แค่ซากเชื้อโควิดไม่ระบาดรอบ2


เพิ่มเพื่อน    

  สธ.แจงผลตรวจโควิดซ้ำสาวไทยกลับจากดูไบเป็นแค่ซากเชื้อ เร่งสอบสวนคนสัมผัสใกล้ชิด 24 ราย เปิดไทม์ไลน์อยู่ที่เลย-กทม. ยันไม่ใช่ระบาดรอบ 2 ไม่ต้องล็อกดาวน์พื้นที่

    ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล? เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม เวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เรียกประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ชุดเล็ก ซึ่งประกอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นพ.อุดม คชินทร อดีต รมช.ศึกษาธิการ ที่ปรึกษา ศบค.,? นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการ?สภาความมั่นคงแห่งชาติ? (สมช.),? พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก, นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เข้าร่วมประชุม
    ก่อนการประชุม นพ.อุดมกล่าวถึงกรณี 2 เคสหญิงไทยล่าสุดว่า ซากเชื้อโควิด 19 ไม่แพร่ระบาด ซึ่งจากการยืนยันของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าทั้งสองผ่านการกักกันตัวของรัฐ 14 วัน โดยไม่พบเชื้อก็ไม่มีปัญหา แต่ทั้งนี้การพบซากเชื้อในไทยพบอยู่ประปราย ยืนยันว่าซากเชื้อไม่ติดต่อ ขอประชาชนสบายใจได้ อย่าตื่นตระหนก โดยจะไม่ส่งผลต่อการผ่อนคลายมาตรการใดๆ เพราะที่ผ่านมาไทยไม่เคยลดมาตรการด้านสาธารณสุข  และการพบซากเชื้อก็ไม่ใช่การแพร่ระบาดรอบ 2
?     ภายหลังการประชุม พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธาน ศบค.ชุดเล็ก เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการผ่อนคลายมาตรการกิจการ/กิจกรรมในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด ตามที่ได้ทดลองใช้ช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เช่น การทดลองเปิดเรียน 100% การทดลองใช้ระบบขนส่งมวลชนเต็มรูปแบบ รวมถึงมาตรการเปิดให้มีการเข้าชมกีฬา ซึ่งทั้งหมดจะเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันที่ 21 ส.ค. เวลา 09.30 น. เพื่อออกเป็นข้อกำหนดต่อไป รวมถึงการขยายเวลาการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปอีก 1 เดือน ในเดือนก.ย. ขณะที่นายกรัฐมนตรีไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เพียง?แต่อยากให้ช่วยกันหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยทีมเศรษฐกิจในการทำงาน โดยที่ผ่านมาเราทำงานสอดคล้องกันอยู่แล้ว
    ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 7 ราย ในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,389 ราย ยอดหายป่วยสะสม 3,218 ราย มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 113 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 58 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่รายที่ 1-3 มาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทั้งหมดเป็นชายไทย อายุ 28, 38 และ 46 ปี อาชีพพนักงานบริษัท/โรงงาน เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 7ส.ค. เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ กรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 วันที่ 18 ส.ค. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ รายที่ 4 เดินทางมาจากฮ่องกง (ประเทศจีน) เป็นชายไทยอายุ 33 ปี เป็นนักท่องเที่ยวไปฮ่องกง ตั้งแต่เดือน ก.พ.63 เดินทางมาถึงไทยวันที่ 15 ส.ค. เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ กรุงเทพฯ ตรวจหาเชื้อวันที่ 18 ส.ค.ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ
    รายที่ 5-6 มาจากสิงคโปร์ ทั้ง 2 รายเป็นชายไทยอายุ 51 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางถึงไทยวันที่ 7 ส.ค. เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 1 ราย เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 วันที่ 18 ส.ค. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ และรายที่ 7 เดินทางมาจากอียิปต์ เป็นนักศึกษาหญิงไทยอายุ 21 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 17 ส.ค. เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ จ.ชลบุรี ตรวจหาเชื้อในวันที่ 17 ส.ค. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ
    ต่อมาเวลา 18.00 น. ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี แถลงผลตรวจล่าสุดของหญิงไทย อายุ 35 ปี ที่เดินทางกลับจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ว่าพบเพียงส่วนเชื้อพันธุกรรมไวรัสโควิด-19 ในปริมาณที่น้อย ซึ่งทีมแพทย์มั่นใจว่าเป็นแค่ส่วนของไวรัส ที่ไม่ทำให้เกิดการติดต่อแพร่เชื้อได้ แต่เพื่อความสบายใจของสังคม จึงขอให้อยู่ติดตามอาการที่โรงพยาบาลเพิ่มเติม
        โดยหญิงไทยรายนี้ได้เดินทางมาตรวจสุขภาพก่อนเดินทางไปทำงานที่ดูไบ เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ได้มีการตรวจซ้ำในวันที่ 18 ส.ค. พบสารพันธุกรรมในปริมาณน้อย จากนั้นมีการตรวจซ้ำอีกครั้งในวันที่ 20 ส.ค. ไม่พบสารพันธุกรรม ซึ่งตรงกับผลตรวจกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นอกจากนี้ได้มีการตรวจเพิ่มพิเศษคือ ตรวจภูมิคุ้มกัน ซึ่งพบว่าเป็นบวก หมายถึงว่าเคยมีการติดเชื้อจริง แต่การติดเชื้อในเชิงวิชาการนั้นโอกาสที่จะเป็นไปได้มีตั้งแต่อยู่ที่ยูเออีถึงปัจจุบัน
    พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า หญิงไทยคนดังกล่าวเดินทางกลับมาจากยูเออีเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.63 และเข้าพัก State Quaratine ที่จังหวัดชลบุรีจนถึงวันที่ 9 ก.ค.63 โดยมีการตรวจหาเชื้อตามกำหนดในวันที่ 29 มิ.ย.63 และ 5 ก.ค.63 ไม่พบสารพันธุกรรม หลังจากนั้นได้เดินทางกลับจังหวัดเลย โดยมีเพื่อนขับรถยนต์ส่วนตัวมารับ ซึ่งมีผู้ใกล้ชิดเป็นสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนรวม 5 ราย หลังจากนั้นในเดือน ก.ค.ได้พักอยู่ในจังหวัดเลย และได้ไปเยี่ยมเพื่อนที่คลอดลูกที่โรงพยาบาลปากชม ซึ่งได้สอบสวนพบผู้สัมผัสใกล้ชิดอีก 6 ราย และช่วงวันที่ 12-13 ส.ค.63 ได้ไปรับประทานอาหารในจังหวัดเลยกับเพื่อน 3 ราย ซึ่งได้เก็บตัวอย่างทั้งหมดไปตรวจแล้ว อยู่ระหว่างรอผล
         โดยวันที่ 16 ส.ค.63 เตรียมตัวกลับไปทำงาน โดยเดินทางมากับพ่อและแม่ มาพักกับเพื่อนอีก 2 คนที่โรงแรมบั๊ดดี้เพลส กรุงเทพฯ ซึ่งมีผู้สัมผัสใกล้ชิด 4 คน คือเพื่อน 2 คน และแม่บ้านโรงแรมอีก 2 คน ซึ่งสำนักอนามัยเก็บตัวอย่างไปตรวจแล้ว ส่วนผู้ที่มาใช้บริการในช่วงเวลาเดียวกันอีก 104 คน ไม่ถือว่าเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด แต่หากไม่สบายใจสามารถมาขอตรวจได้ จากนั้นวันที่ 18 ส.ค.63 เดินทางด้วยรถแท็กซี่พร้อมเพื่อนทั้ง 2 คน ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลรามาฯ ก่อนเดินทางกลับไปทำงานที่ยูเออี และตรวจพบสารพันธุกรรม มีผู้สัมผัสใกล้ชิดอีก 5 ราย ซึ่งจะเก็บตัวอย่างไปตรวจต่อไป และอยู่ระหว่างติดตามคนขับรถแท็กซี่ อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีสารพันธุกรรมปริมาณน้อย แต่ด้วยมาตรการที่เรามีอยู่ก็จะติดตามผู้สงสัยติดเชื้อมาตรวจ
         นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า ขณะนี้เท่ากับหญิงไทยคนดังกล่าวไม่ได้ติดเชื้อแล้ว เพียงแต่ต้องให้อยู่ใน รพ.ไปก่อน ขณะเดียวกันทีมสอบสวนโรคกำลังเข้าไปติดตามสอบสวนผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้ง 24 คนกับหญิงรายนี้ ส่วนสถานที่ต่างๆ ที่หญิงรายนี้ได้เคยเดินทางไปทั้ง จ.เลยและกรุงเทพมหานคร ยังสามารถเปิดได้เป็นปกติ ไม่ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงแต่อย่างใด ซึ่งตลอดที่เดินทางหญิงไทยคนดังกล่าวใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
         นพ.ชนเมธ เตชะแสนศิริ รองผู้อำนวยการ รพ.รามาธิบดี กล่าวเสริมว่า ในขณะนี้ถือว่าหญิงรายดังกล่าวไม่ใช่คนป่วยแล้ว เพราะตรวจเชื้อซ้ำ 2 ครั้งเป็นลบ แต่ด้วยการที่เคยตรวจแล้วเป็นบวก 1 ครั้ง และบวกกับมีตรวจเลือดแล้วมีภูมิคุ้มกัน แสดงว่าเคยติดเชื้อในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะอยู่ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ให้รอผลการสอบสวนโรคอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ เนื่องจากสังคมกำลังตื่นตระหนก จึงอยากจะตรวจเพิ่มเติมอีก 1-2 อย่างเพื่อยืนยันว่าเชื้อที่มีตอนนี้ไม่ใช่เชื้อที่มีชีวิตแล้ว สำหรับผู้หญิงคนนี้ต้องเรียกคนเคยติดเชื้อ ส่วนสถานที่ต่างๆ ไม่ต้องล็อกดาวน์.

    
 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"