รัฐบาลรัสเซียยืนกรานปฏิเสธข่าวรัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด ที่รัสเซียค้ำจุนอยู่ ใช้อาวุธเคมีโจมตีพื้นที่ของกบฏในเขตกูตาตะวันออก หลังจากรัฐบาลสหรัฐโทษว่ารัสเซียต้องรับผิดชอบ

ภาพจากวิดีโอของกองกำลังป้องกันภัยพลเรือนซีเรียในเมืองดูมา ขณะอาสาสมัครให้ออกซิเจนแก่ทารกที่โรงพยาบาล ภายหลังมีรายงานการใช้อาวุธเคมีเมื่อวันเสาร์ ภาพ AFP / SYRIA CIVIL DEFENCE

มอสโก / เอเอฟพีรายงานอ้างคำกล่าวของพลตรียูริ เยฟตูเชนโก ประธานของศูนย์เพื่อความปรองดองของคู่ขัดแย้งในการสงครามภายในซีเรีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน 2561 ว่ารัสเซียปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อรายงานข่าวเรื่องนี้ และทันทีที่เขตดูมาถูกปลดปล่อยจากพวกกองกำลังติดอาวุธแล้ว รัสเซียก็พร้อมจะส่งผู้เชี่ยวชาญด้านรังสี, เคมีและชีวภาพ เข้าไปเก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งจะยืนยันได้ว่าคำกล่าวหาเหล่านี้เป็นเรื่องที่ถูกกุขึ้น

    เมื่อวันเสาร์ เมืองดูมาเผชิญการโจมตีทางอากาศรอบใหม่ ที่ทำให้พลเรือนเสียชีวิตถึง
 70 คนภายในเวลาราว 24 ชั่วโมง และมีรายงานว่า 11 คนมีปัญหาระบบทางเดินหายใจ เจ้าหน้าที่กู้ภัยกล่าวโทษกองกำลังที่ภักดีต่ออัสซาดว่าใช้ก๊าซพิษคลอรีน

    เฮทเธอร์ นาเวิร์ด โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า หากรายงานนี้เป็นความจริง สหรัฐก็ขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศตอบโต้ทันที รัฐบาลอัสซาดและรัสเซีย ซึ่งสนับสนุนรัฐบาลซีเรียอย่างแน่วแน่ จะต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีอันโหดร้ายนี้

    รัฐบาลของอัสซาดถูกกล่าวโทษหลายครั้งหลายคราว่าใช้อาวุธเคมี องค์การสหประชาชาติก็เป็นองค์กรหนึ่งที่เคยกล่าวโทษกองกำลังของรัฐบาลอัสซาดว่าใช้ก๊าซซาริน โจมตีหมู่บ้านข่านเชคุน ที่ฝ่ายกบฏต่อต้านอัสซาดควบคุมอยู่ เมื่อเดือนเมษายน 2560

    นับตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์เป็นต้นว่า ปฏิบัติการรุกโจมตีเขตกูตาของรัฐบาลซีเรียได้สังหารชีวิตพลเรือนแล้วมากกว่า 1,600 คน

    กองกำลังฝ่ายรัฐบาลใช้ทั้งการโจมตีทางทหารอย่างดุเดือด ผสมผสานกับการเจรจาต่อรองเพื่อให้ถอนกำลังมาแล้ว 2 รอบ จนสามารถปลดปล่อยพื้นที่ 95% ของดินแดนที่ถูกโอบล้อมชานกรุงดามัสกัสแห่งนี้ได้ แต่พวกกบฏยังคงปักหลักอยู่ในเมืองดูมา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของเขตกูตา.