‘ทรัมป์’เปรียบโควิดโจมตี หนักกว่าอ่าวเพิร์ล-11กย.


เพิ่มเพื่อน    

  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปรียบเทียบโรคระบาดโควิด-19 เป็นการ "โจมตี" สหรัฐอเมริกาที่เลวร้ายกว่าเหตุการณ์เพิร์ลฮาร์เบอร์และวินาศกรรม 11 กันยา ระบุจีนควรหยุดไวรัสได้ตั้งแต่ต้นตอ โฆษกจีนย้อนควรเลิกโทษจีนแล้วหันไปต่อสู้กับไวรัสที่เป็นศัตรูตัวจริง ขณะอดีตผู้อำนวยการซีดีซีคาดอเมริกันสังเวยทะลุ 1 แสนศพภายในเดือนนี้ 

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม 2563 กล่าวว่า ช่วงหลายสัปดาห์มานี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา และเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลของเขากล่าวโจมตีจีนบ่อยครั้ง และข่มขู่จะทำให้จีนรับผิดชอบในการเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไปทั่วโลก คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 260,000 คน จากผู้ติดเชื้อ 3.7 ล้านคน โดยสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่สถานการณ์หนักที่สุด 
    "มันไม่ควรเกิดขึ้นเลย" ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวถึงโรคระบาดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่พบครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่นของจีนเมื่อปลายปีที่แล้ว เขายังบอกกับด้วยว่าโรคนี้ควรหยุดได้ตั้งแต่ในจีน ต้นกำเนิดของไวรัส 
    "นี่เป็นการโจมตีครั้งเลวร้ายที่สุดที่เราเคยเจอ เลวร้ายกว่าเพิร์ลฮาร์เบอร์ เลวร้ายกว่าเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์" ทรัมป์บอกกับนักข่าวเมื่อวันพุธ
    การโจมตีของกองทัพญี่ปุ่นต่อฐานทัพเรือสหรัฐอเมริกาที่อ่าวเพิร์ลในรัฐฮาวายดึงสหรัฐอเมริกาให้กระโจนเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่วนการก่อวินาศกรรมวันที่ 11 กันยายน 2544 โดยกลุ่มอัลกออิดะห์ ซึ่งรวมถึงการขับเครื่องบิน 2 ลำพุ่งชนตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ คร่าชีวิตคนราว 3,000  คน จุดชนวนสงครามอัฟกานิสถานและอิรักที่ยืดเยื้อนาน 2 ทศวรรษ
    คำกล่าวของผู้นำสหรัฐอเมริกาทำให้รัฐบาลจีนตอบโต้อย่างเผ็ดร้อนตามเคย หัว ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวระหว่างการแถลงข่าวประจำวันที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สหรัฐอเมริกากำลังพยายามป้ายความผิดให้ประเทศอื่น ทั้งที่ควรต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับจีน ไม่ใช่ถือว่าจีนเป็นศัตรู
    "เราเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาหยุดป้ายความผิดให้จีนแล้วดูที่ข้อเท็จจริง" โฆษกหญิงของจีนกล่าว  "พวกเขาอาจบอกว่าโรคระบาดนี้เปรียบได้กับเพิร์ลฮาร์เบอร์หรือ 9/11 แต่ศัตรูที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่คือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่" 
    ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ช่วงค่ำวันพฤหัสบดีระบุว่า สหรัฐอเมริกามีผู้ป่วยโควิด-19  เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 73,430 ราย โดยมีคนเสียชีวิตเพิ่มรายวันอีก 2,073 รายเมื่อวันพุธ ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมมีมากกว่า 1,228,000 ราย 
    อย่างไรก็ดี เอเอฟพีอ้างคำกล่าวของทอม ฟรีเดน อดีตผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อแห่งสหรัฐ (ซีดีซี) ที่ให้การต่อสภาคองเกรสว่า จำนวนผู้เสียชีวิตเพราะโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาอาจสูงถึง 100,000 คนภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ "จนกว่าเราจะมีวัคซีนที่มีประสิทธิผล หรือเว้นแต่จะมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ไวรัสศัตรูของเราจะอยู่กับเราไปอีกนานหลายเดือนหรือหลายปี" เขากล่าว
    ด้านสถานการณ์ในยุโรป จำนวนผู้เสียชีวิตของประเทศในทวีปนี้รวมกันถึงวันพฤหัสบดีเพิ่มเป็นมากกว่า 150,000 รายแล้ว ส่วนใหญ่อยู่ในอังกฤษ (30,150 ราย), อิตาลี (29,684 ราย), สเปน (25,857  ราย) และฝรั่งเศส (25,812 ราย) โดยมีผู้ติดเชื้อรวมกันมากกว่า 1.64 ล้านราย
    ที่น่าจับตาคือสถานการณ์ในรัสเซีย ซึ่งเมื่อวันพฤหัสบดีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ใน 24 ชั่วโมง เพิ่มเป็นสถิติสูงสุดอีกที่ 11,231 ราย ทำให้จำนวนรวมเป็น 177,160 ราย มากเป็นอันดับ 5 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา, สเปน (220,325 ราย), อิตาลี (214,457 ราย), สหราชอาณาจักร (202,359 ราย)  และมากกว่าฝรั่งเศส (174,224 ราย) และเยอรมนี (168,162 ราย) รัสเซียมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 88 คน  ยอดรวมเป็น 1,625 คนซึ่งนับว่ายังต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นที่มีผู้ติดเชื้อใกล้เคียงกัน
    ทางการรัสเซียอ้างจำนวนผู้เสียชีวิตที่น้อยเป็นเพราะการแพร่ระบาดในรัสเซียเกิดช้ากว่าประเทศอื่นๆ ทำให้รัสเซียเตรียมการป้องกันได้ ส่วนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นหลายวันมานี้เป็นเพราะมีการตรวจเชื้อเพิ่มขึ้น ถึงขณะนี้รัสเซียตรวจเชื้อแล้วมากกว่า 4.8 ล้านคน
    ในกลุ่มอาเซียน เมื่อวันพฤหัสบดีสิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 741 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงานข้ามชาติ มี 5 คนเป็นผู้ที่มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศ ยอดติดเชื้อสะสมของสิงคโปร์เพิ่มเป็น 20,939 ราย  เสียชีวิต 20 ราย, ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 339 คน เสียชีวิตเพิ่ม 27 คน ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มเป็น 10,343 คน เสียชีวิตรวม 685 คน, อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 338 คน เสียชีวิตอีก 35  คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 12,776 คน ส่วนผู้เสียชีวิต 930 คน มากที่สุดในอาเซียน และมาเลเซีย รายงานว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 39 คน ยอดติดเชื้อสะสม 6,467 คน ยอดเสียชีวิตเท่าเดิม 107 คน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"