18 เม.ย.63 - นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาดังนี้

รัฐสวัสดิการที่แข็งแกร่งเป็นคำตอบสำหรับประเทศไทยและโลก

การที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำจดหมายขอความช่วยเหลือไปยังอภิมหาเศรษฐีใหญ่20คนของไทย เป็นการกระทำที่ สะท้อนให้เห็น

1.ความตื้นเขินทางสติปัญญาของรัฐบาลประยุทธ์ทำให้หมดสิ้นหนทางในการแก้ไขปัญหาแล้ว

2.การไม่เคารพเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภาแทนที่จะเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อระดมสติปัญญาในการแก้ปัญหากลับไปขอความช่วยเหลืออภิมหาเศรษฐี

3. มีจิตวิญญาณของลัทธิหวังพึ่งของคนจมน้ำที่ต้องคว้ากิ่งไม้ที่ลอยมา"

รัฐบาลกำลังจะออกพรก.เงินกู้1.9ล้านล้าน เงินก้อนนึ้จำนวนมหาศาลมากกว่างบประมาณใช้จ่ายของรัฐบาลในปี63-64เสียอีกเพราะงบของแต่ละปีต้่องหักเงินเดือนประจำออกไปจึงเหลืองบที่ใช้ได้จริง

ทำไม จำนวนเงินมหาศาลขนาดนี้ (1.9ล้านล้าน)พวกคุณไม่สามารถนำมาบริหารเพื่อเอาชนะศึกโควิด-19ได้

เวียดนามและไต้หวันเขาสามารถปิดเกมโควิด-19ไปได้แล้ว(เหลือเพียงแต่ต้องระวังผลกระทบชิ่งจากประเทศอื่นๆที่กำลังเชี่ยวกรากอยู่)โดยที่ไม่ต้องใช้งบประมาณมากขนาดพวกคุณเลย

เพียงแต่พวกเขามีวิสัยทัศน์มีการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพมีคุณภาพทั้งที่ประเทศไทยเรามี บุคคลากรทางด้านสาธารณสุขและระบบสาธารณสุขในระดับต้นๆของโลก

แต่พวกคุณก็บริหารจนประเทศเกือบจะย่ำแย่ ดีแต่ คณาจารย์ สถาบันการแพทย์ต่างๆเขาทนไม่ไหว ก็เลยต้องเข้ามาช่วยพวกคุณให้รอดพ้นไปจากหายนะ

เพราะคณะบุคคลทางด้านแพทย์และสาธารณสุขทนเห็นประชาชนและประเทศวอดวายลงไปต่อหน้าไม่ได้ ถ้าไม่ก้าวเข้ามาช่วยรัฐบาลปัจจุบันในการรับมือกับศึกโควิด

ผลงานการรับศึกโควิด-19ครั้งนี้เป็นของ คณะบุคคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทั้งประเทศอุทิศชีวิตจิตใจในการต่ดสู้

ร่วมกับประชาชนที่ปฏิบัติตนได้อย่างดีเยี่ยมตามหลักการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่จะดับไฟโควิด-19เท่านั้นไม่ใช่ผลงานรัฐบาลที่อาจจะพอทำให้ได้หน้าตาหน่อยก็คือเรื่องการแจกเงินเพื่อช่วยเหลือยามคับขัน5,000บาท

พวกคุณก็ทำเอาเสียยุ่งเหยิง อาจจะเป็นเหตุเป็นชนวนให้เกิดความโกลาหลขึ้นในบ้านเมืองได้

ในวันนี้ต้องต่อแถวนับเป็นกิโลเพื่อไปรับอาหารกินเป็นวันๆหรือรับเงินจำนวนพอใช้จ่ายวันต่อวัน ไปหลายจังหวัดเหลือเกิน

ก็ลองไปดูญี่ปุ่น และสิงคโปร์ที่เขาช่วยเหลือยามคับขับให้กับประชาชนเขาดูซิครับ

อาเบะแจกแสนเยนให้ทุกคน ลี่เสียนหลุงแจก600ดอลล่าให้คนอายุเกิน21ทุกคน ที่ญี่ปุ่นและ สิงคโปร์เรื่องช่วยฉุกเฉินทุกอย่างเรียบร้อยดี

การไปขอความช่วยเหลือจากอภิมหาเศรษฐี20คนของไทย ฟังดูอาจจะเห็นว่าพวกคุณอ่อนน้อมถ่อมตน ขอ แนวคิด สติปัญญา ความร่วมมือจากพวกเขา เพื่อมาแก้ปัญหา

แต่เนื้อแท้ตอนนี้อำนาจเด็ดขาดอยู่ในมือของพวกคุณโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้วครับ พรก.ฉุกเฉินไงครับ

ดังนั้นขอให้คุณและพวกวางทิศทางถูกต้อง เดินไปอย่างถูกต้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ พวกอภิมหาเศรษฐีก็ต้องทำตามที่คุณและพวกคิดและสั่งทำอยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องไปขอความช่วยเหลือแต่อย่างไร

แสดงว่าคุณและพวกแก้ปัญหาไม่ไหวแล้วไงครับ เลยต้องร้องขอความช่วยเหลือ

ที่สำคัญคือ น่าสงสัยว่า "คุณตั้งใจไปขอความช่วยเหลือทางการเงินพวกเขาหรือเปล่า"

ผมขอเตือนว่า "อย่าไปขอความช่วยเหลือทางการเงินจากเขาเป็นอันขาด เพราะคุณเป็นรัฐบาล คุณสามารถนำเงินแผ่นดินมาช่วยประชาชนได้"

เพราะทำให้เกิดข้อกังขาว่า "จะมีอะไรเป็นเงื่อนไขตอบแทนหรือไม่????"

เพราะ "ไม่มีอะไรฟรีในโลกนี้ และค่าตอบแทนนั้นไม่ใช่สิ่งที่จับต้องไม่ได้ เป็นนามธรรม เป็นเกียรติยศ เป็นคำขอบคุณสวยหรูลมๆแล้งๆลอยในอากาศด้วย"

ขณะนี้ผู้คนก็สงสัยกันทั้งบ้านทั้งเมืองอยู่แล้วว่า เงินกู้ เพื่อไปอุ้มหุ้นกู้4แสนล้านทำไปเพื่อช่วยอภิมหาเศรษฐีใช่หรือไม่????ทำไปทำไม???

กรณีศึกษาเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปขอความช่วยเหลืออภิมหาเศรษฐี20คนในไทย

ทำให้ยิ่งยืนยันเรื่อง ประเทศควรจัด"รัฐสวัสดิการที่แข็งแกร่ง"ให้เกิดขึ้นเพื่อสร้างความแข็งแรงมั่นคงให้กับสวัสดิภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคน โดยตั้งบนรากฐานของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เราสามารถกำหนดการจัดเก็บภาษีในอัตราก้าวหน้าเพื่อให้เกิดความธรรมกับประชาชนทุกคน 
อาทิ ความมั่นคั่งที่เกิดจากการประกอบอาชีพในประเทศนี้
ในระดับที่เกินกว่า ร้อยล้านเก็บอัตราหนึ่ง เช่น20-30%
เกินกว่าพันล้าน เก็บอัตราหนึ่ง เช่น30-40%
เกินกว่าหมื่นล้าน เก็บอัตราหนึ่งเช่น 50-60%
เกินกว่าแสนล้าน เก็บอัตราหนึ่ง เช่น 80-90% เป็นต้น

รัฐก็จะมีรายได้มากพอที่จะสร้างประเทศและจัดสวัสดิการให้ประชาชนไทย70ล้านคนได้อย่างเสมอภาคถ้วนหน้า

ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เจริญเติบโตเป็นตัวอ่อนจนคลอด  จากทารกไปจนเป็นเด็กเล็ก จากเด็กเล็กไปเป็นเด็กโต ไปเป็นวัยรุ่น ไปสู่วัยทำงาน ไปจนวัยเกษียณ ไปจนมรณภาพ  ได้รับการดูแลปกป้องคุ้มครองจากรัฐอย่างใกล้ชิดโดยตลอด และรัฐสามารถรับมือกับมหาภัยพิบัติทุกรูปแบบไม่ว่าเวลาใดๆ โดยไม่ต้องไป "ขอทานเศษเงินจากอภิมหาเศรษฐีใดๆ"

แต่พวกอภิมหาเศรษฐีมีหน้าที่ที่จะต้องเสียภาษีเพื่อชดเชยบุญคุณแผ่นดินนี้ที่ทำให้พวกเขาร่ำรวยเป็นหมื่นเป็นแสนล้านขึ้นมาได้

ทั้งนี้ต้องสร้างระบอบรัฐประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่แข็งแกร่งไม่มีการคอรัปชั่นโกงกิน

เพื่อสร้างหลักประกันที่แข็งแรงเรื่องการเก็บภาษีและการนำเอาเงินภาษีอาการของประชาชนมาใช้เพื่อบริหารประเทศให้ก้าวเจริญรุดหน้าและสร้างความมั่นคงมั่งคั่งให้ประชาชนทุกคนอย่างเสมอภาคถ้วนหน้า