องค์การอนามัยโลกเตือนว่าโรคโควิด-19 ในเอเชีย-แปซิฟิก กำลังแพร่ระบาดโดยคนที่อายุต่ำกว่า 50 ปี ที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองติดเชื้อไวรัสโคโรนาแล้ว ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคนี้ระยะใหม่

    ทาเคชิ คาไซ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ประจำภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก แถลงทางออนไลน์เมื่อวันอังคารที่ 18 สิงหาคมว่า ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีอาการไม่รุนแรงหรือไม่มีอาการเลย มีความเสี่ยงแพร่เชื้อไวรัสนี้ไปสู่ผู้สูงอายุและประชากรที่ติดเชื้อโรคนี้ได้ง่าย

    คาไซกล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคนี้กำลังเปลี่ยนแปลง ประชาชนที่อยู่ในช่วงอายุราว 20 ปี, 30 ปี และ 40 ปี มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะแพร่เชื้อโรคนี้ เนื่องจากผู้ติดเชื้อไวรัสในกลุ่มอายุนี้จำนวนมากไม่ได้ตระหนักว่าตนติดเชื้อไวรัสโคโรนา เนื่องจากมีอาการของโรคน้อยมากหรือไม่มีเลย เขาเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นสัญญาณว่าเรากำลังเข้าสู่การระบาดของโรคโควิด-19 ระยะใหม่ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

    จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกเรื่องการระบาดปัจจุบันของโรคโควิด-19 แสดงให้เห็นว่า ราว 2 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อไวรัสนี้ในญี่ปุ่น คือกลุ่มประชากรที่อายุต่ำกว่า 40 ปี และมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อในฟิลิปปินส์และออสเตรเลีย พบในประชากรอายุต่ำกว่า 40 ปีเช่นกัน

    คาไซกล่าวว่า เราต้องพยายามเป็น 2 เท่าที่จะหยุดการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา ไปยังชุมชนที่ติดเชื้อไวรัสนี้ได้ง่าย

    บางประเทศที่เคยควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ไว้ได้ เช่น นิวซีแลนด์, เวียดนามและเกาหลีใต้ แต่เมื่อพบผู้ติดเชื้อโรคนี้แบบกลุ่มก้อนครั้งใหม่ ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องประกาศล็อกดาวน์และเข้มงวดกับการเว้นระยะห่างทางสังคมในเมืองที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสนี้แบบกลุ่มก้อน แต่คาไซแนะนำว่าควรใช้วิธีการแทรกแซงแบบเจาะจงเมื่อพบผู้ติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนรายใหม่ในภูมิภาคนี้ เพราะจะช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดจากมาตรการควบคุมไวรัส และเป็นวิธีการที่ยั่งยืนกว่า.