มติเอกฉันท์! กมธ.งบฯ 63 เสียงเลื่อนซื้อเรือดำน้ำ 'ก้าวไกล' ข้องใจปีหน้าจะขออีกหรือไม่


เพิ่มเพื่อน    

ปีนี้ถอยก่อน ปีหน้าว่ากันใหม่ กมธ.งบฯเสียงส่วนใหญ่ โหวตปรับลดงบประมาณซื้อเรือดำน้ำ เผยแค่ชะลอ ประธานบอกปีหน้าตั้งงบคืนให้ใหม่ ก้าวไกลโวยอย่าแอบอ้างทุกพรรคเห็นชอบให้มีเรือดำน้ำ 

31 ส.ค.63 - ที่ห้องประชุมงบประมาณชั้น6 อาคารรัฐสภาฯ มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2563 มีการพิจารณารายงานของคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน โดยช่วงเริ่มการประชุมนายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นประธานอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ได้ชี้แจงผลการประชุมของคณะอนุก่อนหน้านี้ว่า คณะอนุกรรมาธิการฯได้ประชุมและปรับลดงบประมาณ 4521ล้านบาท จำแนกเป็น ปรับลดในแผนงานพื้นฐาน 567 ล้านบาท ปรับลดในแผนยุทธศาสตร์ 3954 ล้านบาท

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญฯ กล่าวว่า งบประมาณสำหรับจัดซื้อเรือดำน้ำควรชะลอไปก่อน ซึ่งจะทำให้เราได้รับเรือดำน้ำในปี 2571 จึงควรให้ที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญฯมีมติให้ปรับลดงบประมาณในส่วนนี้

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง หนึ่งในประธานการประชุม กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาได้เชิญกรรมาธิการแต่ละพรรคไปหารือถึงความเหมาะสมเกี่ยวกับเรือดำน้ำ จากการสอบถามได้มีข้อสรุปเห็นตรงกันว่าการมีเรือดำน้ำมีความจำเป็นอย่างยิ่ง จำนวน 3 ลำน้อยเกินไปด้วยซ้ำ เนื่องจากประเทศไทยมีทะเลถึงสองฝั่งและพื้นที่ชายฝั่งทะเล 12 ไมล์ทะเลยังมีพื้นที่ทับซ้อนด้านความมั่นคงที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชน เรือดำน้ำได้ผ่านออกมาเป็นงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ 2563 แต่ด้วยความปรารถนาดีและเห็นแก่เศรษฐกิจของประเทศ กองทัพเรือได้ส่งงบประมาณคืนเพื่อให้รัฐบาลไปแก้ปัญหาโควิด ต้องขอบคุณกองทัพเรือด้วยและจะมีการดำเนินการคืนงบประมาณให้ในปีงบประมาณ 2564 ต่อไป แต่เมื่อมาถึงการพิจารณางบประมาณปี 2564 ปรากฎว่าการแพร่ระบาดของโควิดยังไม่ได้คลี่คลาย เนื่องจากยังไม่มีวัคซีน ดังนั้น คณะกรรมาธิการวิสามัญฯเห็นว่าแม้เรือดำน้ำมีความจำเป็น แต่ยังไม่เหมาะในเวลานี้ เพราะโควิดอาจเกิดการระบาดรอบสองได้

"กระทรวงกลาโหมและกองทัพเรือได้แจ้งมายังคณะกรรมาธิการว่าในปี 2564 กองทัพเรือยินดีให้ปรับงบประมาณจำนวน 3,925 ล้านบาทในส่วนที่จะต้องไปจ่ายออกไปก่อนให้เป็นศูนย์ และให้กองทัพเรือไปใช้งบประมาณในปีถัดไปตามเห็นสมควร และให้กองทัพเรือไปเจรจากับทางผู้ผลิตว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรในการทำให้ประเทศไทยมีเรือดำน้ำตามความประสงค์ ปีนี้เลื่อนงบประมาณงวดแรกในการจ่ายเรือดำน้ำออกไป กองทัพเรือได้มีหนังสือแล้ว ส่วนเงินที่ปรับออกไปนั้นคงเป็นหน้าที่ของหน่วยรับงบประมาณและสำนักงบประมาณจะไปพิจารณา" นายสันติ กล่าว

ต่อมา นายสันติ ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ขอใช้สิทธิในฐานะกรรมาธิการ เพื่อเสนอญัตติให้คณะกรรมาธิการวิสามัญฯปรับลดงบประมาณในส่วนนี้ตามที่กองทัพเรือได้ทำมาเป็นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ

อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการวิสามัญฯในสัดส่วนของพรรคก้าวไกล อาทิ นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวที่ประชุมเพื่อให้มีการบันทึกว่า กรรมาธิการวิสามัญฯในส่วนพรรคก้าวไกล ไม่ได้คุยกับนายสันติตามที่มีการกล่าวอ้างว่าทุกพรรคเห็นควรให้มีการซื้อเรือดำน้ำ พรรคก้าวไกลยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการจัดซื้อเรือดำน้ำ และการเลื่อนออกไปเพียงหนึ่งปีงบประมาณนั้นไม่น่าจะเป็นประโยชน์

ขณะที่นายพิจารณ์ ได้สอบถามต่อที่ประชุมและตัวแทนสำนักงบประมาณว่า ปีงบประมาณ 2565 จะมีการพิจารณางบประมาณในส่วนเรือดำน้ำใหม่หรือไม่อย่างไร หรืองบประมาณส่วนนี้จะตกไปและกองทัพเรือต้องตั้งงบประมาณเข้ามาใหม่หรือไม่ และแนวทางของคณะกรรมาธิการวิสามัญกฎหมายงบประมาณในปีหน้าจะเป็นอย่างไรต่อไป

ด้านตัวแทนสำนักงบประมาณ กล่าวว่า รายการเรือดำน้ำที่มีการอนุมัติตั้งแต่ 2563 ส่วนการดำเนินการในปีงบประมาณ 2565 จะต้องรอความชัดเจนจากกองทัพเรือว่าได้มีการเจรจากับทางผู้ผลิตอย่างไรก่อน

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญและรองประธานคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ กล่าวว่า ก่อนจะลงมติควรให้คณะอนุกรรมาธิการฯได้กล่าวรายงานเรื่องดำน้ำต่อที่ประชุมก่อนว่าคณะอนุกรรมาธิการฯมีรายละเอียดในเรื่องเรือดำน้ำอย่างไรบ้าง

แต่ปรากฎว่านายวราเทพ รัตนากร ที่ทำหน้าที่ร่วมประธานการประชุม ตอบโต้ว่า เมื่อประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯได้เสนอญัตติให้ที่ประชุมลงมติแล้ว จะต้องไปสู่ขั้นตอนของการลงมติ ส่วนเรื่องรายละเอียดของของคณะอนุกรรมาธิการฯนั้น ที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญฯดูได้จากเอกสารอยู่แล้ว หากนายยุทธพงศ์จะขออภิปรายก็ทำได้เฉพาะกรณีที่ไม่เห็นด้วยกับการปรับลดงบประมาณการจัดซื้อเรือดำน้ำเท่านั้น

โดยข้อท้วงติงนายวราเทพกลางที่ประชุมทำให้นายยุทธพงศ์ยุติการขออภิปรายไป จากนั้น ที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีมติเอกฉันท์เห็นด้วย  63 เสียง ต่อ งดออกเสียง 3 เสียง กับการปรับลดงบประมาณตามที่นายสันติเสนอ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"