'ทรัมป์'จัดยาต้านมาลาเรียกินเอง ไม่สนคำเตือนหน่วยงานรัฐ


เพิ่มเพื่อน    

ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ หลุดปากกับสื่อว่าตัวเขากินยาต้านมาลาเรีย "ไฮดรอกซีคลอโรควิน" ติดต่อกันมานานกว่าสัปดาห์แล้ว อ้างผลคำพูดของบุคคลที่ไม่เผยชื่อเสียงเรียงนามว่าป้องกันไวรัสโคโรนาได้ ทั้งที่ผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลแนะว่าไม่ควรนำมาใช้รักษาโควิด-19

แฟ้มภาพ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เยี่ยมโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยที่รัฐแอริโซนา เมื่อวันที่ 5 พฤษภคม 2563

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันอังคารที่ 19 พฤษภาคม กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วัย 73 ปี หลุดปากบอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างการประชุมที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ ว่าเขากินยาไฮดรอกซีคลอโรควินติดต่อกันทุกวันมานานประมาณ 1 สัปดาห์ครึ่งแล้ว เพื่อป้องกันไว้ก่อน ถึงแม้ว่าผลการตรวจร่างกายเขาจะไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ก็ตาม

    "ผมกิน 1 เม็ดทุกวัน" ทรัมป์กล่าว โดยบอกว่า เขากินยานี้ปนกับธาตุสังกะสี และเมื่อถูกซักถึงเหตุผล ทรัมป์ตอบว่า "เพราะผมคิดว่ามันดี ผมได้ยินเรื่องราวดีๆ มาเยอะ"

    ผู้นำสหรัฐกล่าวกับนักข่าวว่า พวกเขาจะประหลาดใจหากได้รู้ว่ามีคนจำนวนมากมายแค่ไหนที่กินยาตัวนี้ โดยเฉพาะพวกบุคลากรที่ทำงานแนวหน้า

    ทรัมป์แสดงความกระตือรือร้นสนใจสนับสนุนการใช้ยาต้านมาลาเรียชนิดนี้มานานหลายสัปดาห์แล้ว ทั้งที่แพทย์หลายคนเชื่อว่ามันใช้ไม่ได้ผลกับคนไข้ที่ติดไวรัสโคโรนา และหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลสหรัฐเองยังเตือนว่ามัน "ไม่ได้แสดงว่าปลอดภัย"

    นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวกับรายการ "แอนเดอร์สัน คูเปอร์ 360" ของสถานีซีเอ็นเอ็นว่า ทรัมป์ไม่ควรกินอะไรที่นักวิทยาศาสตร์ไม่อนุมัติ โดยเฉพาะคนในวัยนี้และมีน้ำหนักเกิน และเธอเห็นว่า "ไม่ใช่ความคิดที่ดี" ที่กินยานี้แล้วคิดว่ามันรักษาการติดเชื้อไวรัสโคโรนาได้

    ส.ว.ชัค ชูเมอร์ ผู้นำ ส.ว.เสียงข้างน้อย กล่าวกับเอ็มเอสเอ็นบีซีว่า การตัดสินใจของทรัมป์เป็นความ "สะเพร่า" มันให้ความหวังผิดๆ แก่ผู้คน ทำให้พวกเขาไม่สนใจการรักษาทางการแพทย์ที่แท้จริง เป็นการสร้างปัญหายุ่งยาก และเป็นเรื่องอันตราย

    ทรัมป์ดูเบาอันตรายของไวรัสโคโรนาอยู่บ่อยครั้ง สัปดาห์ที่แล้วเขาเพิ่งกล่าวว่า โรคระบาดที่คร่าชีวิตผู้ป่วยในสหรัฐแล้วมากกว่า 90,000 รายจากผู้ติดเชื้อ 1.5 ล้านราย เป็นภัยคุกคามคนแค่กลุ่มเล็กๆ เท่านั้น เขายังไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัย ทั้งที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางออกคำแนะนำให้ชาวอเมริกันสวมหน้ากากหรือใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก และคณะทำงานของเขาส่วนใหญ่ก็สวมหน้ากากเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ

    เมื่อต้นเดือนนี้ ทหารรับใช้ส่วนตัวของทรัมป์นายหนึ่งถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา และยังมีเลขานุการฝ่ายสื่อของรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ อีกรายที่ติดไวรัสด้วย

    ทรัมป์กล่าวว่า ชอน คอนลีย์ นายแพทย์ประจำทำเนียบขาว อนุญาตให้เขากินยานี้ได้ แต่ทรัมป์ยืนกรานว่าเขาเป็นผู้ขอกับนายแพทย์ผู้นี้เองว่าเขาจะกินมัน "ผมถามเขา 'หมอคิดว่ายังไง' เขาตอบว่า 'ถ้าท่านอยากกินก็ได้' ผมบอกว่า ใช่ผมอยากกิน"

    ต่อมา นายแพทย์คอนลีย์ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า เขาเห็นชอบที่ทรัมป์กินยาต้านไวรัส หลังจากพวกเขาได้หารือกันมากมายเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสีย จนได้ข้อสรุปว่า มันอาจมีประโยชน์ในการรักษามากกว่าความเสี่ยงข้างเคียง

    ทรัมป์กล่าวว่า เขาได้รับโทรศัพท์จากหลายคนที่เขาไม่ระบุชื่อ ซึ่งพูดในเชิงบวกเกี่ยวกับยาต้านมาลาเรียตัวนี้ เขายังอ้างถึงจดหมายที่ได้รับจากแพทย์ชาวนิวยอร์กผู้หนึ่งที่ไม่ระบุชื่อเช่นกัน ซึ่งรายงานว่าใช้ยานี้รักษาคนไข้หลายร้อยคนและไม่มีคนไข้ตายแม้แต่รายเดียว

    คำโฆษณาของทรัมป์ขัดแย้งกับคำแนะนำของคณะกรรมการอาหารและยาของรัฐบาลสหรัฐ ที่เตือนเรื่องการใช้ไฮดรอซีคลอโรควิน ไม่ว่าเพื่อการป้องกันหรือรักษาไวรัสโคโรนา โดยระบุถึงผลข้างเคียงของยา เช่น ก่อปัญหาจังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติร้ายแรงในผู้ป่วยโควิด-19 หลายราย และอนุญาตชั่วคราวให้ใช้ยานี้เฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"