ชาวบ้านออกล่าเขียด-ลูกกบหลังฝนตก สร้างรายได้ดีราคาพุ่ง กก.ละ 120 บาท จับได้เท่าไหร่ก็ไม่พอคนกิน


เพิ่มเพื่อน    

22 ก.ย.63 - ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยเตย ม.9 ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น มีประชาชนจำนวนมากนำไฟส่องสว่างและอุปกรณ์สำหรับการจับเขียด และลูกกบที่ประดิษฐ์และคิดค้นขึ้นเอง ออกมาทำการล่ากบและล่าเขียด ที่อยู่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำ ภายหลังจากเกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนักอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้บริเวณโดยทั่วไปโดยเฉพาะทุ่งนาและในอ่างเก็บน้ำมีน้ำปกคลุมพื้นที่อย่างมาก กบและเขียดที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติต่างพากันออกมาเล่นน้ำ

ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจการออกล่ากบและล่าเขียดของชาวบ้านในเขต ต.ท่าพระ พบว่าส่วนใหญ่มีการเตรียมอุปกรณ์ในการออกหาในระดับชำนาญการ ทั้งการสวมใส่รองเท้าบูท การใช้ไฟส่องสว่างที่สวมใส่บริเวณศีรษะ โดยมีถุงตาข่ายขนาดพอเหมาะพกติดตัวมาด้วย แต่ที่ขาดไม่ได้คือไม้จับเขียด ที่ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาเองด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน ด้วยการนำไม้ไผ่ขนาดความยาวประมาณ 2 เมตรทำเป็นด้าม ขณะที่อุปกรณ์ที่ใช้จับมีเพียงขวดน้ำอัดลมขนาดพอดีเจาะรูตรงกลางขวด ก่อนที่จะตัดเฉพาะปลายขวดอีก 1 ใบมาเสียบเข้าก่อนใช้ไม่ไผ่เสียบทับอีกครั้งก็จะได้อุปกรณ์ในการจับลูกกบและลูกเขียดทันที

นายปัดชา คำศรี สมาชิกสภา อบต.ท่าพระ กล่าวว่า สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาต่อเนื่องถึงวันนี้ทั่วทั้ง ต.ท่าพระ มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องแม้วันนี้ฝนจะหยุดตกไปแล้วแต่ปริมาณน้ำขังยังคงเต็มทุ่งนาและพื้นที่ริมอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ จึงได้ชักชวนเพื่อนบ้านและคนในครอบครัวออกมาล่าเขียดและล่ากบไปเพื่อนำไปประกอบอาหารและเหลือก็จะนำไปจำหน่าย โดยเฉพาะที่อ่างเก็บน้ำห้วยเตยแบบนี้จะมีเขียดในสายพันธุ์ต่างๆที่รับประทานได้อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเขียดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติรวมทั้งกบบางชนิดด้วย

"การออกล่าของเหล่านักล่าเขียดและล่ากบในแบบภูมิปัญญาชาวบ้านนั้น คือการที่ต่างคนต่างเดินไปโดยรอบอ่างเก็บน้ำโดยเฉพาะริมขอบอ่างที่มีปริมาณน้ำไม่มากนัก โดยใช้ไฟส่องสว่างที่เตรียมมาที่สวมอยู่บนศีรษะนั้นส่องส่ายไปมา โดยเมื่อแสงไฟกระทบกับตัวเขียดหรือกระทบกับลูกตาของกบและเขียดแล้วนั้นนักล่าก็จะเดินตรงดิ่งเข้าไปทันทีในระยะที่เหมาะสม

จากนั้นใช้ไฟส่องเข้าที่ตาของตัวเขียดเพื่อให้ตัวเขียดหยุดนิ่งกับที่ ก่อนที่จะใช้อุปกรณ์ที่ประดิษฐ์ขึ้นครอบตัวเขียดเอาไว้ และเขย่าไปมาเล็กน้อยเพื่อให้เขียดกระโดดจากพื้นเข้าไปในขวด เพียงเท่านี้ก็จะได้เขียดและลูกกบ มาเพื่อนำกลับไปประกอบอาหารหรือจำหน่าย"

นายปัดชา กล่าวต่ออีกว่า หากจุดใดที่ไฟส่องกระทบกับตากบแล้วแต่ไม่สามารถใช้อุปกรณ์ได้ เพราะบางทีเขียดและลูกกบ ก็มักจะอยู่ในน้ำ หรือใกล้กับกองขี้ควาย นักล่าก็จะใช้มือในการจับแทน ซึ่งก็จะมีกระโดดหนีบ้างแต่ด้วยความชำนาญของนักล่าส่วนใหญ่จะไม่รอด โดยแต่ละวันจะออกล่าตั้งเวลา ประมาณ 18.30-21.00 น. ก็จะได้เขียดและลูกกบประมาณคนละ 1 กก. แต่ถ้าวันใดฝนตกรินๆ เขียดและลูกกบจะออกมาเล่นน้ำมากกว่าปกติชาวบ้านก็จะจับได้มาก

เขียดและลูกกบที่จับได้นั้นส่วนใหญ่จะนำกลับไปประกอบอาหาร ซึ่งเป็นอาหารอีสานประจำถิ่นที่ขึ้นชื่อไม่ว่าจะเป็นปิ้งเขียด,อ่อมเขียด,หมกเขียด,ใส่หัวปลี,ผัดเผ็ดเขียดหรือกบ รมทั้งเขียดและกบทอดกระเทียมพริกไทย เพราะเขียดนั้นตัวเล็ก ท้องสีขาว ตัวสีเหลืองสังเกตได้ง่ายเมื่อกระทบกับแสงไฟ ซึ่งนอกจากการออกล่าในช่วงนี้เพื่อมารับประทานแล้วยังคงมีการส่งจำหน่ายให้กับลูกค้าในชุมชนหรือส่งตามท้องตลาด ซึ่งราคาจำหน่ายเขียดอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท ลูกกบ กิโลกรัมละ 120 บาท ซึ่งจับมาเท่าไหร่ก็ส่งจำหน่ายได้หมดไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารพื้นบ้านในช่วงหน้าฝนแบบนี้อย่างมากอีกด้วย


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"