'วัดป่าเมืองขอนแก่น' จัดกิจกรรมลงแขกดำนาแบบวิถีใหม่ ปลูกข้าวอินทรีย์ปลอดสารพิษ


เพิ่มเพื่อน    

7 ก.ค.2563 ที่วัดป่าพุทธญาณรังษี ริมถนนเลี่ยงเมืองสายขอนแก่น-กาฬสินธุ์ ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ร.ท.ณรงค์ศักดิ์ ลิ้มวงษ์ทอง อธิบดีอัยการภาค 4 เป็นประธานเปิดกิจกรรมลงแขกดำนาบุญ ประจำปี 2563 ซึ่งคณะกรรมการวัดป่าพุทธญาณรังษี ร่วมกับคนในชุมชนได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้น โดยถือฤกษ์ในช่วงวันเข้าพรรษา ทำการปลูกข้าวเหนียวพันธุ์ กข.6 ลงในพื้นที่แปลงนาบุญของทางวัด จำนวน 3 ไร่

ในช่วงของการลงแขกดำนาได้จัดพิธีขอขมาบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง ขอให้นาข้าวปีนี้ได้ผลผลิตมากที่สุด ตามแนวทางที่ทางวัดกำหนด คือการปลูกข้าวอินทรีย์ปลอดสารพิษ ทั้งยังคงจัดให้มีวงกลองยาวพื้นบ้าน มาร่วมบรรเลงขับกล่อมให้กับผู้ที่มาร่วมลงแขกดำนา ส่วนใหญ่เป็นคนในชุมชนและผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาในวัดแห่งนี้ ต่างพร้อมใจกันมาลงแขกดำนากันร่วมกว่า 50 คน ซึ่งผู้ที่มาร่วมดำนาในแปลงนาข้าวนาบุญแห่งนี้นอกจากจะร่วมฟ้อนรำเพื่อขอขมาเจ้าที่เจ้าทางและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่แล้ว ยังคงร่วมกันดำนาทั้งร้อง รำ ดำนาและเต้นไปด้วย สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ความรักสามัคคีบนวิถี New Normal อย่างเข้มงวด

พระอาจารย์พันธวัฒน์ เลขานุการวัดป่าพุทธญาณรังษี กล่าวว่า แปลงนาข้าวนาบุญ บนพื้นที่ 3 ไร่ของทางวัดแห่งนี้ได้จัดทำขึ้นต่อเนื่องเป็นที่ 3 ติดต่อกัน เดิมในปีที่ผ่านมาวัดได้ปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ แต่ปีนี้ปรับเปลี่ยนมาเป็นการปลูกข้าวเหนียวพันธุ์ กข.6 ซึ่งขั้นตอนและกระบวนการปลูกข้าวของทางวัดนั้นปลอดภัยจากสารเคมีด้วยวิถีอินทรีย์ 100%

เมื่อดำนาตามหลักวิชาการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการดูแลและบำรุงรักษา ซึ่งญาติธรรมของทางวัดที่เป็นผู้ที่มีความรู้ด้านการเกษตรและการทำพืชผักสวนครัวตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงในในหลวง ร.9 จะมาเป็นผู้ควบคุมดูแลร่วมกันกับคณะกรรมการของวัด ซึ่งเมื่อได้ผลผลิตแล้วข้าวปลอดสารพิษของวัดจะนำมาจำหน่ายเพื่อนำไปเป็นทุนในการปลูกในปีต่อไป รวมทั้งการแจกจ่ายให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 เพื่อสนองพระราชดำริในองค์สมเด็จพระสังฆราชอีกด้วย

"การลงแขกดำนา เป็นการคงไว้ซึ่งวิถีของคนชนบท ซึ่งวัดของเรานั้นยังคงความเป็นสถานที่ที่พุทธศาสนิกชนนั้นสามารถมาพักผ่อน มาสนทนาธรรมเรียนรู้ในพระธรรมคำสั่งสอน และดำเนินกิจกรรมของสงฆ์ในด้านต่างๆอย่างครบถ้วน ดังนั้นการจัดสรรพื้นที่ให้วัดเป็นแหล่งเรียนรู้ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง การสร้างคลังอาหารไว้ในเขตตัวเองด้วยการปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ ควบคู่กับการนำเอาเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ประจำถิ่นมาผสมผสาน ทั้งหมดจะเป็นสิ่งที่วัดร่วมกับชุมชนและผู้ที่สนใจจะร่วมกันสืบทอดและสืบสานประเพณีต่อไป"

พระอาจารย์พันธวัฒน์ กล่าวอีกว่า จะเห็นได้ว่าในการลงแขกดำนาวันนี้ทุกขั้นตอนเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ตั้งแต่ผู้ที่เข้ามาในเขตวัดจะต้องถูกตรวจคัดกรอง จากเจ้าหน้าที่ อสม. ที่มาตรวจวัดไข้ การให้บริการหน้ากากอนามัย การให้บริการเจแอลกอฮอล์ล้างมือ โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างในการจัดกิจกรรม แม้กระทั่งการดำนาที่ทุกคนก็ต้องยืนห่างกันเพื่อความปลอดภัย 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"