ติดเชื้อ‘ต่ำสิบ’ต่อเนื่อง! เหลือในรพ.แค่180ราย


เพิ่มเพื่อน    

 เลขตัวเดียวอีกแล้ว "ศบค." แถลงผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เลขคงที่ 6 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ยังเหลือรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพียง 180 คนเท่านั้น แต่ยังต้องเข้มข้นเฝ้าระวัง ยก "ฮอกไกโด" ยังต้องปิดเมืองหลังเจอระบาดรอบสอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผู้ติดเชื้อใหม่แค่หลักหน่วย 

    เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 2 พฤษภาคม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า วันนี้เป็นข่าวดี เรายังคงตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นวันนี้ 6 ราย โดย 6 รายดังกล่าวเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 2 ราย คือที่ จ.ภูเก็ตและ กทม. ที่มาจากการค้นหาเชิงรุกที่ จ.ภูเก็ต 2 ราย และอยู่ที่สถานกักกันตัวของรัฐใน กทม. 2 ราย ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่นและอินเดีย 
    ทำให้ขณะนี้มีผู้ป่วยสะสม 2,966 ราย หายป่วยแล้ว 2,732 ราย อยู่ระหว่างการรักษาในโรงพยาบาล 180 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังอยู่ที่ 54 ราย 
    นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ป่วยสะสม 3,401,002 ราย มีผู้เสียชีวิต 239,602 ราย มีผู้หายป่วยแล้ว 1,081,005 ราย หรือคิดเป็น 1 ใน 3 และสถานการณ์โลกที่น่าสนใจวันนี้คือเมืองฮอกไกโด มีการประกาศปิดเมืองหลังเจอการระบาดรอบที่สอง ซึ่งก่อนหน้านี้ในเดือน มี.ค.ผู้ติดเชื้อรายใหม่ของเขาลดลงเหลือเพียงหลักหน่วย และมีการประกาศคลายล็อก ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าเขาคลายล็อกเร็วเกินไปหรือไม่ ซึ่งกรณีของเมืองฮอกไกโดคล้ายคลึงกับของไทย เมื่อมีผู้ป่วยน้อยก็เริ่มผ่อนคลาย ซึ่งของเราก็ต้องดูกันต่อไป 
    สำหรับผู้เดินทางกลับประเทศไทยทางเครื่องบิน ยอดรวมระหว่างวันที่ 4 เมย.-1 พ.ค. มีทั้งสิ้น 3,584 คน จาก 24 ประเทศ โดยวันที่ 2 พ.ค. จะมีผู้เดินทางกลับจากประเทศคาซัคสถาน 55 คน, เนเธอร์แลนด์ 50 คน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 129 คน วันที่ 3 พ.ค.จะมีผู้เดินทางกลับจากสเปน 45 คน สิงคโปร์ 175 คน และรัสเซียอยู่ระหว่างการยืนยัน 70 คน 
    โฆษก ศบค.กล่าวว่า สำหรับผู้ฝ่าฝืนมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว ระหว่างคืนวันที่ 1 พ.ค. ต่อเนื่องเช้าวันที่ 2 พ.ค. มีผู้ออกนอกเคหสถาน 550 คน น้อยกว่าคืนก่อน 57 คน มีผู้ชุมนุมมั่วสุม 75 คน น้อยกว่าคืนก่อน 79 คน โดยสาเหตุมากที่สุดของการชุมนุมมั่วสุมคือเล่นการพนัน 41 เปอร์เซ็นต์ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 39 เปอร์เซ็นต์ และยาเสพติด 20 เปอร์เซ็นต์ 
    อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เราเข้าสู่ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านจากที่มีมาตรการเข้ม แต่ตอนนี้เราผ่อนคลายขึ้นมา เพราะมีผลกระทบกับประชาชนที่ทำมาหากิน แต่เรายังมีโรคระบาดอยู่ เราจึงต้องยึดหลักการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และขอให้มาตรการเหล่านี้ทำให้ประชาชนดำรงชีวิตได้อย่างปลอดภัยภายใต้หลักเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งสองอย่างนี้ต้องทำให้สมดุล 
    และอยากฝากที่สำคัญที่สุดคือ ขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยให้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และเพิ่มระยะห่างระหว่างกัน เพราะจากที่เห็นการเข้าคิวต่างๆ ประชาชนยังอยู่ใกล้ชิดกันเกินไป ถ้าอยากปลอดภัยเพิ่มระยะห่าง แล้วใส่หน้ากากเพื่อลดโรค 
    จากนั้น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฝากชื่นชมความร่วมมือของพี่น้องประชาชน ที่ทำให้เราสามารถมาถึงตัวเลขหลักเดียวได้ ทั้งนี้ ข้อกำหนดต่างๆ ที่ได้ออกมาโดยหลักการพิจารณาข้อมูลของ ศบค. พิจารณาผลกระทบและปัจจัยด้านสาธารณสุขเป็นหลัก ส่วนปัจจัยด้านสังคมและเศรษฐกิจเป็นปัจจัยถัดมา 
    โดยแนวทางที่นายกฯ มอบให้ ศบค.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปปฏิบัติในการกำหนดมาตรการ คือจะต้องมีมาตรฐานกลางจาก ศบค. และที่จะออกเป็นแนวปฏิบัติในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถที่จะเข้มข้นกว่ามาตรฐานกลางได้ แต่เข้มข้นน้อยกว่าไม่ได้ และนายกฯ กำชับให้มีการควบคุม 3 ระดับด้วยกันคือ ระดับที่ 1 จากส่วนกลางคือ ศบค., ระดับที่ 2 ส่วนการประเมินที่จะต้องมีการสุ่มตรวจว่าปฏิบัติตามที่กำหนดไว้หรือไม่ และระดับที่ 3 การควบคุมระดับพื้นที่ต้องกำหนดแนวปฏิบัติชัดเจน เพื่อผู้ประกอบการและประชาชนจะได้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง.


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"