สยบข่าวปรับครม. ยังวุ่นแก้ไขโควิด พท.ยุสู้นอกกติกา


เพิ่มเพื่อน    

 “บิ๊กตู่” ยังไม่มีแนวคิดปรับ ครม. เพราะยังวุ่นแก้ปัญหาโควิด-19 อยู่ อึ้ง! “นคร มาฉิม” บอกให้อดทน เมื่อเวลาสุกงอมให้ใช้วิธีเยี่ยงโจรเยี่ยงกบฏทวงคืนอำนาจ “จตุพร” แนะเลิก  พ.ร.ก.ก่อนกลายเป็นพฤษภาทมิฬรอบสอง 

    เมื่อวันจันทร์ที่ 18 พ.ค. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ได้ปรารภเรื่องดังกล่าว ไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย ซึ่งการปรับ ครม. อำนาจอยู่ที่ตัวนายกฯ หากจะตัดสินใจ ต้องเป็นนายกฯ ช่วงเวลานี้คุยกันแต่เรื่องงานการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนเท่านั้น 
    เมื่อถามว่ามีกระแสชื่อนางนฤมลเป็น รมช.การคลัง นางนฤมลกล่าวแบบเขินๆ ว่า "ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลย" 
    ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งภายในพรรค พปชร.ว่า ไม่มีอะไรเลย สื่อว่ากันไปเองทั้งนั้น พร้อมกับปฏิเสธตอบคำถามพร้อมขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเอง โดยขึ้นรถและเดินทางกลับในทันที
    นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และกรรมการบริหาร พปชร. กล่าวในเรื่องนี้ว่า เวลานี้ยังไม่เหมาะที่จะมาพูดถึงเรื่องพรรค ไม่ควรพูดอะไร ส่วนความเคลื่อนไหวกลุ่มต่างๆ ในพรรคก็ไม่ทราบและไม่ได้ติดตาม รวมทั้งกระแสข่าวให้ พล.อ.ประวิตรมาเป็นหัวหน้าพรรคก็ไม่ทราบ และไม่กล้าออกความเห็น เพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดเรื่องนี้
    “ที่บอกว่ามีกระแสข่าวเกี่ยวกับกลุ่มสามมิตรที่เคลื่อนไหวเรื่องนี้ จะไปสามมิตรอะไรล่ะ นี่สามมิตรก็ตายไปคนหนึ่งแล้วไง (นายภิรมย์ พลวิเศษ)" นายสมศักดิ์และตอบคำถามว่าหากสถานการณ์โควิดคลี่คลายลงไปแล้ว มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ ว่าค่อยว่ากันอีกครั้งหนึ่ง
    สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองเนื่องในวันครบรอบรัฐประหาร 22 พ.ค. ที่อาจเชื่อมโยงกับการยิงเลเซอร์ตามความความจริงในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 นั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน และไม่จำเป็นต้องจับตาอะไรเป็นพิเศษ เราก็ทำทุกอย่างตามปกติ เพราะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกันดูแลมาตลอด และมีขั้นตอนในการรักษาความสงบอยู่แล้ว
    เมื่อถามว่า การออกมาเคลื่อนไหวในเชิงสัญลักษณ์ทำได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ว่าเคลื่อนไหวเป็นสัญลักษณ์แบบไหน เพราะหากเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์แบบไม่ผิดกฎหมายก็สามารถทำได้ ถ้าผิดกฎหมายก็ทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นคนที่จะทำต้องศึกษากฎหมายว่าทำได้หรือไม่
    ขณะที่นายนคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า หากต้องการเปลี่ยนแปลงให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง พรรคฝ่ายค้านและนักเรียน นิสิต นักศึกษา ปัญญาชนฝ่ายประชาธิปไตยต้องไม่คาดหวังอะไรกับการแย่งชิงผลประโยชน์และตำแหน่งของพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการ ฝ่ายประชาธิปไตยต้องอดทน ใช้ความจริง ขยายเครือข่าย ให้คนส่วนใหญ่รู้เท่าทันกลเกมแห่งอำนาจ การโกหก หลอกลวงที่รัฐบาลเผด็จการซ่อนรูปนี้ครอบงำไว้ เมื่อสถานการณ์สุกงอมจึงลุกขึ้นสู้ และการต่อสู้นั้น เมื่อจำเป็นก็จะต้องสู้นอกกรอบ นอกกฎ กติกาของโจรกบฏ จึงจะชนะนำเอาความเป็นธรรม นำเอาสิทธิ เสรีภาพความเสมอภาคและประชาธิปไตยที่แท้จริงมาได้
    ขณะที่เพจเฟซบุ๊กคณะก้าวหน้าโพสต์ข้อความในหัวข้อ "หนังม้วนเดิมที่ตอนจบจะต้องไม่เป็นแบบเดิม" ว่าเมื่อเปรียบเทียบการรัฐประหาร 23 ก.พ.2534 กับการรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 นั้นมีลักษณะการสืบทอดอำนาจโดยใช้วิธีการคล้ายคลึงกันอยู่หลายประการ คือ 1.ร่างรัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหาไม่เป็นประชาธิปไตย เอื้อให้สืบทอดอำนาจได้โดยง่าย และร่างโดยคนเดียวกันคือนายมีชัย ฤชุพันธุ์ 2.มีการตั้งพรรคการเมืองที่มุ่งสืบทอดอำนาจให้คณะรัฐประหาร 22 มี.ค. มีพรรคสามัคคีธรรม ส่วนในการเลือกตั้ง 24 มี.ค. มีพรรคพลังประชารัฐ และ 3.มีนักการเมืองและพรรคการเมืองให้ร่วมเป็นนั่งร้านให้เผด็จการเพียงเพราะต้องการได้อำนาจและผลประโยชน์ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล
    นอกจากโพสต์ข้อความแล้วยังมีคลิปวิดีโอประมาณกว่า 4 นาที ฉายภาพของเหตุการณ์รัฐประหารของ รสช.ในปี 2534 และจบด้วยโศกนาฏกรรมเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 บรรยายโดยนายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ที่ได้หยิบยกเหตุการณ์ดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับการรัฐประหารของ คสช. ในปี 2557 พร้อมเตือนให้รัฐบาลทำรัฐธรรมนูญฉบับให้เป็นประชาธิปไตย จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนปี 2535 ก่อนทิ้งท้ายว่าหนังม้วนเก่าจะได้ไม่จบเหมือนเดิมอีก
    วันเดียวกัน กรณีการเรียกร้องให้ยกเลิกพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น นางนฤมลกล่าวว่า นายกฯ มอบหมายให้ชี้แจงไปแล้ว ซึ่งที่ผ่านมามีการพิจารณาสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดย ศบค.มีการตัดสินใจผ่อนปรนเป็นขั้นตอน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีการวิเคราะห์ในทุกมิติ ทั้งด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม หากรัฐบาลปลดล็อกทันทีแบบปล่อยหมดเหมือนบางประเทศ จะส่งผลให้มีการระบาดในระลอกสอง ดังนั้นจึงค่อยๆ พิจารณาข้อมูลและค่อยๆ ผ่อนคลาย
    นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรค พท. กล่าวว่า รัฐบาลจะเอาตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นศูนย์ หรือจำนวนหลักหน่วยต่อวัน มาขังคนไทยทั้ง 66 ล้านคนไม่ได้ รัฐบาลไม่ควรขู่ประชาชน ว่าจะมีการระบาดรอบที่ 2 แต่ควรสร้างความเชื่อมั่นว่าแม้จะมีการระบาดกี่รอบ รัฐบาลพร้อมร่วมมือกับประชาชนในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้
    นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขอร้องให้นายกฯ กลับไปถามหมอทางด้านระบาดวิทยา ไม่ใช่หมอด้านจิตวิทยา ให้ชัดเจนว่ามาตรการต่างๆ ที่ใช้อยู่ในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นการทยอยคลายล็อก การตรวจเชิงรุก เพียงพอแล้วหรือไม่ที่จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะในทางปฏิบัติ แต่ละจังหวัดสามารถใช้อำนาจ พ.ร.บ.ควบคุมโรคจัดการไปตามสถานการณ์ได้ 
    นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ PEACE TALK ตอนหนึ่งว่า การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นการเริ่มต้นของการพลิกฟื้น เพราะม็อบที่น่ากลัวคือม็อบไร้แกนนำปี 2535 ไม่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่ปีนี้อีก 1-2 เดือนก็รู้ชะตากันแล้วว่าอะไรรออยู่ และจะเอาไม่อยู่ ที่นำเสนอทั้งหมดไม่ได้เสนอเพื่อล้ม แต่ไม่ต้องการให้ใครต้องบาดเจ็บล้มตายกันอีก และไม่ต้องการให้พฤษภาทมิฬรอบสองเกิดขึ้นมาอีก เพราะรู้ว่ามันจะแรงกว่ารอบที่หนึ่ง เพราะรอบที่หนึ่งไม่มีปัญหาเศรษฐกิจ แต่รอบนี้มาพร้อมปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง.
    


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"