กระทิงแดงมาแล้ว! 'ครอบครัวอยู่วิทยา' ตอบรับนายกฯ พร้อมสนับสนุนเงินทุนเบื้องต้น 300 ล้าน


เพิ่มเพื่อน    

30 เม.ย. 63 -  เวลา 11.00 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเฉลิม อยู่วิทยา หนึ่งในมหาเศรษฐีเมืองไทย ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ทำจดหมายขอความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชน จากผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้มอบหมาย นายธนิต บัวเขียว ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายและบริหารความเสี่ยง เป็นตัวแทนเข้ายื่นหนังสือตอบรับแก่นายกฯ โดยเสนอแผนทุ่มงบประมาณ 300 ล้านบาท ช่วยเหลือประชาชนภายใต้โครงการ “พึ่งตน เพื่อชาติ” ทั้งนี้มี พล.ต.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ คณะทำงานนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับหนังสือ

โดยหนังสือดังกล่าวระบุตอนหนึ่งว่า ผมและครอบครัวอยู่วิทยาทุกคนต่างมีความรู้สึกกังวลใจไม่ต่างไปจากคนไทยทั้งประเทศ และนับตั้งแต่เริ่มต้นการระบาดของโควิด-19 จนถึงปัจจุบัน ครอบครัวอยู่วิทยาได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ และได้ลงมือให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง

ในฐานะพลเมืองคนหนึ่งที่มีความรับผิดชอบต่อประเทศ พวกเราไม่รีรอที่จะยื่นมือเข้ามาให้ความ ช่วยเหลือในสิ่งที่จำเป็นโดยทันที โดยสิ่งที่ครอบครัวอยู่วิทยาจะทำต่อไปในวิกฤติครั้งนี้ที่ก่อให้เกิดปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจมากมาย เราจึงให้ความสำคัญกับปัญหาปากท้องของประชาชน โดยจะสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร ครอบครัวอยู่วิทยาจะให้การสนับสนุนเงินทุนเบื้องต้น จำนวน 300 ล้านบาท ในช่วง 3 ปีแรกเพื่อทำโครงการ “พึ่งตน เพื่อชาติ” 

โดยร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในภาคประชาสังคม ภาคธุรกิจ และภาคการศึกษา อาทิเช่น สถาบันอาศรมศิลป์ และเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ ในการสนับสนุนและเป็นพี่เลี้ยงให้กับคนที่มีเป้าหมายชีวิต เพื่อเศรษฐกิจพอเพียง ได้รับการฝึกปฏิบัติวิธีการสร้างแหล่งอาหาร เพื่อดูแลตนเองและครอบครัว จาก 100 คนแรกที่ผ่านการบ่มเพาะ จะออกไปแบ่งปันให้กับคนอื่นอีก 100 คน ก่อนที่จะขยายออกไปสู่อีก 100 ชุม ชนใกล้เคียง ด้วยโมเดลการพึ่งพาตนเองแบบนี้จะนำพา คนไทย 1 ล้านคนให้รอดพ้นจากความอดอยากที่เผชิญอยู่ได้ นอกจากนั้นเรายังพร้อมที่จะสนับสนุนที่ดินว่างเปล่าของครอบครัวเพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้ใช้เป็น ต้นทุนในการเรียนรู้และพัฒนา

ครอบครัวอยู่วิทยาขอร่วมเป็นหนึ่งในทีมประเทศไทย เพื่อขับเคลื่อนให้โครงการนี้เกิดเป็ นภาพใหญ่ที่ชัดเจน พวกเราทุกคนที่เป็นผู้ประกอบการยินดีที่จะช่วยประเทศอย่างเต็มที่ พวกเราพร้อมที่จะเดินเครื่องอย่างเต็มกำลังอีกครั้ง พร้อมที่จะจ้างคนเพิ่ม และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับคนไทย  ขอเพียงให้รัฐบาลช่วยพิจารณา กฎระเบียบวิธีการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งการที่องค์กรธุรกิจจะช่วยเหลือสังคม และประชาชนให้มีความยืดหยุ่นคล่องตัวมากขึ้น รวมถึงรัฐบาลอาจพิจารณาตั้งหน่วยงานกลางที่รวมศูนย์การบริหารในภาวะวิกฤตไิว้ใ้นหน่วยงานเดียว เพื่อคอยสนับสนนุและผลักดันให้ผู้ประกอบการได้ทำงานรวดเร็วขึ้น คล่องตัวขึ้น ช่วยขจัดอุป สรรคที่ไม่เอื้อต่อการก้าวไปข้างหน้าของประเทศ โดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดฝอยที่แผ่กิ่งก้านสาขาหล่อเลี้ยงคนใน ประเทศหลายล้านคนได้มีงานทำและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นนี่เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องการมากที่สุดในสถานการณท์ ที่ไม่ปกติเช่นนี้

และขอให้รัฐบาลได้โปรดพิจารณาบรรจุข้อเสนอแนะนี้เป็นวาระแห่งชาติ วาระที่จะยึดความมั่นคงของความเป็นมนษุย์เป็นตัวตั้งเพื่อยกระดับทุนมนษุย์ของเราให้สูงขึ้น ประกอบด้วย

1. การมีโรงงานผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มากพอ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประเทศไทยจะลดการพึ่งพาเวชภัณฑ์จากต่างชาติและหันมาส่งเสริมการผลิตในประเทศ ด้วยการสนับสนุนให้มีการตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทยให้มากขึ้น และมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนคนไทยจะมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้อย่างเพียงพอเมื่อถึงคราวที่จำเป็น

2. การจัดตั้งคลังอาหารและเวชภัณฑ์แห่งชาติ ด้วยโลกหลังโควิด-19 จะเปลี่ยนไป ความหวาดระแวงจะมีมากขึ้น ความวิตกกังวลจะเปลี่ยนเป็น ความรู้สึกไม่มั่นคงในชีวิต รัฐบาลควรที่จะสร้างความมั่นคงให้กับพี่น้องประชาชน ด้วยการจัดตั้งคลังอาหารและเวชภัณฑ์แห่งชาติ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าจะมีอาหารและเวชภัณฑ์ที่เพียงพอหากต้องต่อสู้กับวิกฤติใหม่ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต และเมื่อประชาชนมั่นใจการทำงานเพื่อพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าจะเป็นไปด้วยความสบายใจ และเต็มศักยภาพยิ่งขึ้น

3. การปลูกฝังการหาเลี้ยงชีพแบบพึ่งพาตนเอง ซึ่งไทยถือเป็นประเทศที่มีวินัยทางการเงินการคลังที่ดีเยี่ยมประเทศหนึ่ง ถึงกระนั้นในยามวิกฤติเมื่อ คนไม่มีเงิน ะซื้ออาหาร รัฐบาลก็อาจจะจุนเจือคนทั้งประเทศได้ไม่เพียงพอและทั่วถึง การสอนให้ทุกคนสามารถพึ่งพาตนเองได้ดูจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด เพราะประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นครัวของโลก เรามีแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์มากมาย แต่เราขาดการเรียนรู้เพื่อที่จะหามา ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะปลูกฝังเรื่องนี้ให้กับคนไทยตั้งแต่เล็กๆ

ครอบครัวอยู่วิทยาเชื่อว่าท่านในฐานะผู้นำจะสามารถพาประเทศให้ก้าวพ้นวิกฤติโควิด-19 ไปได้ และพวกเราในฐานะผู้ประกอบการและประชาชนคนไทยยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือประเทศของเราในครั้งนี้


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"