กำนันพลาดท่าถูกหมีควายพุ่งชนทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งปิดล้อมพื้นที่เพื่อไล่ล่าจับตัว ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก

8 ก.ย.63 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากำลังเจ้าหน้าที่ยังคงไล่ล่าตามหมีควาย ที่ยังคงหลบหนีเจ้าหน้าที่เข้าไปในป่าในเขต อ.สีมชมพู จ.ขอนแก่น หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกายประชาชนไปแล้วก่อนหน้านี้ 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบหมีควายอีกครั้ง จึงวางกำลังปิดล้อมและไล่ต้อนเพื่อยิงยาสลบ โดยในจังหวะที่เจ้าหน้าที่กำลังไล่ต้อนนั้น หมีควายได้จู่โจมพุ่งชนและต่อสู้กับนายสว่าง พรมนิล กำนันตำบลบริบูรณ์ จนเป็นเหตุให้นายสว่างได้รับบาดเจ็บแขนขวาหัก

โดยกำนันได้ต่อสู้ยิงหมีไป 1 นัด หมีจึงวิ่งหลบหนี ก่อนจะพุ่งชนชาวบ้านที่ขับรถจักรยานยนต์ผ่านมา ก่อนที่หมีจะกัดชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านใช้มือทั้ง 2 ข้างงัดปากหมีเอาไว้ จนกระทั่งมีคนเข้ามาช่วยได้ทัน หมีจึงวิ่งหนีไปเข้าป่าอ้อยอีกครั้ง โดยยอดรวมชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บจาการพยายามจับกุมหมี รวมทั้งหมด 5 ราย เป็นหญิง 2 ราย และชาย 3 ราย

อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้กระจายกำลังจัดจุดเฝ้าสังเกตการณ์เพื่อยิงยาสลบจับหมีควายตัวนี้ให้ได้ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงนี้ ทำให้เป็นอุปสรรคในการเดินเท้าต้องหาที่หลบฝนเพื่อรอฝนซาก่อนจึงจะออกปฏิบัติการอีกครั้ง พร้อมกันนี้ยังได้นำพารามอเตอร์มาใช้แต่เนื่องจากฝนตกจึงไม่สามารถขึ้นบินปฏิบัติภารกิจได้ในช่วงนี้ โดยความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

ทั้งนี้ สื่อโซเชียลทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้มีการเผยแพร่ภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "เบนซ์ ก้าวร้าว" ที่ได้โพสต์ภาพพื้นดินที่มีร่องรอยคล้ายรอยเท้าสัตว์ชนิดหนึ่ง พร้อมข้อความระบุว่า “พบเจอรอยหมี ณ บ้านสีชมพู มุ่งหน้าไปทางบ้านโคกป่ากุง ระวังกันเด้อครับ

ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังนายธนภัทร ภาษีภักดี อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/3 บ้านโนนสวรรค์ ต.สีชมพู อ.สีชมพู ซึ่งเป็นผู้โพสต์ บอกว่า เป็นคนถ่ายภาพรอยเท้าดังกล่าวเองโดยเพื่อนบ้านเป็นคนเจอที่ทุ่งนาบ้านสีชมพู ต.สีชมพู โดยเพื่อนบ้านบอกว่าเจอหมีตัวใหญ่ สีดำ สูงประมาณ 150 - 160 ซม. โดยบังเอิญ

"หมีวิ่งไปทางบ้านโคกป่ากุง คนที่พบต่างคนต่างเดินหนี จากนั้นก็วิ่งกลับมาบอกผมที่บ้าน ผมจึงโพสต์ เพื่อเตือนให้ชาวบ้านระมัดระวัง เบื้องต้นไม่ทราบว่าหมีตัวดังกล่าวมาจากไหนเพราะแถวนี้ไม่มีป่า มีแต่ไร่อ้อย ขณะนี้ได้แจ้งเจ้าหน้าที่แล้วพร้อมกับประกาศเสียงตามสายในหมู่บ้านเพื่อเตือนให้ชาวบ้านระมัดระวัง"