'ศึกใน’ พปชร.กลับมาร้อนระอุ! ภาคนี้ ‘ฟัดดุ-แตกหัก’ ไม่สนสังคม


เพิ่มเพื่อน    

      สัญญาณความร้อนแรงภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เริ่มระอุมาตั้งแต่สุดสัปดาห์ก่อน หลัง  บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรค เรียก ส.ส.แต่ละกลุ่ม ไม่ว่าใหญ่ เล็ก ยกเว้นกลุ่มของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เข้าพบที่ห้องพัก อาคารรัฐสภา

      ที่มีการจับตากันมากที่สุดคือ ภาพของ กลุ่มสามมิตร นำโดย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นำลูกทีมประมาณ 20 คนเข้าพบ บิ๊กป้อม

      มีการตีความกันว่า การเข้าพบครั้งนี้ของ สุริยะ-สมศักดิ์ คือ สวามิภักดิ์ บิ๊กป้อม และโดดเดี่ยว  สมคิด ที่กำลังกระเตง อุตตม สาวนายน รมว.การคลัง และ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน

      หลังปรากฏข่าวดังกล่าว คนข้างตัวของนายสนธิรัตน์ได้ออกมาโจมตี สุริยะ-สมศักดิ์ พร้อมกับตอกย้ำว่า วันนี้ สามมิตร เหลือแค่เพียง สองมิตร แล้ว

      และภาพที่ชัดเจนที่สุดคือ ฉากการประลองกำลังกันเองที่รัฐสภาของ ส.ส.พปชร. ระหว่างการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เมื่อวันที่ 31 พ.ค.

      โดยเป็นการวัดพลังกันระหว่างฝ่ายที่ต้องการให้เปลี่ยนแปลงหัวหน้าและเลขาธิการพรรค กับฝ่ายที่กำลังกอดเก้าอี้ ซึ่งได้เกิดปรากฏการณ์ รวมการเฉพาะกิจ ขึ้น

      ฝ่ายที่ต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลง นำโดย วิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานวิปรัฐบาล สุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี และประธาน ส.ส. ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง และ กลุ่มสามมิตร ที่หันมาแท็กทีม หลังปรากฏภาพเข้าพบ บิ๊กป้อม เมื่อวันศุกร์ที่ 29 พ.ค.

      การขยับมาฝั่งนี้ของ สามมิตร เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าว ดีลลงตัว ที่จะยกเก้าอี้ รมว.พลังงาน ให้ สุริยะ แลกเปลี่ยนกับการหันมาสนับสนุน

      ขณะที่ฝ่ายรักษาอำนาจ จากเดิมที่มี อุตตม และ สนธิรัตน์ ซึ่งเป็นโควตาของนายสมคิดนั้น วันนี้ได้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ มาเป็นหัวขบวน

      โดยมีรายงานว่า การตัดสินใจมาถือธงและระดม ส.ส.ให้กลุ่มนี้ของ ผู้กองมนัส มี 2 ปัจจัย คือ กลัวถูกปรับออกจาก ครม.ในครั้งหน้าเนื่องจากภาพลักษณ์ กับต้องการอัพเลเวลจาก รมช. สู่ รมว. เพราะเห็นว่ามีกำลัง ส.ส.ในมือที่ไม่ได้เล็กกว่ามุ้งอื่น

      อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงถูกมองว่าเป็น ส.ส.ในสาย บิ๊กป้อม ขณะที่อีกกลุ่มมีความพยายามอ้างว่าเป็นสาย บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม

      ทว่า ส.ส.ที่ไม่ได้เป็นกลุ่มก๊วนใดชัดเจน เล่าให้ฟังภายหลังเข้าพบ บิ๊กป้อม ว่า ประธานยุทธศาสตร์พรรคแสดงท่าทีรำคาญใจกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น พร้อมกับบอกว่าจะกลุ่มก๊วนไหน สุดท้ายคนดูแลทุกเรื่องในพรรคก็คือตนเองอยู่ดี

      นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า การยกว่าเป็น สายบิ๊กป้อม-บิ๊กตู่ ขึ้นมา เป็นเพียงการเพิ่มพลังให้กลุ่มตัวเองเท่านั้น และความจริงแล้วสองพี่น้องจากบูรพาพยัคฆ์ไม่มีวันหักกัน

      ที่ บิ๊กป้อม ลงมาดูแลและทำทุกอย่างภายในพรรค พปชร.ก็เพื่อเป็น กลไก ให้ผู้น้องอย่าง บิ๊กตู่  ในการบริหารประเทศ ดังนั้น ทฤษฎีต่างๆ ที่หยิบยกมา ชนกัน เพื่อให้เห็นถึงความแตกหักเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก

      เพียงแต่ว่าการที่ บิ๊กป้อม ต้องเข้ามามีส่วนพัวพันกับสงครามภายในพรรค พปชร.ครั้งนี้ ก็เป็นเรื่องของการจัดดุลยภาพภายในพรรคให้เดินต่อไปได้เท่านั้น

      หลักของ บิ๊กป้อม คือ การจัดสรรผลประโยชน์ให้ทั่วถึง หรือระบบ โควตา โดยยึดหน้าตักของแต่ละมุ้ง โดยเป็นสูตรดั้งเดิม ซึ่งมีหลายกลุ่มในพรรคที่มองว่า ณ ปัจจุบันมันยังไม่เป็นเช่นนั้น และเห็นว่า กลุ่มของนายสมคิดที่ไม่มี ส.ส.ในมือ แต่ได้เก้าอี้หลายตัว เป็นอุปสรรคและตัดโอกาสของคนอื่น

      ซึ่งเรื่องนี้มีการปล่อยข่าวต่อสู้กันมาตลอด จนทำให้ภาพลักษณ์ของพรรค พปชร.ดูย่ำแย่ แต่กระนั้น ก็ไร้วี่แววที่จะสงบลงง่ายๆ ตราบใดที่การเปลี่ยนแปลงบางอย่างยังไม่เกิดขึ้น

      ขณะที่การระอุรอบล่าสุดนี้ดูจะรุนแรงกว่าทุกครั้ง เพราะฝ่ายที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไม่สามารถรอเวลาได้อีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทได้ผ่านสภาเป็นที่เรียบร้อย อันหมายถึง ฤดูปรับ ครม. มาถึงแล้ว

      แน่นอนว่าคนที่คงไม่แฮปปี้กับภาพที่เกิดขึ้นคือ บิ๊กตู่ ที่กำลังง่วนอยู่กับการบริหารประเทศและแก้ไขโควิด-19 ซึ่งการเรียกร้อง ต่อรอง หรือแกมบีบบังคับ ย่อมไม่เป็นที่สบอารมณ์ เหมือนที่ย้ำทุกครั้งว่าตนเองเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ

      และเก้าอี้ รมว.พลังงาน ที่กำลังกลายเป็น 1 ในชนวนสำคัญสู่สงครามครั้งนี้ สุดท้ายอาจกลายเป็น  ตาอยู่ ที่คาบไปกิน เหมือนกับครั้งแรกที่ ณัฏฐพล เปิดฉากกับ สุริยะ แต่ สมคิด คว้าไปให้ สนธิรัตน์ ในนาทีสุดท้าย ฉะนั้นทุกอย่างพลิกได้ตลอด

        และกว่าทุกอย่างจะลงตัว ลงล็อก ปรับ ครม.เสร็จ ฝุ่นคงตลบอบอวลทั่วพรรค พปชร.ไปอีกพักใหญ่ทีเดียว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"