ทร.แจงขอใช้พื้นที่ป่าตั้งระบบป้องกันภัยแค่ต่ออายุสัญญาเดิมสิ้นสุด


เพิ่มเพื่อน    

10 พ.ค.63-พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ( เสธ.ทร.) และ โฆษก ทร. ชี้แจงกรณีปรากฏข่าวสารการนำเอกสารของกองทัพเรือที่เสนอผ่านกรมป่าไม้มาเผยแพร่ทางสื่อสาธารณะว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ เกี่ยวกับที่ตั้งทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีทางทหาร และบัญชีพิกัดเป้าหมายสำคัญทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติต่อการถูกโจมตีเป็นอันดับแรกเมื่อเกิดความไม่สงบ จากการที่มีบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้รับทราบ รับรู้ความเข้าใจอย่างครบถ้วน ต่อแนวนโยบายการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี หรือแนวนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของชาติ แล้วนำมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างนั้น อย่างนี้ บนหน้าหนังสือพิมพ์รายวันนั้น เป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อการละเมิด หรือการเปิดเผยความลับของทางราชการ เป็นอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ดี กองทัพเรือขอขอบคุณสำหรับข้อห่วงใยที่ฝ่ายต่างๆ นำเสนอไว้ในข่าว แต่ ขอให้มั่นใจว่า ทร.เป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ระหว่าง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะขอดำเนินการใดๆที่ขัดแย้งต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ. ซึ่งมีทั้งบนบกและในทะเลที่กองทัพเรือได้ให้ความช่วยเหลือและร่วมมือกับกรมป่าไม้ มาเป็นอย่างดีและต่อเนื่องมาโดยตลอด อาทิ การที่ทร.ได้จัดกำลังพล ยุทโธปกรณ์โดยเฉพาะเรือรบ อากาศยาน อุปกรณ์สื่อสารบนบก และในทะเล ระยะไกล การได้รับการมอบหมายให้เป็นเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนงบประมาณของ ทร. เพื่อใช้ในการดำเนินงานอนุรักษ์ป่าไม้

พล.ร.ท.ประชาชาติ กล่าวว่า  ความร่วมมืออื่นที่ทร.เข้าดำเนินการ กับกรมป่าไม้มาอย่างแน่นแฟ้น ดังที่ปรากฎทางข่าวสารตลอดในหลายสิบปีที่ผ่านมา ได้แก่การป้องกันและปราบปรามการบุกรุก ทำลายทรัพยากรป่าไม้ทั้งบนบก ตามแนวชายฝั่ง และบนเกาะในทะเล การป้องกันและบรรเทาพิบัติภัยธรรมชาติ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ การป้องกันและควบคุมไฟป่า ตั้งแต่การใช้อากาศยานของกองทัพเรือแบบ CL -215 บุกเบิกการดับไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มาอย่างได้ผลดียิ่งมาแต่อดีต จนถึงปัจจุบันที่ได้นำ เฮลิคอปเตอร์แบบ Sea Hawk มาใช้แทนในปัจจุบัน

“กองทัพเรือ ขอเรียนย้ำให้ทราบว่าที่มีหนังสือไปตามข่าวที่ปรากฎนั้น ก็เพราะที่เคยขอใช้ประโยชน์พื้นที่ฯไว้เดิมจะหมดอายุ ซึ่งก็เป็นการดำเนินการทางธุรการในการขอใช้ประโยชน์ตามที่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาล มาแต่อดีต จึงไม่ใช่จะนำมาปกป้อง EEC เพราะต่อให้ไม่มี EEC กองทัพเรือ ก็ต้องมีหน่วยป้องกันสนามบินอู่ตะเภาซึ่งเป็นสนามบินของ ทร. เหมือนกับ ทอ. ที่ต้องมีหน่วยทหารต่อสู้อากาศยานป้องกันสนามบินต่างๆ”

โฆษก ทร. กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมา ทร.ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่ป่า นี้มา30 ปี แล้ว ในการซ่อนพรางหน่วย ซ่อนพรางยุทโธปกรณ์ และเป็นพื้นที่ฝึกป้องกันภัยทางอากาศ ให้แก่สนามบินอู่ตะเภา และในส่วนที่ขอเพิ่มนั้น เนื่องจากความจำเป็นด้านนิรภัยการบิน ในการก่อสร้าง รันเวย์ หมายเลข 2 ของสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งสัมพันธ์กับความสูงและเนื้อที่ขอบเขตของเขาโกรกตะแบก ซึ่งตั้งประชิดอยู่บริเวณหัวรันเวย์ ด้วยขอเท็จจริงตามเหตุผลที่ได้ชี้แจงมาแล้วข้างต้น

“กองทัพเรือใคร่ขอให้การเสนอข่าว หรือให้ความคิดเห็นของทุกฝ่าย ที่ปรารถนาดี และโดยเฉพาะประชาชนทั่วไปให้กรุณารับฟังจากผลการพิจารณา ตามกระบวนการของทางราชการ ซึ่งจะประกอบไปด้วยหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง และคณะทำงานที่สามารถเข้าถึงข้อมูลด้านความมั่นคง และนโยบายของรัฐบาลที่เป็นชั้นความลับ ไม่สมควรนำมาวิพากษ์วิจารณ์กันบนสื่อสาธารณะ จนอาจเกิดการละเมิด หรือส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งนี้ ผลการปฏิบัติหน้าที่ของ ทร. ที่ผ่านมาได้ยึดมั่นต่อการดำเนินการเพื่อประเทศชาติและประชาชน ยืนเคียงข้างประชาชนมาเช่นไร ปัจจุบันและอนาคตก็จะเป็นเช่นนั้นให้สมกับอุดมการณ์ของกำลังพล ทร. ยึดถือเสมอมา คือ กองทัพเรือเป็นกองทัพที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ”


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"