“ณัฏฐพล” ย้ำมีสาระที่สำคัญมากต่อประเทศในพ.ร.บ.การศึกษาชาติ มากกว่าคำว่า"ครูใหญ่" หรือ "ผอ.รร."


เพิ่มเพื่อน    


31 ส.ค.63-นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการยกร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.... ว่า ขณะนี้ตนอยู่ระหว่างการพิจารณาเสนอข้อคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งตนต้องขอเวลาในการพิจารณาเรื่องนี้ เนื่องจากขณะนี้มีหลายเรื่องที่จะต้องนำมาประกอบการพิจารณา เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปการศึกษา อย่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่เกิดขึ้น เรื่องข้อเรียกร้องที่ตนได้รับฟังจากนักเรียน และเรื่องการพัฒนายกระดับการเรียนการสอนของอาชีวศึกษา ซึ่งไม่ได้หมายความว่าร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะกรรมการกฤษฎีกา เข้าไปถึงการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแล้วจะไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรเลย ซึ่งเป็นไปไม่ได้เพราะทุกกฎหมายที่มีการนำมาพิจารณา จะมีการพูดคุยและดูถึงความเหมาะสมแน่นอน อีกทั้งเรายังจะต้องให้เกียรติสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นตัวแทนของประชาชนทั่วทั้งประเทศ

“ทั้งนี้กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูล จะมาบอกว่าผมมีอำนาจเหนือตัวแทนของประชาชนนั้น เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและผมคิดว่าเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นธรรม ดังนั้นคนที่เริ่มให้ข้อมูลตรงนี้ควรจะต้องไปดูถึงเจตนารมณ์ ว่า ต้องการอะไร ทั้งนี้ผมขอฝากทุกคนให้ทำความเข้าใจกับกระบวนการตรงนี้ ซึ่งผมมั่นใจว่า เราหาทางออกในเรื่องของร่างพ.ร.บ.การศึกษาฯ ให้เป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับเด็กนักเรียนได้อย่างแน่นอน และผมขออนุญาตพูดถึงคนที่ให้ข้อมูล คนที่กระจายข้อมูล ว่า ต้องเข้าใจในกระบวนการเสนอกฎหมาย ในการนำเสนอร่าง พ.ร.บ.การศึกษาฯ ผ่านขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์มาแล้ว รวมถึงยังมีการเสวนาในเรื่องต่างๆ อย่างกว้างขวาง ดังนั้นผมจะนำเสนอร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นหลัก โดยจะมีความคิดเห็นของผมเพิ่มเติม ผ่านกระบวนการกฎหมายและการรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมจากนักเรียน”รมว.ศธ.กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีหลายฝ่ายกังวลเรื่องการใช้คำว่าครูใหญ่ แทน ผู้อำนวยการสถานศึกษา และปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้นั้น นายณัฏฐพล กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.การศึกษาฯ ฉบับนี้มีข้อที่สำคัญมากเกี่ยวกับการขับเคลื่อนการศึกษาไทย แต่ประเด็นที่ทุกคนพูดถึง คือ เรื่องว่าจะใช้คำว่าครูใหญ่ หรือ ผู้อำนวยการสถานศึกษา ซึ่งหากตนแสดงความคิดเห็น ตนไม่ได้มองว่าเรื่องนี้คือเรื่องที่จะทำให้การศึกษาพัฒนาไปในวงกว้าง หรือทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันได้กับต่างประเทศ ยังมีเรื่องอื่นๆ ในร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้อีกมากมาย อย่างเอาประเด็นที่ปัจจุบันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ของการปฏิรูปการศึกษา หรือการพัฒนาการศึกษา และเป็นการสร้างความแตกแยก ตอนนี้ทั้งครู นักเรียนและผู้บริหาร มีแนวทางที่ชัดเจน ว่า เราต้องการร่วมกันเดินทาง เพื่อพัฒนาการศึกษา ดังนั้นคนที่ให้ข้อมูลตรงนี้ตนคิดว่าต้องกลับไปพิจารณาถึงเหตุผลและแนวทางต่างๆ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"