17 เม.ย.63 – มีการเตรียมความพร้อมรับคนไทยที่ตกค้างในรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซีย กลับภูมิลำเนาโดยผ่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ในวันที่ 18 เม.ย. 63 เวลา 07.00 - 19.00 น.ที่จะถึงนี้ ล่าสุด นายบุญพาศ รักนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยการจัดเตรียมสถานที่บุคลากรในการคัดกรองแรงงานไทย ซึ่งด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จะมีคนไทยที่ตกค้างในประเทศมาเลเซีย อนุญาตให้เดินทางผ่านข้ามแดนเพียงวันละ 100 คน ที่ต้องมีหนังสือรับรองจากสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ พร้อมใบรับรองแพทย์

ซึ่งตั้งทีมคัดกรองขึ้น 3 จุด จุดที่ 1. คือจุดคัดกรองด่านตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะมีการวัดอุณหภูมิ จุดที่ 2. เป็นการสอบสวนโรคจากทีมสาธารณสุขอ.สุไหงโก-ลกและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก และจุดที่ 3. ลงทะเบียนประวัติเพื่อส่งศูนย์ Local Quarantine เพื่อกักตัวดูอาการ 14 วัน ตามภูมิลำเนาของแต่ละบุคคล โดยเจ้าหน้าที่จะประสานให้เจ้าหน้าที่แต่ละจังหวัดนำรถยนต์มารับตัวไปกักตามสถานที่แต่ละจังหวัดจัดเตรียมไว้ ในส่วนของรายชื่อจำนวนคนไทยที่ลงทะเบียนโดยเดินทางผ่านด่านพรมแดนสุไหงโก-ลกในวันพรุ่งนี้มีแล้วจำนวน 90 คน
 

ในส่วนของการตรวจสอบพบบุคคลซึ่งพบมีอาการส่อติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เจ้าหน้าที่ก็จะแยกส่งตัวไปโรงพยาบาลสนาม 4 แห่ง ที่ทางจังหวัดได้จัดเตรียมสถานที่ไว้รองรับ คือ 1.อาคารกองร้อยอาสารักษาดินแดน อ.เมืองนราธิวาส 2. อาคารการกีฬาและท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จ.นราธิวาส 3. อาคารโรงยิมสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา หรือ สวน ร.5 และ 4. โรงพยาบาลกัลยาณิวัฒนาการุณย์ ซึ่งสามารถรองรับบุคคลถูกกักตัวและเข้าทำการรักษาการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้ จำนวนกว่า 300 คน
 

ในส่วนของช่องทางข้ามธรรมชาติ โดยเฉพาะด้าน อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีคนไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซีย ได้ใช้เส้นทางดังกล่าวลักลอบเดินทางข้ามมาประเทศไทยแล้ว มีจำนวนกว่า 200 คน ซึ่งล่าสุดในวันที่ 15 เม.ย. 63 ได้ลักลอบเดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติ จำนวน 98 คน นั้น เจ้าหน้าที่ได้เสริมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 48 และเจ้าหน้าที่ทหารชุดป้องกันชายแดนที่ 3 สลับสับเปลี่ยนกันเดินลาดตระเวนและนั่งเฝ้าประจำจุดตามช่องทางข้ามธรรมชาติแต่ละจุด เพื่อป้องกันกลุ่มคนไทยที่ตกค้างในรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซีย แอบลักลอบข้ามแดนเหมือนในช่วงที่ผ่านมา ส่วนประเทศมาเลเซียก็มีกำลังพลจากหน่วย PGA หรือ ตำรวจตระเวนชายแดน ที่ประจำการจากเมืองกวนตัว รัฐปาหัง ถูกส่งตัวมาปฏิบัติหน้าที่ที่บริเวณช่องทางข้ามธรรมชาติเช่นเดียวกับไทย.