"บิ๊กฉัตร" เบรกม็อบสงฆ์ไล่ ผอ.พศ. ตั้งคำถามมันจะดีหรือ เพราะเรายังเข้าวัดไหว้พระกันอยู่ ขณะที่ "หลวงปู่พุทธะอิสระ" แฉแหลก "พระมาเฟีย"      อีสานสายเสื้อแดงรวมหัวกับผู้เสียประโยชน์ หนุนหลังปลุกมวลชน อ้างคดีเงินทอนวัดเป็นใบสั่งจากศาสนาอิสลาม ซัด "รัฐบาลปู" เทกแคร์ ซัพพอร์ตจนสงฆ์ต้อตอบแทนด้วยการเป็นหัวคะแนนให้การเมือง มส.ตั้งกรรมการติดตามการสอบพระผู้ใหญ่ทั้ง 5 รูปแล้ว
    พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการทุจริตเงินทอนวัดที่มีพระระดับผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเพิ่มเติมจากที่เคยได้รับรายงานจากนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) 
    ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการปลุกม็อบพระมาขับไ ล่ ผอ.พศ.นั้น รองนายกฯ บอกว่า อยากให้คิดกันดูว่าถ้ามีแบบนี้แล้วมันดีหรือไม่ 
    “ถึงอย่างไรเราก็ยังเข้าวัดไหว้พระกันอยู่ หากปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี และไม่ควรทำ ใครถูกใครผิด ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ ทุกคนต้องยอมรับ"
    พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า สำหรับ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ.นั้น ก็เหมือนกับที่นายกฯ บอก ว่าท่านก็ไม่ได้ผิดอะไร ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้เรียก ผอ.พศ.มาพูดคุยแล้ว ก็ได้รับการยืนยันว่าท่านทำตามหน้าที่ ซึ่งเราก็เห็นอยู่ ดังนั้นก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าท่านทำ ไม่ได้ผิดอะไร
    เมื่อถามว่า การที่มีพระผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้อง และกำลังมีการดำเนินคดีขณะนี้ จะทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนาหรือไม่ รองนายกฯ ตอบว่าต้องดูข้อเท็จจริง บางครั้งข่าวที่ออกไปยังไม่มีข้อมูลเพียงพอ เพราะบางข้อมูลไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเข้าสู่กระบวนการแล้ว 
    "ขอให้ใจเย็น ยึดถือกระบวนการและหลักฐานเป็นสำคัญ เราต้องเชื่อกระบวนการ หากขาดความเชื่อมั่นตรงนี้ บ้านเมืองก็จะสับสนวุ่นวาย" พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
    ด้านพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือหลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โพสต์ข้อความ "งานนี้ต้องขยาย" ผ่านเพจเฟซบุ๊ก หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ว่า "เห็นข่าวคุณตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมือง จังหวัดขอนแก่น นำคณะกรรมการและสมาชิกองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันเข้ายื่นหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดขอนแก่น
        ให้ส่งผ่านถึงนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เรียกร้องให้ปกป้อง พ.ต.ท.พงศ์พร ที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยสุจริต ซื่อตรง มิให้มีผู้ใดมารังแกหรือขัดขวางในการปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบคดีทุจริตเงินทอน ที่มีพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่และข้าราชการสำนักพุทธฯ รวมหัวกันทุจริต
        นอกจากนี้ ประชาชนคนขอนแก่นกลุ่มนี้ยังเรียกร้องให้ผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ ได้ทำการตรวจสอบคดีทุจริตในกรณีอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในสำนักพุทธฯ และพระสงฆ์ด้วย
         สิ่งที่น่าสนใจคือ คุณตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ได้กล่าวว่ากรณีมีกลุ่มบุคคลที่ออกมาเคลื่อนไหว รวมตัวเรียกร้องให้ปลด พ.ต.ท.พงศ์พรออกจากตำแหน่งนั้น ได้ตรวจสอบพบว่าเป็นกลุ่มจัดตั้งโดยมีพระมาเฟียหนุนหลังอยู่ รวมหัวกับผู้เสียผลประโยชน์
        จากประเด็นนี้ พุทธะอิสระจึงได้โทร.ไปสอบถามเพื่อนพระด้วยกัน ที่เป็นเจ้าอาวาส ได้รับคำบอกเล่าตรงกันว่า มีการเคลื่อนไหวจากเจ้าอาวาสทางภาคอีสาน ที่อยู่ในเขตการปกครองของ....
          ซึ่งก็เป็นวัดที่มีรายชื่อถูกดำเนินคดีทุจริตรวมอยู่ด้วย
          แต่ที่น่าสนใจคือ มีนักบวชที่เป็นอาจารย์ในมหา'ลัยสงฆ์ เคยขึ้นเวทีเสื้อแดงทำหน้าที่ติดต่อประสานงาน เตรียมระดมพลพรรคพระและฆราวาส ให้ออกมากดดันรัฐบาล ให้ย้าย ผอ.สำนักพุทธฯ  
         โดยมีการให้ข้อมูลที่บิดเบือนแก่บรรดาเจ้าอาวาสในภาคอีสานกล่าวหา ผอ.สำนักพุทธฯ และรัฐบาล คสช. กำลังทำลายพระพุทธศาสนานิกายมหานิกาย โดยมีใบสั่งมาจากศาสนาอิสลาม
         เพื่อนพระยังบอกอีกว่า เจ้าอาวาสส่วนใหญ่ในภาคอีสานล้วนแต่ใกล้ชิดกับวัดสระเกศ เพราะสมเด็จเกี่ยวเคยดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนอีสาน อีกทั้งเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันที่กำลังเจอคดีทุจริต ... คุม 6 จังหวัด อันประกอบด้วย จังหวัดอุบลราชธานี, จังหวัดยโสธร, จังหวัดนครพนม, จังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดอำนาจเจริญ
        เมื่อครั้งรัฐบาลนายกปู มีการทุ่มงบประมาณของสำนักพุทธมหาศาล ในการพาเจ้าอาวาสในภาคเหนือ ภาคอีสาน ออกเดินทางไปทั่วอินเดียและทั่วยุโรป ไปชมสำนักวาติกัน ซึ่งโดยเนื้อแท้แล้ว เหมือนกับพาหัวคะแนนของพรรคการเมืองออกไปเที่ยวต่างประเทศนั่นเอง
          ไหนใครว่าพระไม่ยุ่งการเมืองไงล่ะ ก็การเมืองมาเทกแคร์ ซัพพอร์ตพระเสียขนาดนี้ แล้วพระจะแล้งน้ำใจได้อย่างไร เพราะฉะนั้นเวลามีเลือกตั้งด้วยความสำนึกในน้ำใจฝ่ายการเมืองอุปถัมภ์ให้ พระก็ต้องตอบแทนด้วยการเป็นหัวคะแนนให้การเมือง เรื่องมันก็มีแค่นี้แหละ
        มิน่าเล่า เราจึงได้เห็นภาพมหาโช กับเจ้าคุณไพศาล ไปเต๊ะท่าถ่ายรูปกับอดีตนายกทักษิณ ด้วยกิริยาใกล้ชิดสนิทสนมอ่านต้นฉบับ
    ประชุมมหาเถรสมาคมวันเดียวกัน ไม่มีวาระพิเศษพิจารณาพระชั้นผู้ใหญ่และกรรมการ มส.เอี่ยวทุจริตเงินทอนวัด ขณะที่ ผอ.พศ.ยังงดตอบสื่อ
    สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ครั้งที่ 12/2561 ที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม โดยบรรยากาศการประชุมเป็นไปตามวาระปกติ 
    ขณะที่กรรมการมหาเถรสมาคม 3 รูป ที่ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรม ทั้งพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยาวรวิหาร กรรมการ มส., พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการ มส. และพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร กรรมการ มส. ยังคงเข้าร่วมประชุมตามปกติ 
    ด้าน พ.ต.ท.พงศ์พร ในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม ที่เดินทางเข้าร่วมประชุม มส.งดให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน แม้พยายามสอบถามถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเงินทอนวัด ตอบเพียงสั้นๆ ว่า ขอบคุณครับ 
    ภายหลังการประชุม มส.ราว 30 นาที นายสมเกียรติ ธงศรี รอง ผอ.พศ. และนายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม แถลงผลการประชุม มส. มีเพียงการเห็นชอบให้คณะกรรมการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า โครงการที่ดำเนินการครบทั้ง 3 ระยะ จนเกิดความเรียบร้อยดีงาม ช่วงวันที่ 10 พฤษภาคม ถึงสิ้นเดือนกันยายน ขณะเดียวกัน นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เตรียมลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อตรวจเยี่ยมโรงเรียนปริยัติธรรม หลังมีข่าวการทุจริตเกิดขึ้น 
    ทั้งนี้ ในการแถลงข่าว รอง ผอ.พศ.ระบุว่า ในที่ประชุมไม่มีวาระพิจารณากรณีพระผู้ใหญ่หรือกรรมการ มส.ถูกแจ้งความกล่าวโทษในคดีทุจริตเงินอุดหนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรม  
    อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในที่ประชุม มส.แจ้งว่า ได้แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามความเคลื่อนไหวการดำเนินการตรวจสอบพระผู้ใหญ่ทั้ง 5 รูปแล้ว.