โลกที่เราแทบไม่รู้จัก


เพิ่มเพื่อน    

                                                           (1)

        ด้วยเหตุเพราะคุ้นเคย คุ้นชิน กับการดำรงตนเป็นพวก ลัดไดท์ (Luddite) มาโดยตลอด หรือพวกที่ไม่เอาอ่าว ไม่คิดจะเอาเทคโนโลยีใดๆ ก็ตาม ที่มันออกจะซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ เกินกว่าที่จะเป็น เครื่องมือ หรือ อุปกรณ์ ตามปกติธรรมดาโดยทั่วไป ยิ่งนานวัน...โลกใบนี้ จึงกลายเป็นโลกที่ตัวเรายิ่งแทบไม่รู้จักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...

                                                       (2)

        คือเอาแค่เทคโนโลยีประเภท โทรศัพท์มือถือ เท่านั้น...ทุกวันนี้ อันตัวข้าพเจ้าเอง ยังคงต้องประพฤติ ปฏิบัติ ตามแบบฉบับ ตามแนวทาง ของท่านอดีตอธิบดีกรมศิลปากร ผู้มีนามกรว่าคุณพี่ สด แดงเอียด อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ คือเวลาจะ โทร.ออก ไปหาใครต่อใคร หนีไม่พ้นต้องควัก สมุดโทรศัพท์ เล่มจิ๋ว มาสำรวจรายชื่อและเลขหมาย ก่อนที่จะกดปุ่มโน้น ปุ่มนี้ ไปตามเรื่อง ตามราว เพราะนอกจากจะ เมม ไม่เป็น ยังไม่ถนัดในการใช้ นิ้ว ไม่ว่านิ้วไหนต่อนิ้วไหน สไลด์ไป-สไลด์มาเหมือนอย่างใครเขา ชนิดเมื่อไหร่ที่ควักโทรศัพท์มือถือออกมารับสายโน่น สายนี่ บรรดาพรรคพวก เพื่อนฝูง อดไม่ได้ที่ต้องเอ่ยปากถามไถ่ว่า จอดเครื่องไทม์แมชชีน เอาไว้ที่ไหน อะไรประมาณนั้น...

                                                        (3)

        ยิ่งเมื่อต้องมาเจอกับการสั่งซื้อโน่น ซื้อนี่ ทาง ออนไลน์ อันชักจะกลายเป็น ความปกติแบบใหม่ ยิ่งเข้าไปทุกที โดยเฉพาะเมื่อท่านเชื้อไวรัส COVID-19 ท่านเคี่ยวเข็ญ บังคับ ให้ต้อง เว้นระยะห่างทางสังคม เข้าไว้ อันนี้...ยิ่งมีแต่ ตาย...กับ...ตาย ลูกเดียวเท่านั้นเอง คือแทบไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร แบบไหน อย่างไร มันถึงจะตามโลก หรืออนุวัตไปตามโลกกับใครเขาได้ทัน แต่ก็โชคดี...ที่การ กักตัวเองเอาไว้ในบ้าน หรือการ เว้นระยะห่างทางสังคม ก่อนหน้าที่เชื้อไวรัส COVID-19 ท่านยังไม่ได้ถือกำเนิด หรือยังไม่ได้อุบัติขึ้นมาในโลกใบนี้ มาเกือบจะ 2 ทศวรรษกว่าๆ มันเลยได้สร้างอุปนิสัย วาสนาและสันดานบางอย่างขึ้นมาในตัวของตัว คือ ความไม่อยาก ที่จะซื้อโน่น ซื้อนี่ ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรที่สวย-เก๋-เท่ระเบิด เพียงใดก็ตามที และเมื่อความปรารถนา ความต้องการ ค่อยๆ ลดน้อยถอยลงไปตามลำดับ จึงทำให้แทบไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหาซื้ออะไรต่อมิอะไร ไม่ว่าในทาง ออนไลน์ หรือ ออฟไลน์ หรือ ไลน์ ใดๆ ก็แล้วแต่...

                                                       (4)

        แต่ก็นั่นแหละ...โลกแบบใหม่ หรือโลกที่ตัวเราแทบไม่รู้จักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ บางครั้ง บางครา มันก็อดที่จะก่อให้เกิดความวิตก กังวลอยู่บ้าง ในบางเรื่อง บางราว ไม่ใช่แต่เรื่อง เทคโนโลยี ล้วนๆ เท่านั้น แต่โดยเฉพาะเรื่องของบรรดาผู้ที่เกิดและเติบโตขึ้นมาท่ามกลางกองเทคโนโลยีอันระเกะระกะ หรือบรรดาพวกเด็กๆ พวกเยาวชนคนหนุ่ม-สาวทั้งหลายนั่นแหละ ที่คงต้องสารภาพอย่างตรงไป-ตรงมา ว่านับวัน...ยิ่งเป็นอะไรที่ก่อให้เกิดความรู้สึกแปลกหน้า แปลกตา เป็นมนุษย์บางกลุ่ม บางประเภท ที่ตัวเราเองแทบไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคย แม้พยายามทำความเข้าใจเพียงใดก็แล้วแต่ คล้ายๆ มีอันต้องโคจรไปเจอกับ มนุษย์ต่างดาว อะไรทำนองนั้น แถมเผลอๆ...อาจหนักไปทางมนุษย์ต่างดาวตามพล็อตเรื่อง โครงเรื่อง ตามแบบฉบับนวนิยายของอาจารย์ คึกฤทธิ์ ปราโมช คือเรื่อง กาเหว่าที่บางเพลง ซะอีกต่างหาก...

                                                      (5)

        อันนี้นี่แหละ...ที่เลยก่อให้เกิดความวิตก กังวล ขึ้นมาบ้างเล็กๆ เพราะจะเอา มาตรฐาน ของตัวเราเข้าไปจับ เอาค่านิยมทางสังคม วัฒนธรรม ประเพณี และแม้กระทั่งมาตรฐานทางศาสนาก็ตาม มาเป็นเครื่องชี้ เครื่องวัด แทบเป็นไปไม่ได้เลย!!! เพราะมันอาจไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความดี-ความชั่ว แต่ขึ้นอยู่กับ ความดัง ซะมากกว่า ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความถูก-ความผิด แต่อาจขึ้นอยู่กับความแปลก ความใหม่ หรือความทันสมัยเป็นหลัก จนแทบไม่ต้องเสียเวลาพูดถึงความมีเหตุผล-ไม่มีเหตุผล เพราะทุกสิ่งทุกอย่างออกจะขึ้นอยู่กับ อารมณ์-ความรู้สึก นั่นแหละเป็นสำคัญ...

                                                         (6)

        การที่โลกแบบใหม่ กลายเป็นโลกที่เต็มไปด้วยเด็กๆ ที่เราแทบไม่รู้จัก หรือเด็กๆ ที่ดูจะทำความเข้าใจได้ยากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นโลกที่บรรดา ผู้หลัก-ผู้ใหญ่ หรือบรรดาคนแก่และคนชราทั้งหลาย พึงต้อง ตั้งสติ เอาไว้ให้ดี จะไปนอตหลุด นอตหลวม หรือไปประมาทพวกเด็กๆ เหล่านี้ไม่ได้เป็นอันขาด เพราะสุดท้าย...โลกทั้งโลกคงหนีไม่พ้นต้องอยู่ในมือพวกเด็กๆ ทั้งหลาย ที่จะเติบใหญ่ เติบโต ขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า หรือในอนาคตเบื้องหน้า อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ ดังนั้น...อะไรก็ตามที่มันจะช่วยให้สิ่งต่างๆ สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างสืบเนื่อง ต่อเนื่อง สามารถทำให้ความดี-ความชั่ว ความถูก-ความผิด ความมีเหตุผล-ไร้เหตุผล ยังสามารถดำรง คงอยู่ อยู่ในฐานะ มาตรฐานทางสังคม จึงหนีไม่พ้นที่ต้องอาศัยความเป็น ผู้หลัก-ผู้ใหญ่ ความมีสติ ความอดทน อดกลั้น ความมีขันติธรรม คุณธรรม รวมทั้งความรัก-ความเมตตา เอาไว้ก่อนนั่นแหละดี...

                                 -----------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"