เมียนมายืนกรานจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปตามกำหนดที่วางไว้ในเดือนพฤศจิกายน ไม่นำพาเสียงเรียกร้องจากพรรคฝ่ายค้านให้เลื่อนเลือกตั้งเพราะสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นไม่หยุด โดยยอดสะสมมากกว่า 6,000 คนแล้ว

    รายงานของรอยเตอร์เมื่อวันจันทร์ที่ 21 กันยายน กล่าวว่า เมียนมามีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เมื่อวันอาทิตย์ 671 ราย เป็นสถิติรายวันสูงสุดของประเทศนี้นับแต่เริ่มพบผู้ติดเชื้อเมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งทำให้ยอดสะสมในวันอาทิตย์เพิ่มเป็น 5,541 ราย เสียชีวิต 92 ราย

    ข้อมูลอย่างเป็นทางการจากฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ในสหรัฐวันจันทร์เผยว่า เมียนมามีผู้ติดเชื้อไวรัสสะสมล่าสุด 6,151 ราย เสียชีวิตเพิ่มเป็น 98 ราย

    การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งเริ่มมีสถานการณ์รุนแรงที่รัฐยะไข่เมื่อเดือนสิงหาคมก่อนจะลามไปทั่วประเทศ ทำให้หลายพรรคการเมืองต้องระงับการหาเสียงในนครย่างกุ้งเมื่อวันจันทร์ ภายหลังทางการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วเมืองหลวงเก่าแห่งนี้ และบังคับให้ประชาชนส่วนใหญ่จากประชากรราว 5 ล้านคนต้องทำงานจากบ้าน

    รอยเตอร์อ้างคำกล่าวของมยิน ไนง์ เจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะกรรมการการเลือกตั้งเมียนมาว่า พวกเขาไม่มีแผนจะเลื่อนการเลือกตั้งด้วยเหตุผลเพราะโควิด-19 แต่จะเพิ่มจำนวนหน่วยเลือกตั้งจาก 40,000 หน่วย เป็น 50,000 หน่วย เพื่อหลีกเลี่ยงความแออัด โดยเจ้าหน้าที่จะสวมชุดป้องกันเชื้อโรค และผู้ใช้สิทธิจะต้องล้างมือ

    นักวิเคราะห์หลายรายมองว่า การเลือกตั้งทั่วไปของเมียนมาวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ จะเป็นบททดสอบขอบเขตของการปฏิรูปประชาธิปไตยของเมียนมา

    โมนยวา อ่อง ชิน เจ้าหน้าที่อาวุโสของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของนางอองซาน ซูจี เชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่ก่อให้เกิดความแตกต่างต่อวิถีของการระบาด การเผชิญหน้ากับอันตรายจึงเป็นการดีกว่า

    สัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคการเมืองฝ่ายค้าน 24 พรรค ส่งจดหมายถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งเรียกร้องให้ทบทวนเลื่อนวันเลือกตั้ง โดยอ้างสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า พรรคการเมืองต่างๆ กำลังหันไปหาเสียงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ แต่ก็ต้องใช้เวลาในการตั้งตัว นอกจากนี้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตชนบทห่างไกลก็เข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต

    ส่วนที่รัฐยะไข่ ซึ่งถูกล็อกดาวน์มาหลายสัปดาห์แล้ว ผู้สมัครก็ไม่สามารถออกไปหาเสียงได้ อีกทั้งการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในหลายพื้นที่ของรัฐนี้ก็โดนปิดกั้นเพราะการสู้รบระหว่างกองทัพกับกองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์.