'บิ๊กตู่' ไม่วางใจพิษ ศก.โควิด เดินสายฟังภาคธุรกิจรอบด้าน


เพิ่มเพื่อน    

       หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ของประเทศไทยอยู่ในหลักต่ำสิบติดต่อกันหลายวัน  กระทั่งนำไปสู่การตัดสินใจของ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา  2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ในการคลายล็อก 6 กิจการและกิจกรรม เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา

            โดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำมาค้าขายของประชาชนทั้งสิ้น แต่ทั้งหมดนี้ยังต้องอยู่ภายใต้หลักการ สาธารณสุข นำเศรษฐกิจและสังคม

            อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่  บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.ยังสั่งให้เข้มงวดและให้คง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ต่อไป

            โดยงานด้านสาธารณสุข "บิ๊กตู่" ยังคงมี ทีมนักรบเสื้อกาวน์ ซึ่งเป็นคุณหมอที่มีความสามารถ จนทำให้วางใจได้ว่าเราจะสามารถฝ่าวิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน

            แต่ขณะเดียวกัน การฝ่าวิกฤติในครั้งนี้ไม่ใช่มีเพียงปราบไวรัสร้ายนี้ให้หมดไป แต่ได้เกิดปัญหาคู่ขนานที่ส่งผลกระทบตามมาติดๆ ในเวลานี้ จน "บิ๊กตู่" ต้องเร่งเครื่องแก้ไขโดยด่วน คือเรื่อง เศรษฐกิจ ที่เป็นอีกข้อกังวลใจสำคัญ

            โดยก่อนหน้านี้ บิ๊กตู่ ได้ร่อนจดหมายเปิดผนึกถึงมหาเศรษฐีของเมืองไทย 20 คน เพื่อขอให้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชน โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้ ซึ่งบรรดามหาเศรษฐีต่างทยอยตอบรับร่วมมือกับรัฐบาลมาแล้ว

            และล่าสุด บิ๊กตู่ ได้เดินสายพบตัวแทนภาคธุรกิจด้วยตัวเอง เพื่อรับฟังสถานการณ์ความเดือดร้อนจากผลกระทบโควิด-19 และรับฟังข้อเสนอแนะ รวมถึงสิ่งที่ภาคธุรกิจต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ

            โดยเมื่อวันที่ 30 เม.ย. บิ๊กตู่ ได้ไปพบกับสมาคมภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กในกลุ่มแรก คือ สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว โดยได้พูดคุยกับนายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมฯ และทีมคณะกรรมการ อาทิ นายไพรัตน์ ห่านศรีสุข, นายสุรวัช อัครวรมาศ, นางพรทิพย์ หิรัญเหตุ, นางมิ่งขวัญ  เมธเมาลี และ ดร.สุมาลี ว่องเจริญกุล ซึ่งแต่ละคนมีตำแหน่งและบทบาทสำคัญในภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยเป็นอย่างมาก

            โดยการไปสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยวเพื่อรับฟังในครั้งนี้ ทำให้สมาคมฯ ที่เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการและแรงงานในภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ที่เรียกว่าได้รับผลกระทบหนักพอสมควรจากสถานการณ์นี้ต่างซาบซึ้งและปลื้มใจในการมาของนายกฯ ที่ถือเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยว ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้

            ขณะที่ล่าสุดเมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ วันที่ 3 พ.ค.ในช่วงบ่าย บิ๊กตู่ ยังเดินสายพบกับ สมาคมผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินไทย ซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ โดยพบกับ  นายกิตติศักดิ์ อุดมแดงอร่าม นายกสมาคมฯ และทีมคณะกรรมการ ได้แก่ นายเธียรพันธุ์ บุญทรงษีกุล, ดร.บุญกิต จิตรงามปลั่ง, นายวีระศักดิ์ เลอวิศิษฎ์ และ นายปิยพร อินทรประเสริฐ เพื่อรับฟังปัญหาของภาคธุรกิจนี้

            จากนั้นได้เดินสายต่อไปพบปะกับ สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย โดยได้หารือกับนายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ นายกสมาคมฯ และคณะกรรมการ ได้แก่ นายสุชาติ จันทรานาคราช, นายสุกิจ  คงปิยาจารย์ และนายธีระ ธนะกาญจนสุทธิ์ ถึงผลกระทบของโควิด-19 กับอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม

            ทั้งนี้ การรับฟังทั้งปัญหาความเดือดร้อนและรับข้อเสนอแนะต่างๆ จากตัวแทนภาคธุรกิจในครั้งนี้  ทำให้รัฐบาลได้รับฟังข้อมูลที่หลากหลาย เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาในทุกมุมมอง และจะนำไปสู่การฟื้นฟูได้อย่างตรงจุด

            ซึ่งนั่นจะมีผลต่อการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของไทยต่อไป ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 สิ้นสุดลง และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคธุรกิจของไทยด้วยว่า รัฐบาลประยุทธ์ ไม่ได้ทอดทิ้งภาคธุรกิจต่างๆ ที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ

            ส่วนต่อจากนี้ไป "บิ๊กตู่" จะจัดคิวลงพบภาคส่วนใด คงต้องรอดูกัน. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"