ภาพการแบ่งปันแสดงน้ำใจคนไทยช่วยเหลือผู้เดือดร้อน

 

     แม้โควิด-19 จะสร้างผลกระทบเดือดร้อนกันไปทั่วตั้งแต่ปากท้องของประชาชน เรื่อยไปจนถึงระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากธุรกิจหยุดชะงัก รายได้หดหายจากสถานการณ์แพร่ระบาด แต่ภายใต้ภาวะวิกฤติก็มีสิ่งดีงาม ได้เห็นถึงพลังนักรบชุดขาวที่ทุ่มเทช่วยชีวิตผู้ป่วย ได้สัมผัสน้ำใจไทยผ่านการแบ่งปัน ช่วยเหลือคนยากลำบากทั่วประเทศไทย นี่คือความสดใสช่วงโควิด

        สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ชวนเก็บภาพมุมบวกที่สร้างความหวังและให้กำลังใจกับทุกๆ  คนในช่วงเวลาที่หม่นหมอง จัดกิจกรรมการประกวดภาพถ่ายภายใต้ “โครงการศิลปินร่วมสมัย สู้ภัยโควิด ด้วยจิตสำนึก” ในหัวข้อ “บันทึกคนไทย น้ำใจไม่มีหมด” เปิดเวทีให้ผู้มีใจรักในการถ่ายภาพถ่ายทอดความคิดและสะท้อนมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เหตุการณ์ที่น่าประทับใจภายใต้ภาวะวิกฤติ การปรับเปลี่ยนการดำรงชีวิต หรือ New Normal ในมุมมองเชิงบวกและสร้างสรรค์การประยุกต์ใช้หลักปรัชญาในการดำรงชีวิต ฯลฯ ภาพถ่ายทั้งหมดที่ตากล้องรังสรรค์ขึ้นจะนำมาเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย สื่อออนไลน์ เว็บไซต์และช่องทางอื่นๆ ที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์ทางการศึกษาด้านศิลปะร่วมสมัย ทั้งยังเป็นการค้นหาผู้มีความสามารถทักษะและพรสวรรค์ด้านการถ่ายภาพ ดึงมาเป็นเครือข่ายงานด้านศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยด้วย

 

ตู้ปันน้ำใจปรากฏการณ์ยุคโควิดสื่อน้ำใจไทยไม่หมด

 

       วรนันทน์ ชัชวาลทิพากร ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ศิลปะภาพถ่าย) กรรมการตัดสินการประกวด กล่าวว่า   กิจกรรมศิลปะภาพถ่าย ”บันทึกคนไทย น้ำใจไม่มีหมด” จะเป็นโอกาสที่คนไทยและช่างภาพไทยทั่วประเทศร่วมมองหาเรื่องราวดีๆ สร้างความสุขผ่านภาพ โดยรับภาพจากกล้องดิจิตอลทั่วไป สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ส่งภาพเข้าประกวดเพื่อรวบรวมเป็นบันทึกประวัติศาสตร์และภาพความทรงจำสำหรับคนไทยในยามวิกฤติถึงการช่วยเหลือการให้กำลังใจ การเยียวยา และแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ ร่วมกัน การประกวดจะได้ภาพที่หลากหลายจากทุกจังหวัดของไทย ได้สัมผัสมุมมองดีๆ ในโควิด นี่คือเป้าหมาย

        “ หลังเกิดโควิด และตามด้วยมาตรการควบคุมแพร่ระบาด มาพร้อมวิถีชีวิตแบบใหม่ ประชาชนนำแนวปฏิบัตินี้ไปใช้ในชีวิต มีการตั้งโรงทานทั่วประเทศ เกิดจุดแจกตู้ปันสุขให้หยิบแต่พอดี อีกทั้งทุกศาสนาปฏิบัติศาสนกิจอย่างเคร่งครัดตามกฎป้องกันโควิด-19 อย่างวันฮารีรายอที่ผ่านมา ชาวไทยมุสลิมในจังหวัดภาคใต้ออกมาทำพิธีฉลองสิ้นสุดเดือนรอมฎอนแบบเว้นระยะห่างทางสังคม หรือแม้แต่การช็อปปิ้งเดินห้างภายใต้มาตรการเข้ม สื่อคนไทยมีวินัย ไม่ให้ระบาดรอบสอง ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปรากฏการณ์ใหม่ ไม่เคยพบเจอ ภาพถ่ายคือบันทึกจากเหตุการณ์จริง สะท้อนทุกภาคส่วนรวมพลังฝ่าวิกฤติ ถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย หากภาพเหล่านี้นำไปเผยแพร่ทั้งในไทยและต่างประเทศ“ วรนันทน์ กล่าว

 

ภาพถ่ายเสนอเรื่องราวการป้องกันแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

 

        สำหรับเกณฑ์การประกวดภาพถ่ายภายใต้โครงการฯ มีรางวัลจำนวน 142 รางวัล แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้ ประเภทบุคคลทั่วไป ผู้ส่งผลงานต้องเป็นสัญชาติไทย และปัจจุบันอาศัยอยู่ในประเทศไทย รางวัลชนะเลิศ 100,000 บาท รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง 50,000 บาท ในประเภทนี้มีรางวัลภาพถ่ายดีเด่นประจำภูมิภาค จำนวน 76 รางวัล รางวัลละ 5,000 บาทด้วย แบ่งเป็น 6 ภูมิภาค ภาคเหนือ 9 รางวัล ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 รางวัล ภาคกลาง 21 รางวัล ภาคตะวันออก 7 รางวัล ภาคตะวันตก 5 รางวัล และภาคใต้ 14 รางวัล นอกจากนี้จะมีภาพที่ได้รับคัดเลือกร่วมจัดแสดง 858 ภาพ จะได้รับเงินค่าสร้างสรรค์ผลงานภาพละ 1,000 บาท ประเภทนักเรียน นักศึกษา ผู้ส่งผลงานต้องมีอายุไม่เกิน 25 ปี โดยศึกษาอยู่ระดับปริญญาตรีหรือต่ำกว่า และแสดงหลักฐานการเป็นนักเรียน/นักศึกษา รางวัลชนะเลิศ 50,000 บาท 

 

ภาพบันทึกนิวนอร์มอล New Normal การเว้นระยะห่างทางสังคม 

 

        เงื่อนไขในการประกวดผู้สมัคร 1 คน มีสิทธิ์ส่งภาพเข้าประกวดไม่เกิน 10 ผลงาน ทั้งนี้ ต้องเป็นภาพถ่ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันหมดเขตรับภาพ วันที่ 20 มิถุนายน 2563 เวลา 18.00 น. สามารถปรับแต่งได้ แต่ห้ามตัดต่อภาพจนผิดความเป็นจริง และต้องไม่เคยได้รับรางวัลจากการประกวดใดๆ มาก่อน ผู้สนใจจะส่งภาพถ่ายเข้าประกวดจะต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ http://www.rpst.or.th/covid-19-and-naamjai-photo-contest ประกาศผลรอบคัดเลือกวันที่ 6 กรกฎาคม ก่อนประกาศผลการตัดสินภายในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ โดยกรรมการตัดสินเป็นผู้ทรงคุณวุฒิสาขาภาพถ่าย อาทิ วรนันทน์ ชัชวาลทิพากร ศิลปินแห่งชาติ, ดาว วาสิกสิริ นายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยฯ, วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ ศิลปินศิลปาธร และตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ อุปนายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยฯ