สำนักพระราชวังเคนซิงตันประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าหญิงเคต พระชายา ทรงตั้งพระนามพระโอรสองค์ใหม่แล้วว่า เจ้าชายหลุยส์ อาร์เธอร์ ชาร์ลส์

พระพักตร์ชัดๆ ของเจ้าชายหลุยส์แห่งเคมบริดจ์  / AFP

    แถลงการณ์สำนักพระราชวังเคนซิงตัน เมื่อวันศุกร์ที่ 27 เมษายน 2561 กล่าวว่า ดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงมีความปีติที่จะประกาศว่า ทั้ง 2 พระองค์ทรงตั้งชื่อพระโอรสว่า หลุยส์ อาร์เธอร์ ชาร์ลส์ และเจ้าชายพระองค์น้อยนี้จะมีพระยศว่าเจ้าชายหลุยส์แห่งเคมบริดจ์

    พระนามของเจ้าชายประกอบด้วยพระนามของพระญาติฝ่ายทวดของเจ้าชายวิลเลียม คือ หลุยส์ เมาท์แบตเทน ซึ่งโดนกองทัพสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (ไออาร์เอ) สังหารเมื่อปี 2522 ส่วนชาร์ลส์เป็นพระนามของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมาร ซึ่งเป็นพระอัยกา (ปู่) ขณะที่ชื่ออาร์เธอร์สั้นเป็นชื่อนักแทงเดิมพันกะเก็งกันไว้

    ปัจจุบัน ชื่อหลุยส์เป็นชื่อที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 71 สำหรับการตั้งชื่อเด็กชายในอังกฤษและเวลส์

    เจ้าชายหลุยส์ประสูติที่โรงพยาบาลเซนต์แมรีส์ในกรุงลอนดอน เมื่อเวลา 11.01 น. วันจันทร์ที่ 23 เมษายน (ตรงกับ 17.01 น. วันเดียวกันของไทย) โดยมีน้ำหนักแรกประสูติ 3.8 กิโลกรัม

ดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงนำพระโอรสองค์น้อยมาปรากฏพระองค์ต่อสื่อมวลชน หน้าโรงพยาบาลเซนต์แมรีส์ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2561 / AFP

    เจ้าชายเป็นพระราชปนัดดา (เหลน) องค์ที่ 6 ในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ ซึ่งเพิ่งเจริญพระชนมพรรษาครบ 92 พรรษา เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว และเป็นรัชทายาทลำดับที่ 5 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ต่อจากพระอัยกา, พระบิดา, เจ้าชายจอร์จ พระเชษฐา ซึ่งมีพระชันษา 4 ปี และเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ พระภคินี ซึ่งมีพระชันษา 2 ปี

    การแก้ไขกฎมณเฑียรบาลเมื่อปี 2555 ส่งผลให้ทายาทองค์ที่ 3 ของเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคตทรงดำรงพระยศเจ้าชายได้ ไม่ใช่การสงวนไว้สำหรับพระโอรสองค์โต คือเจ้าชายจอร์จเพียงเท่านั้น อย่างไรก็ดี กฎมณเฑียรบาลใหม่นี้ยังยกสถานะทายาทฝ่ายหญิงให้เทียบเท่าฝ่ายชาย ซึ่งทำให้เจ้าชายหลุยส์มีลำดับสืบราชสันตติวงศ์ต่อจากเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ พระภคินี

    หลุยส์ เมาต์แบตเทน เป็นพระญาติของพระอัยกาของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ที่พระองค์ทรงรักยิ่ง และเป็นพระปิตุลาของเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ ชื่อหลุยส์ยังเป็นพระนามกลางของเจ้าชายจอร์จด้วยเช่นกัน.

เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายสื่อมวลชนที่เฝ้ารอหน้าโรงพยาบาล ขณะที่พระบิดาพาเจ้าหญิงและเจ้าชายจอร์จมาเยี่ยมพระอนุชาที่เพิ่งประสูติ / AFP