ขุนคลังฟันธง ปีหน้าศก.ฟื้น พ้นวิกฤติโควิด


เพิ่มเพื่อน    

 

“ปรีดี” เชื่อมรสุมโควิดซัดเศรษฐกิจผ่านช่วงเลวร้ายที่สุดไปแล้ว ลุ้นปี 64 จีดีพีฟื้นตัว 4-5% นายกฯ ขอคนไทยยึดสิ่งที่เป็นประโยชน์ ช่วยประเทศปลอดภัยก่อน ชี้ความสงบเรียบร้อยพื้นฐานสำคัญ ศก.
    เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม นายปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "Navigating through global uncertainties: Thailand's opportunities for transformation" ในงาน "Thailand Focus 2020 : Resiliency to Move Forward" ว่า ผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งเลวร้ายที่สุดที่เข้ามากระทบเศรษฐกิจไทยได้ผ่านพ้นไปแล้ว โดยเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/2563 เป็นช่วงที่มีการเติบโตต่ำที่สุด และเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างชัดเจนอีกครั้งในปี 2564 โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) จะกลับมาขยายตัวได้ในระดับ 4-5%
    ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ดังกล่าว ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี และด้วยพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ทำให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ผ่านมาแม้ประสบปัญหา แต่ไม่หดตัวมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกัน และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเริ่มเห็นการฟื้นตัวกลับมาอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังจากสถานการณ์คลี่คลายลง
    รมว.การคลังกล่าวว่า หัวใจสำคัญการเติบโตและฟื้นตัวอย่างมั่นคงของเศรษฐกิจ คือการคงไว้ซึ่งวินัยทางการเงินการคลัง การเผชิญหน้ากับโควิด-19 ทำให้งบประมาณที่จะใช้จ่ายมีข้อจำกัด จึงต้องใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง ซึ่งรัฐบาลได้เดินหน้าปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบด้านความยั่งยืนทางด้านการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด แม้จะมีการจัดสรรงบประมาณด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจสูงเป็นประวัติการณ์ แต่สถานะการเงินการคลังของประเทศไทยยังคงแข็งแกร่ง ขณะนี้ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะต่อจีดีพีต่ำกว่า 60% แม้จะมีการกู้เงิน 1 ล้านล้านบาทก็ตาม
    “แม้จะมีข้อกำจัดด้านงบประมาณ แต่ก็สามารถที่จะใช้กลยุทธ์ในการกู้ยืมภาครัฐมาเป็นทางออกได้ เราอาจจะต้องหันไปพึ่งการกู้ยืมเมื่อจำเป็น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญก็คือการมีมาตรการเศรษฐกิจโดยไม่สละซึ่งวินัยทางการเงินการคลัง เพื่อที่จะทำเช่นนั้น เราจำเป็นจะต้องทำให้แน่ใจว่ามาตรการต่างๆ นั้นสามารถส่งผ่านไปยังโครงการที่มีประสิทธิภาพและเป็นโครงการที่เราต้องการอย่างแท้จริง รวมทั้งส่งความช่วยเหลือไปถึงกลุ่มบุคคลที่เป็นเป้าหมายได้อย่างแท้จริง” นายปรีดีระบุ
    สำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยหลังจากนี้ ภาครัฐจะเร่งผลักดันนโยบายต่างๆ ออกมาอย่างชัดเจน และเร่งรัดให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณมากขึ้น เพื่อเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะเป็นปัจจัยหลักในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมกับการส่งเสริมภาคท่องเที่ยวให้กลับมาฟื้นตัวขึ้น ซึ่งกระทรวงการคลังจะมีมาตรการเพิ่มเติมออกมาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กลับมา ขณะเดียวกัน ภาครัฐยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน จะทำให้ภาคอุตสาหกรรมของไทยสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้ โดยการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้ ซึ่งจะต้องได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากหน่วยงานต่างๆ ผ่านความร่วมมือกันของภาครัฐและเอกชน ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการค้าไปสู่ประเทศอื่นในภูมิภาค
    ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 2563 (Prime Minister’s Export Award 2020) พร้อมกล่าวตอนหนึ่งว่า ขอแสดงความยินดีและชื่นชมกับผู้ที่ได้รับรางวัล วันนี้โลกกำลังเปลี่ยนเราต้องปรับวิธีการทำงานทั้งหมด ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ส่วนราชการ และบริษัทต่างๆ ต้องไปดูว่าจะต้องปรับตัวอย่างไรให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกในปัจจุบันที่เรียกว่าโลกยุคความปกติใหม่ หรือนิวนอร์มอล ถือเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องดูในภาพรวมของทั้งโลก ซึ่งมีหลายกลุ่มหลายภูมิภาค บางประเทศก็ยังมีความขัดแย้งกันอยู่ ทำอย่างไรที่จะใช้วิกฤติให้เป็นโอกาส ในฐานะที่ประเทศเรามีทรัพยากรมากพอสมควรในทุกมิติ โดยเฉพาะเรื่องของเกษตรกรรม อาหาร และเครื่องสำอาง จึงต้องคิดค้นผลผลิตใหม่ของธุรกิจต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น ต้องส่งเสริมธุรกิจในนามแบรนด์ไทยไปต่างประเทศ
    นายกฯ กล่าวว่า เรื่องการพัฒนาทักษะผู้ประกอบการธุรกิจ เรื่องของเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลจำเป็นต้องส่งเสริม ขอร้องว่าอย่าทิ้งลูกจ้าง พนักงานไม่ว่าจะทันสมัยอย่างไร เราต้องพัฒนาลูกจ้างพนักงานของเราควบคู่ไปด้วย วันนี้เราอยู่ในยุค 4.0 โลกกำลังก้าวสู่ 5.0 จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย แต่การลดคนก็ต้องเกิดความเดือดร้อน เพราะแต่ละผู้ประกอบการหรือบริษัทมีลูกจ้างจำนวนมาก ถ้าเราใช้เทคโนโลยีใหม่ทั้งหมด ต้องดูว่าเราจะดูแลลูกจ้างพนักงานอย่างไร เพราะเขาเหล่านั้นเป็นผู้นำครอบครัวเช่นกัน เรากำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการเปลี่ยนผ่าน ทำอย่างไรเราจะฝึกคนเหล่านี้ให้ทำงานกับเครื่องจักรได้ จึงขอฝากทุกคนช่วยกันดูแล โดยเฉพาะช่วงวิกฤติโควิด-19 สิ่งสำคัญคือ ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ทุกอย่างจะเป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจ ความเข้าใจซึ่งกันและกัน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน จิตสำนึกร่วมกัน จะทำให้ประเทศชาติปลอดภัย ขอไม่พูดอย่างอื่นในตรงนี้ เพราะถือเป็นรากฐานของประเทศ หลายอย่างทุกคนก็ทราบดี
    “วันนี้เป็นช่วงของนิวนอร์มอล รัฐบาลก็ต้องปรับตัว ผมก็ต้องปรับตัวเอง เมื่อโลกเปลี่ยนเราก็ต้องปรับ ถ้าเราไม่ปรับก็จะไม่ทันโลก เรามีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน ประเทศไทยไม่ใช่คนไม่เก่ง ผมว่าเก่ง อาจจะเก่งที่สุดก็ได้ แต่ก็ขอให้อยู่ในกรอบของบ้านเมือง ทุกอย่างก็จะไปได้หมด รัฐบาลพยายามจะแก้ปัญหาในทุกประเด็น แต่เรื่องของเศรษฐกิจมีความสำคัญ และปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบให้กับทุกคน แต่ขอให้อดทนอีกระยะ ผมคิดว่าจะดีขึ้นในระยะเวลาต่อไป ผมคิดว่าคนไทยเป็นคนเก่ง คิดได้ทุกเรื่อง ขอให้คิดในเรื่องที่เป็นประโยชน์ในช่วงเวลานี้ให้มากที่สุด“ พล.อ.ประยุทธ์ระบุ.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"