29 มิ.ย. 63 - เมื่อเวลา 00.15 น. พ.ต.อ.ณรงค์ ลักษณะวิมล  ผกก.สภ.เมืองกระบี่  พ.ต.ท.ทวีศักดิ์  ยองเข   พ.ต.ท.นพดล  กล่อมพงศ์  สว.สส.ภ.จว.กระบี  พ.ต.ท.สัญญา  ธรรมรัตน์   สว.สส.สภ.เมืองกระบี่   พร้อมด้วยจนท.กองพิสูจน์หลักฐาน  และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา  เข้าตรวจสอบ เหตุคนยิงกันเสียชีวิต รวม 3  ศพ  ภายในบ้านเลขที่  81  ม.3  ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่  ที่เกิดเหตุอยู่ติดถนนสายกระบี่น้อย-เขาพนม เป็นบ้านปูนชั้นเดียวข้างบ้าน เปิดเป็นโรงรับซื้อเศษยางพารา พบชาวบ้านยืนมุงดูจำนวนนับร้อยคน

ตรวจสอบภายห้องโถงกลางบ้าน พบทีวียังเปิดอยู่ โดยมีศพผู้เสียชีวิต 2 ศพนอนอยู่หน้าจอทีวี ศพแรกทราบชื่อคือนายจรูญ  ดวงขวัญ อายุ 55 ปี เป็นเจ้าของบ้าน  สภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งโสร่งลายสีฟ้านอนตะแคงซ้ายจมกองเลือด  ชันสูตรศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ที่ขมับขวา 1  นัดกระสุนทะลุขมับซ้าย  ที่มือขวากำอาวุธปืน ลูกโม่ขนาด.38มม. 1 กระบอก  คาดว่าเป็นอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน  

ใกล้กันพบศพ นางสาวเรณู  ดำหาย อายุ 41 ปี  เป็นภรรยานายจรูญ   อยู่ในชุดเสื้อแขนสั้นสีครีม นุ่งผ้าถุงโจมอก  นอนตะแคงขวา จมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ที่ลำคอ ทะลุท้ายทอย 1 นัด และที่แขนขวา 1 นัด   นอกจากนี้ภายในห้องนอน เจ้าหน้าที่ยังพบศพผู้เสียชีวิตอีก 1 ศพ  สภาพนอนหงายจมกองเลือด อยู่ในชุดสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้น ลายดอก  นุ่งกางเกงขาสั้นสีฟ้าลาย  ทราบชื่อคือ เด็กชาย พงศกร ดวงขวัญ  อายุ 12  ปี  ลูกชายนายจรูญ  สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ศีรษะ 1  นัด แขนซ้ายและขวาข้างละ1นัด   

สอบสวนเด็กชายเอ นามสมมุติ  หลานชายผู้ตายซึ่งรอดชีวิตจากเหตุการณ์  เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังกินข้าวอยู่ในห้อง นายจรูญ นั่งอยู่หน้าจอทีวี กับนส.เรณู และด.ช.พงศกร ลูกชายคนสุดท้อง จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงออกมาดูพบว่านางสาวเรณูถูกยิงเสียชีวิตแล้ว จากนั้น นายจรูญ  ได้สั่งให้ตนรีบไปเก็บจานข้าว แล้วให้เข้าไปอยู่ในห้อง จากนั้นเห็นนายจรูญเอาปืนไปจ่อยิงที่หัว ด ช.พงศกร แต่ได้พยายามเอามือปัดจึงเอาปืนจ่อยิงจนเสียชีวิต จากนั้นตนจึงวิ่งหนีออกจากบ้านทันที ก่อนได้ยินเสียงปืนดังอีก 1 นัด    

ส่วนสาเหตุการสังหารในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่านายจรูญ อาจจะมีความเครียดจากปัญหาบางอย่าง  จึงได้ลงมือก่อเหตุ โดยจากการสอบถามญาติทราบว่านายจรูญ ต้องกินยาระงับประสาทด้วย  ขณะที่นายมะโน  เครือแก้ว กำนันตำบลกระบี่น้อย ซึ่งเป็นญาติใกล้ชิดผู้ตาย ให้ข้อมูลว่า ผู้ตายเป็นคนมีฐานะอาชีพทำสวนยางสวนปาล์มหลายไร่ และรับซื้อเศษยางพาราด้วย  หลังภรรยาเก่าเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งได้ประมาณ 1 ปี  นายจรูญก็ภรรยาใหม่ คือ น.ส.เรณู และได้อยู่กินกันมาประมาณ 6 เดือน แต่ น.ส.เรณูยังคงไปทำงานห้างในอำเภอเหนือคลองไม่ยอมลาออกมาอยู่บ้าน  จึงทำให้นายจรูญเกิดความหึงหวงและเคยขู่ว่าจะยิงให้หมดทั้งบ้าน และก่อนเกิดเหตุ 1 วัน นส.เรณูได้กลับไปดูลูกที่เกิดจากสามีเก่า ที่อ.เหนือคลอง  ทำให้นายจรูญไม่พอใจและมีปากเสียงกันมาแล้ว ก่อนที่จะมาก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง.