'ทรัมป์'โพสต์คลิปสบายดี แต่หมอเผยยังไม่พ้นอันตราย


เพิ่มเพื่อน    

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์วิดีโอจากโรงพยาบาลทหารที่เข้ารักษาอาการป่วยโควิด-19 ยืนยันรู้สึกดีขึ้นแล้วและจะหายในเร็ววันนี้ แต่ยอมรับ 1-2 วันข้างหน้าเป็นบททดสอบที่แท้จริง ด้านแพทย์ประจำตัวเผยผู้นำสหรัฐยังไม่พ้นอันตราย ขณะที่ผู้ติดเชื้อในกลุ่มก้อนเดียวกันจากทำเนียบขาวยังเพิ่มจำนวนไม่หยุด

    วิดีโอความยาวประมาณ 4 นาทีที่ทรัมป์เผยแพร่ทางทวิตเตอร์เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม มีออกมาภายหลังการให้ข่าวอย่างสับสนจากทำเนียบขาวเกี่ยวกับอาการของประธานาธิบดีสหรัฐวัย 74 ปีผู้นี้

    "ผมมาที่นี่โดยรู้สึกไม่ค่อยสบายนัก แต่ตอนนี้ผมดีขึ้นมากแล้ว" ทรัมป์กล่าวจากห้องชุดภายในศูนย์การแพทย์แห่งชาติวอลเตอร์รีดใกล้กรุงวอชิงตัน ทรัมป์มีท่าทีผ่อนคลายแต่ดูอ่อนเพลีย โดยสวมเสื้อเชิ้ตปลดกระดุมเปิดคอและเสื้อสูทสีน้ำเงิน เขาบอกด้วยว่า เริ่มรู้สึกดีแล้ว แต่ไม่รู้ว่า 1-2 วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร "ผมเดาว่าจะเป็นบททดสอบที่แท้จริง เราจะได้เห็นกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นใน 1-2 วันข้างหน้านี้"

    คำยืนยันจากปากทรัมป์มีออกมาไม่กี่ชั่วโมงไล่หลังการให้ข่าวและคำแถลงที่ขัดแย้งกันจากทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเกี่ยวกับอาการของทรัมป์ นับตั้งแต่เขาประกาศเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม ว่าตนเองติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แล้วในวันศุกร์ก็ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลทหารแห่งนี้

    ช่วงเช้าวันเสาร์ คณะแพทย์ประจำทำเนียบขาวกล่าวว่า อาการของทรัมป์ทุเลาลง และทรัมป์พูดถึงเรื่องกลับมาทำเนียบขาวแล้ว นายแพทย์คนหนึ่งบอกว่า ผู้นำสหรัฐกล่าวกับทีมแพทย์ว่า เขารู้สึกว่าวันนี้น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้

    ทว่าไม่กี่นาทีหลังจากนั้น มาร์ก เมโดวส์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ของทำเนียบขาว ให้ข่าวกับนักข่าวโดยประเมินอาการของทรัมป์ไม่ดีนัก โดยบอกว่าช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อาการของทรัมป์น่าเป็นห่วงมาก และ 48 ชั่วโมงนับจากนี้จะเป็นช่วงเวลาวิกฤติของการรักษา ทรัมป์ยังไม่อยู่บนเส้นทางชัดเจนที่จะหายเป็นปกติ

    ช่วงค่ำวันเสาร์ นายแพทย์ฌอน คอนลีย์ หัวหน้าคณะแพทย์ประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า ทรัมป์ "ยังไม่พ้นอันตราย" แต่ทีมแพทย์ "มองในแง่ดีอย่างระมัดระวัง" ขณะที่่เมโดวส์บอกกับฟ็อกซ์นิวส์ว่า อาการของทรัมป์เมื่อเช้าวันศุกร์น่าวิตกจริงๆ เขามีไข้และระดับออกซิเจนในเลือดลดลงอย่างรวดเร็ว

    เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวผู้นี้ยืนยันว่าไม่มีความเสี่ยงถึงขั้นที่ทรัมป์ต้องส่งมอบอำนาจให้รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ซึ่งผลตรวจเมื่อวันศุกร์ไม่พบการติดเชื้อ

    เจ้าหน้าที่หลายคนกล่าวว่า การส่งทรัมป์เข้าโรงพยาบาลเมื่อวันศุกร์เป็นเพียงการป้องกันไว้ก่อน แต่แหล่งข่าวที่ได้ฟังรายงานสรุปอาการของทรัมป์เผยว่า ทรัมป์ต้องรับออกซิเจนก่อนถูกส่งเข้าโรงพยาบาล โดยการตัดสินใจส่งตัวทรัมป์ไปโรงพยาบาลนั้นเป็นเพราะเขาหายใจลำบากและระดับออกซิเจนลดลง

    แต่ที่ด้านนอกโรงพยาบาลเมื่อวันเสาร์ นายแพทย์คอนลีย์ปฏิเสธข่าวที่ว่าทรัมป์มีปัญหาหายใจลำบาก และยืนยันว่าทรัมป์ไม่ได้รับออกซิเจนที่โรงพยาบาล

    แพทย์ผู้นี้ปฏิเสธจะกำหนดกรอบเวลาว่าทรัมป์จะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อใด หลังจากนั้นเขายังออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อมูลที่เขาให้ข่าวไปก่อนหน้านี้ เรื่องการตรวจเชื้อไวรัสของทรัมป์ โดยอ้างว่าเขาพูด
ผิดที่บอกว่าทรัมป์ตรวจพบว่ามีอาการป่วยตั้งแต่วันพุธ

    ประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับยาต้านไวรัส เรมเดซิเวียร์ ทันทีที่ถึงโรงพยาบาลเมื่อวันศุกร์ คอนลีย์เผยเมื่อวันเสาร์ว่า ทรัมป์ได้รับยาโดสที่ 2 ในคอร์ส 5 วัน รวมถึงยาแอนติบอดีสูตรผสมที่ยังอยู่ในขั้นตอนทดลอง 1 โดสขนาด 8 กรัม แต่เขาและทีมแพทย์รวมถึงทำเนียบขาวไม่ชี้แจงเหตุผลว่าทำไมทรัมป์จึงรับยาแอนติบอดีที่ยังอยู่ในขั้นทดลองในเมื่ออาการของเขาน่าพอใจ

    ภายหลังทรัมป์และนางเมลาเนีย ภริยาของเขา ประกาศว่าติดไวรัสนี้ ก็มีผู้ใกล้ชิดอีกหลายคนถูกตรวจพบว่าติดเชื้อ ซึ่งรวมถึง ส.ว.ไมค์ ลี, ส.ว.ทอม ทิลลิส, ส.ว.รอน จอห์นสัน, เคลลีแอนน์ คอนเวย์ อดีตที่ปรึกษาอาวุโสของทำเนียบขาว, บิล สเตเปียน ผู้จัดการหาเสียง และคริส คริสตี อดีตผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ซึ่งเป็นที่ปรึกษาการหาเสียงของทรัมป์

    บุคคลเหล่านี้ถูกเรียกว่า "กลุ่มก้อนทำเนียบขาว" ซึ่งรวมถึงโฮป ฮิกส์ คนสนิทของทรัมป์ ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อก่อนคนแรกเมื่อวันพุธ โดยทั้งหมดอยู่ร่วมในงานแถลงข่าวที่โรสการ์เดนของทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่ทรัมป์ประกาศเสนอชื่อผู้พิพากษาเอมี โคนีย์ แบร์เรต เป็นตุลาการศาลฎีกา แบร์เรตตรวจเชื้อเมื่อวันศุกร์ แต่ผลเป็นลบ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"