อดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต เรียกร้องให้ผู้ว่าการทุกมลรัฐของสหรัฐอเมริกาออกคำสั่งบังคับให้ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย เพื่อชะลอการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาที่คร่าชีวิตผู้ป่วยในสหรัฐไปมากกว่า 167,000 คนแล้ว

โจ ไบเดน และคามาลา แฮร์ริส ขึ้นเวทีที่รัฐเดลาแวร์ร่วมกันเป็นครั้งแรกเมื่อวันพุธ หลังจากไบเดนเลือกแฮร์ริสเป็นคู่หูลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐวันที่ 3 พฤศจิกายน

    ไบเดนแถลงที่โรงแรมในเมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ เมื่อวันพฤหัสบดี ระหว่างการหาเสียงวันที่ 2 ร่วมกับคามาลา แฮร์ริส ส.ว.หญิงจากแคลิฟอร์เนีย ผู้ที่เขาเลือกให้ลงชิงชัยในตำแหน่งรองประธานาธิบดี โดยเรียกร้องให้ผู้ว่าการรัฐทั้ง 50 รัฐของสหรัฐอเมริกา ออกคำสั่งบังคับให้ทุกคนสวมหน้ากากในทันที เพื่อชะลอการระบาดของโรคโควิด-19 และจะช่วยรักษาชีวิตชายอเมริกันหลายแสนคน

    อดีตรองประธานาธิบดีซึ่งโจมตีทรัมป์ว่าเป็นผู้นำที่ล้มเหลวในการควบคุมโควิด-19 โยงการสวมหน้ากากอนามัยกับความเป็นคนรักชาติ "นี่คืออเมริกา จงเป็นคนรักชาติ" เขากล่าวขณะเรียกร้องให้ผู้ว่าการรัฐทุกรัฐปกป้องพลเมืองของตนด้วยการทำในสิ่งที่ถูกต้อง "ชาวอเมริกันทุกคนควรสวมแมสก์เมื่อพวกเขาออกนอกบ้านในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ผู้ว่าการรัฐทุกคนควรมีคำสั่งบังคับให้สวมแมสก์"

    นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขส่วนใหญ่เห็นว่าการสวมหน้ากากและการเว้นระยะห่างทางสังคมเป็นวิธีการง่ายๆ ที่จะทำให้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ลดลง

    ปัจจุบันมี 34 รัฐในสหรัฐที่บังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในที่สาธารณะทั้งในอาคารและกลางแจ้ง แต่หลายรัฐ เช่น รัฐฟลอริดาและรัฐจอร์เจีย แม้มีรายงานผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 จำนวนมาก แต่ยังไม่มีกฎบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากาก

    ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์เผยว่า ถึงวันศุกร์ สหรัฐมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมที่ 5,257,787 ราย และเสียชีวิต 167,295 ราย.