ในที่สุด “ทั่นผู้ทรงเกียรติ” ก็ได้ฤกษ์โชว์หน้าโชว์ตาและโชว์กึ๋น (?) ในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเรื่องวิกฤติทางเศรษฐกิจและวิกฤติทางการเมือง โดยไม่มีการลงมติตามมาตรา 152 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กรุงเทพมหานคร ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กับคณะจำนวน 79 คนเป็นผู้เสนอ ซึ่ง “น.อ.อนุดิษฐ์” ในฐานะผู้เสนอก็เป็นผู้ประเดิมญัตติดังกล่าวในยุคนิวนอร์มอลแบบที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาอย่าง “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ส.ส.เชียงใหม่ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยไม่ต้องออกโรงแต่ประการใด ...๐

ผ่านไปครึ่งค่อนวันในการอภิปรายก็ได้แต่มึนงงสงสัยอย่างยิ่งว่า ตกลงเป็นการเปิดอภิปรายในมาตรา 152 หรือไม่กันแน่ เพราะดูแล้วแทบจะนึกว่าเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 แบบหย่อมๆ แต่ไม่ดุเด็ดเผ็ดมันส์เท่านั้นแล แล้วที่ให้ขำไม่ออกคือแพตเทิร์นการลงท้ายของผู้อภิปรายแต่ละราย ไล่มาตั้งแต่ “อนุดิษฐ์” “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ และ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล (กก.) และบรรดาลูกหาบต่างๆ ที่เรียกร้องให้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลาออก เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน เรียกว่า ตกลงเอาอย่างไรกันแน่  ถ้าลาออกก็เลือกนายกฯ ใหม่ แล้วจะคืนอำนาจประชาชนอย่างไรกันเล่า ...๐

สีสันที่มีการประท้วงคนแรก หลังจากที่อภิปรายมาอย่างไร้ปัญหา คงหนีไม่พ้นงานถนัดของ “เจี๊ยบ นครปฐม” หรือ “อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ลุกขึ้นมาอภิปรายโดยใช้ถ้อยคำเสียดสี “ลุงตู่” อย่างต่อเนื่อง จนประท้วงกันวุ่นกว่า 20 นาที ซึ่งก็โดน “น้องเอ๋” ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เชือดนิ่มๆ ว่า นี่เป็นญัตติอภิปรายทั่วไป ไม่ใช่อภิปรายไม่ไว้วางใจ ...๐

แต่ที่งามไส้สำหรับทั่นผู้ทรงเกียรติคงไม่มีการอภิปรายใดเกิน “นิคม บุญวิเศษ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทย ที่อุตส่าห์ไปลากการออกหวยรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 ก.ย.ที่ออกหมายเลข “999997” มาโจมตีรัฐบาลในความน่าเชื่อถือ พิโธ่! เพราะศักยภาพฝ่ายค้านแบบนี้นั่นเอง ที่ทำให้รัฐบาลไม่ได้ใส่ใจ หรือต้องแคร์การตรวจสอบจากพลพรรคฝ่ายค้านแต่ประการใด ...๐

บอกได้คำเดียวว่า การอภิปรายในมาตรา 152 ครั้งนี้ ก็เป็นแค่พิธีการของพลพรรคฝ่ายค้านในการจัด “อีเวนต์” ของผู้ทรงเกียรติได้โชว์หน้าตา และเสียงผ่านการถ่ายทอดสดเท่านั้น เพราะหากพินิจพิเคราะห์กันอย่างถ่องแท้แล้ว ไม่ได้มีการซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะแต่ประการใดเลย เพราะหากคิดว่ามีปัญหาทั้งวิกฤติเศรษฐกิจและการเมืองเหมือนหนังสือที่ยื่นญัตติ และต้องการช่วยประเทศชาติอย่างแท้จริง ทำไมไม่ยื่นตามมาตรา 155 เล่า เพราะเป็นการประชุมแบบทั้งรัฐสภา เรียกว่าระดมความคิดทั้ง ส.ส.และ ส.ว.รวมทั้ง ครม.ด้วย แต่ที่ทำให้ฝ่ายค้านต้องเบรกในมาตรานี้ก็เพราะต้องประชุมลับ ที่ทำให้ผู้ทรงเกียรติไม่ได้ชูหน้าชูคอออกทีวีนั่นเอง ...๐

หันมาเรื่องรัฐธรรมนูญกันบ้าง เรียกว่า “16 กบฏ” พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไปร่วมลงชื่อในญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อปิดสวิตซ์สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กับพรรคก้าวไกล ก็มีอันต้องสะดุดหยุดลง ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงเสียแล้ว เมื่อ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้เริ่มทยอยถอนชื่อออกไปแล้ว ซึ่งรวมถึง ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคเล็กๆ ที่อยู่ร่วมรัฐบาลแล้วไปร่วมลงชื่อกับพรรคก้าวไกลด้วย ...๐

ต้องเรียกว่า “แท้ง” ตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มออกแขกกันเลยทีเดียว ต่างจากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่นำโดย “พริษฐ์ ชิวารักษ์” หรือเพนกวิน และคณะ ที่ประกาศการนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 19 ก.ย. ซึ่งใช้ชื่อว่า "19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร" โดยระบุว่าเรียกรวมพลตั้งแต่เวลา 14.00 น.เป็นต้นไป ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และจะชุมนุมปักหลักข้ามคืน ก่อนเดินขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 20 ก.ย. โดยจะเริ่มเคลื่อนขบวนตั้งแต่ 08.00 น. พร้อมทั้งระบุว่า หากมีผู้เข้าร่วมชุมนุมมากจนแออัดใน ม.ธรรมศาสตร์ จะเคลื่อนเข้าใช้สนามหลวงเป็นที่ชุมนุมแทน พร้อมขอปิดถนนราชดำเนินกลางจากธรรมศาสตร์ไปถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยให้เป็นถนนราษฎรดำเนิน ...๐

ก็ไม่รู้ว่า “เพนกวิน” จะได้ยาโด๊ปดีอะไรมา เพราะขนาดคำเตือนจากรุ่นพี่ที่คดีเป็นหางว่าวอย่าง “จตุพร พรหมพันธุ์” เตือนด้วยความหวังดีว่าอย่าแตะต้องเรื่องสถาบัน แต่ดูเหมือน “เพนกวิน” จะไม่สนใจ พร้อมยืนยันได้ทำลายเพดานวันที่ 10 ส.ค. เปิดฟ้ากว้างแล้ว ไม่ยอมให้ใครเอามาปิด เชื่อว่าพี่น้องประชาชนเห็นเหมือนกัน มวลชนชี้ขาดชัยชนะครั้งนี้ได้ แหม่! อย่ามั่นใจกับอนาคตเกินไปนะจ๊ะคนดี ...๐

 

...ท.ศักดิ์