19 เม.ย.63- เมื่อเวลา 13.00 น. ที่จุดตรวจคัดกรองโควิด-19 บนถนนสายหลังสวน-ราชกรูด อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร พบชาวบ้านจำนวน 5 คน เป็นหญิง 1 ชาย 4 ถือบัตรประชาชนชาว อ.เมือง จ.ระนอง กำลังนั่งภายในศาลาข้างป้อมตำรวจพะโต๊ะ ด้วยสีหน้าเศร้าหมอง 

จากการสอบถามคนทั้ง 5  ประกอบด้วย นางฮาสามะ หมานจิต อายุ 32 ปี นายธันวา อุ่นเรือน อายุ 34 ปี ทั้งสองอยู่บ้านเลขที่ 14/15 หมู่ที่ 3 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง นายระวี ชัยสิน อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 323/7 หมู่ที่ 3 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง  นายรอหีม มี๊ด อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127/51 หมู่ที่ 4 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง นายอานัส หมานจิต อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 300/173 หมู่ที่ 5 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง คนทั้ง 5 มีอาชีพเป็นคนงานก่อสร้างบนเกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี
 
นายธันวา  กล่าวว่าเมื่อหลายเดือนก่อนพวกตนเองได้เดินทางไปทำงานรับจ้างเป็นคนงานก่อสร้างในพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี ต่อมาเมื่อเกิดสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 ระบาด ทำให้การก่อสร้างต้องหยุด นายจ้างไม่สามารถจ้างต่อไปได้  จากนั้นเมื่อวันที่ 18 เม.ย.63 ทั้งหมดจึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิดที่ อ.เมือง จ.ระนอง

 พร้อมทั้งขอใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลเกาะสมุย โดยใบรับรองแพทย์ระบุไม่มีไข้ร่างกายปกติ จึงขับรถยนต์กระบะเดินทางจากเกาะสมุย โดยใช้เส้นทางผ่านในพื้นที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ไปยังแยกราชกรูด จ.ระนอง  แต่เมื่อถึงด่านตรวจราชกรูด เป็นเขตแดนระหว่าง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร กับ อ.เมือง จ.ระนอง ถูกสกัดไม่ให้เข้าพื้นที่และให้พวกตนเองกลับไปยัง อ.เกาะสมุย เจ้าหน้าที่จุดตรวจคัดกรองอ้างว่าใบรับรองแพทย์ระบุเพียงไม่มีไข้ไม่สามารถใช้ไม่ได้ต้องเป็นใบตรวจโรคโควิด-19 เท่านั้น
 
นายธันวากล่าวว่าจึงหวนกลับมาที่จุดคัดกรองบนถนนในพื้นที่ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเอกสารครบถ้วนและได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิตรวจคัดกรองอีกครั้งก็ไม่มีไข้ พวกเราทั้ง 5 คน จึงเดินทางกลับไปที่ด่านตรวจราชกรูด จ.ระนองอีกครั้ง  ซึ่งครังนี้กลับโดนเจ้าหน้าที่ด่านราชกรูดบอกว่าตนเองเป็นหัวหน้าด่านตรวจบอกว่าให้เดินทางออกจากพื้นที่ จ.ระนอง ภายใน 5 นาทีนี้ ไม่เช่นนั้นจะดำเนินการตามกฎหมาย ทำเอาพวกรั้ง 5 ตกตะลึง รีบออกจากด่านด้วยความกลัว และต้องกลับไปอาศัยศาลาด่านตรวจพื้นที่ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร เพื่อพักอาศัยหลับนอนและได้ข้าวกล่องของเจ้าหน้าที่ประทังชีวิต จนถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 2 วันแล้ว เงินที่มีติดตัวมาก็จะหมดแล้ว ที่พักก็ลำบาก อีกทั้งพวกตนเองเป็นอิสลาม อาหารการกินก็ลำบาก เจ้าหน้าที่ด่านตรวจ อ.พะโต๊ะ ต้องจัดทำพิเศษให้ จะกลับไปเกาะสมุยก็ไม่ได้เพราะบัตรประชาชนเป็น ชาวจ.ระนอง
 
ขณะที่ นายอานัส  ถึงกับหลั่งน้ำตาบอกว่าลูกชายที่ยังเล็กได้โทรศัพท์มาสอบถามตลอดเวลาว่าพ่อจะกลับถึงบ้านใน จ.ระนอง ตอนไหนรู้สึกคิดถึงลูกอย่างมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องรออีกกี่วัน จึงจะเดินทางเข้า จ.ระนองได้ อีกทั้งไม่เข้าใจว่าพวกตนเองมีใบรับรองแพทย์อาการเป็นปกติทุกอย่างไม่มีไข้ และยังยินยอมทำตามเงื่อนไขให้กักตัวไม่ว่าจะให้กักตัวในสถานที่ใดก็ตามที่ทาง จ.ระนองต้องการ แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมพวกตนเองถึงเดินทางกลับบ้านเกิดไม่ได้
 
ด้าน นายฐิติวัชร์ บุญกิจ นายอำเภอพะโต๊ะ กล่าวว่าได้รายงานให้ นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผวจ.ชุมพรทราบเรื่อง และประสานไปยัง จ.ระนองแล้ว  แต่ทาง จ.ระนอง ยืนยันจะไม่อนุญาตให้ชาวระนองกลุ่มนี้เดินทางเข้าพื้นที่ จึงต้องช่วยเหลือตามความจำเป็นตามหลักสิทธิมนุษยธรรมให้กินนอนในพื้นที่ อ.พะโต๊ะ ไปก่อน.