส่งให้พี่น้องประชาชนที่มาลงทะเบียนฟรีทางไปรษณีย์ ปรากฏว่ากระแสตอบรับดีมาก เผลอแปบเดียวโควตาเต็ม แถมยังมีผู้สนใจต้องการร่วมทำบุญในโครงการนี้อีก
ทำให้ “ส.ส.บิล” ตัดสินใจทำต่อ โดยเชิญชวนให้บริจาคเงินคนละ 19 บาท เพื่อใช้สำหรับซื้อวัสดุในการตัดเย็บ และเป็นค่าจ้างสำหรับกลุ่มแม่บ้าน โดยเป้าหมายไว้ที่ 1 ล้านชิ้น
นี่คือ 4 ตัวอย่างของชาวเลือดฟ้าที่พิสูจน์ฝีมือด้วยการลงมือทำ เน้นทำงานมากกว่าเน้นพูด หรือทำสงครามน้ำลายทางการเมือง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ของพรรคประชาธิปัตย์
ฉะนั้น ใครที่กำลังพูดสร้างความเสียหายให้กับผู้อื่น มากกว่าทำประโยชน์ จงหยุด และให้ยึดพระคติธรรมในสมเด็จพระสังฆราช ที่ประทานเป็นกำลังใจในสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ใจความว่า “เมื่อถึงยามคับขัน ประชาชนต้องการผู้กล้าหาญ, เมื่อถึงคราวปรึกษางาน ต้องการผู้ที่ไม่พูดพล่าม, ยามมีข้าวน้ำ ต้องการผู้เป็นที่รัก, ยามเกิดปัญหา ต้องการบัณฑิต ขอทุกท่านจงเป็นผู้กล้าหาญ ที่จะละความดื้อด้านเห็นแก่ตัว ความเคยตัว และความไม่ระมัดระวังตัว ขอจงเป็นผู้ที่ไม่พูดพล่าม โดยปราศจากสาระ ก่อความร้าวฉานชิงชัง ในยามที่สังคมต้องการสาระ คำปรึกษาหารือ และกำลังใจ แต่จงประพฤติตนเป็นบัณฑิต ผู้รู้รักษากายใจของตัวให้ปลอดจากโรคกายโรคใจ เป็นผู้ฉลาดศึกษา ค้นคว้า วางแผน ชี้แนะ และลงมือทำ”.
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |