นครเมลเบิร์นบังคับใช้เคอร์ฟิวยามวิกาลควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และปิดธุรกิจที่ไม่จำเป็น ส่วนฟิลิปปินส์รื้อฟื้นล็อกดาวน์กรุงมะนิลาและปริมณฑล ขณะยอดติดเชื้อไวรัสทั่วโลกเกินหลัก 18 ล้านรายแล้วในวันจันทร์

เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างเลือดจากเด็กหญิงเพื่อตรวจหาไวรัสโควิด-19 ที่ด้านนอกโรงพยาบาลในกรุงมะนิลา เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563

    รัฐบาลท้องถิ่นของรัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียประกาศใช้มาตรการควบคุมโรคระบาดที่เข้มงวดขึ้นหลังจากประกาศภาวะภัยพิบัติเมื่อวันอาทิตย์และใช้เคอร์ฟิวยามวิกาลในเมืองเมลเบิร์น เมืองเอกของรัฐและเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ เป็นเวลา 6 สัปดาห์ และในวันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม รัฐบาลท้องถิ่นยังมีคำสั่งให้ธุรกิจที่ไม่จำเป็น ซึ่งยกเว้นซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านขายยาและร้านขายเหล้า ปิดกิจการชั่วคราว เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนวันพุธ

    นครเมลเบิร์นมีผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละหลายร้อยราย ทั้งที่ในรัฐอื่นๆ ของออสเตรเลียแทบไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่หรือมีเพียงไม่กี่ราย แดเนียลส์ แอนดรูวส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ประกาศเมื่อวันอังคารว่า การสั่งปิดธุรกิจที่ไม่จำเป็น มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าจะมีคนเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปทำงานลดลงราว 1 ล้านราย

    ฟิลิปปินส์ก็กำลังกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในกรุงมะนิลาและปริมณฑล หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศทะลุ 100,000 รายไปแล้ว เมื่อคืนวันอาทิตย์ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ประกาศว่า เมืองหลวงและ 4 จังหวัดโดยรอบ ซึ่งมีประชากรรวมมากกว่า 27 ล้านคน จะกลับเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ 4 สิงหาคม

    ตามมาตรการใหม่นี้ ระบบขนส่งสาธารณะ รวมถึงรถโดยสารจีปนีย์ จะหยุดบริการ และระงับเที่ยวบินในประเทศ ประชาชนต้องอยู่บ้านโดยยกเว้นให้ออกไปซื้อสินค้าที่จำเป็นได้หรือไปออกกำลังกายนอกบ้าน ธุรกิจบางประเภทเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เปิดได้ ส่วนร้านอาหารขายได้เฉพาะนำกลับบ้านเท่านั้น

    เมื่อวันอาทิตย์ ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เป็นสถิติที่ 5,032 ราย ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศถึงวันจันทร์อยู่ที่ 106,330 ราย เสียชีวิตแล้ว 2,104 ราย

    เวียดนามซึ่งพบการระบาดรอบใหม่ที่เมืองดานัง สื่อท้องถิ่นรายงานเมื่อวันจันทร์ว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 รายเป็นคนงานในโรงงานอย่างน้อย 4 แห่งในเมืองนี้ซึ่งมีคนงานรวมกัน 3,700 คน นับแต่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศครั้งแรกในรอบ 100 วันที่ดานังเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ถึงขณะนี้โควิด-19 ได้แพร่ไปอย่างน้อย 10 พื้นที่แล้ว รวมถึงกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อของเวียดนามเพิ่มเป็นอย่างน้อย 621 ราย เสียชีวิต 6 ราย

    จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกถึงวันจันทร์จากฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์เพิ่มเป็นมากกว่า 18,093,000 ราย และเสียชีวิตแล้ว 689,625 ราย สหรัฐมีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 4,667,957 ราย เสียชีวิต 154,860 ราย

    เดบอราห์ เบิร์กซ์ ที่ปรึกษาคณะทำงานเฉพาะกิจไวรัสโคโรนาของทำเนียบขาว กล่าวกับซีเอ็นเอ็นเมื่อวันอาทิตย์ว่า สถานการณ์ในสหรัฐขณะนี้แตกต่างจากสถานการณ์ในเดือนมีนาคม-เมษายน โดยเป็นการแพร่ระบาด "ระยะใหม่" ที่มีความแพร่กระจายเป็นพิเศษ โรคนี้ระบาดในพื้นที่ชนบทเท่าๆ กับเขตเมืองแล้ว.