ความเป็นธรรมและความเป็นไทย


เพิ่มเพื่อน    

(1)

        เทศนาวันอาทิตย์คราวนี้...คงไม่ต้องเสียเวลาไปว่าถึงเรื่อง ธรรมะ ขั้นสูงๆ ระดับโลกุตตะร้ง โลกุตตระ ให้ต้องยุ่งยากมากความ เอากันแค่ระดับโลกียะ แบบพื้นๆ ง่ายๆ หรือแบบ ความเป็นธรรม ทั้งหลายโดยทั่วไป แต่ต้องถือว่ามีความสำคัญเอามากๆ ชนิดที่ท่านประธานองคมนตรี ป๋าเปรม ท่านยังเพียรพยายามที่จะนำมารวมเอาไว้กับสิ่งที่เรียกว่า ความเป็นไทย ให้ทั้งสองสิ่ง สองอย่าง เกิดความสอดคล้องไปด้วยกัน ไม่แยกจากกันแบบคนละทิศ คนละทาง คนละเรื่อง คนละม้วน...

(2)

        เพราะถ้าหากคงเอาไว้เพียงแค่ ความเป็นไทย เฉยๆ...คงปฏิเสธไม่ได้ว่า มันมีทั้ง บวก ทั้ง ลบ อยู่ภายในตัวของมันเอง จะไปปลื้มอก ปลื้มใจ ภูมิอก ภูมิใจ กันไปมากนักก็คงมิได้ คือมีทั้งประเภท ทำอะไรตามใจ คือไทยแท้ แค่จับเอามา เข้าแถว ต่อคิวให้เกิดสถานะว่าใครมาก่อน มาหลัง โดยไม่ต้องแย่งกันทำโน่น ทำนี่ ก็แทบเป็นไปไม่ได้เอาเลย นุงนัง นัวเนีย ยิ่งกว่าจับปูใส่กระด้งไม่รู้กี่เท่า ต่อกี่เท่า หรือประเภท ไทยมุง ที่ไม่รู้ว่ามีอะไร เรื่องอะไร อุบัติตูมตามขึ้นมา หนีไม่พ้นต้องตามแห่ ตามไปมุง ชนิดแทบไม่เหลืออากาศให้หายใจ อยากรู้ อยากเห็น ในเรื่องที่บางครั้งไม่เป็นเรื่อง หรือไม่ได้เรื่อง แต่เอาสนุก เอามันซ์ซ์ซ์เข้าว่า หรือประเภท ไทยอุปถัมภ์ ทั้งหลาย ที่บางครั้ง หลายครั้ง ก็ไม่ได้คิดจะแยกดี แยกชั่ว ขอให้เป็นพวกเอาไว้ก่อนเท่านั้น ก็พร้อมรับประกัน การันตี หอบหิ้วกันไป-มา แบบถึงไหนก็ถึงกัน...ฯลฯลฯ...

(3)

        แม้ว่า ความเป็นไทย ในแบบ โอบอ้อม อารี เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ ชนิด ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ หรือแบบเต็มไปด้วยน้ำใส ไมตรี ยิ้มง่าย หัวเราะง่าย ไม่ถือสาหาความอะไรต่อมิอะไรกันมากมาย ไม่คิดเล็ก คิดน้อย สนุกสนาน ร่าเริง บันเทิงใจ กันไปตามสภาพ ฯลฯลฯ มันอาจจะดูดี ดูมีเสน่ห์น่าประทับใจอยู่พอสมควร แต่ถ้ารวมเอาทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไว้ในตัว ไม่ว่า บวก หรือ ลบ โดยไม่ได้ตั้งมาตรฐานใดๆ เอาไว้แยกแยะ กำกับ เอาไว้ด้วย ความเป็นไทย ที่ว่า...บางครั้ง บางครา มันก็น่าปวดหัว น่าปวดเศียร เวียนเกล้า อยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ไม่ใช่เฉพาะแต่ตัวตนของตนแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลต่อผู้อื่น หรือต่อสังคมทั้งสังคม ควบคู่ไปด้วย...

(4)

        มันเลยหนีไม่พ้นที่จะต้องไปลากเอา ความเป็นธรรม มาเป็นตัวรองรับ กำกับ เอาไว้ด้วย ซึ่งความเป็นธรรมที่ว่า ก็ไม่ถึงต้องเป็น ธรรมะ ระดับสูงสุด ลึกซึ้ง อะไรกันมากมาย เอากันแค่คุณธรรม มโนธรรม หรือจะผนวกศีลธรรม ระดับแค่ศีล 5 ไม่ต้องถึงศีล 8 หรือศีล 227 ข้อแบบพวกพระ เพียงเท่านั้น...ก็น่าจะช่วยให้ ความเป็นไทย ที่ว่า เป็นอะไรที่น่าปลื้ม น่าดื่มด่ำประทับใจ ไม่ว่าต่อตัวเองและผู้อื่น ต่อสังคมทั้งสังคม หรือแม้แต่ต่อโลกทั้งโลกเอาเลยก็ยังได้ สามารถนำมาใช้เป็นกรอบ หรือแม้แต่เป็น เกราะป้องกัน กระแสความเป็นไปของโลก ที่ไหลไป-ไหลมา ชนิดยากจะควบคุม บังคับ ได้ง่ายๆ แต่ถ้าหากมี ความเป็นไทย ที่ประกอบด้วย ความเป็นธรรม เป็นพื้นฐานรองรับเอาไว้แล้วล่ะก็ ก็แทบไม่ต่างอะไรไปจาก เครือข่ายป้องกันทางสังคม ที่สามารถเอาไว้รับมือกับความวิปริต ผิดเพี้ยน ผันผวนใดๆ ได้เสมอๆ...

(5)

        ไม่ว่าในแง่การเมือง เศรษฐกิจ สังคม หรือย่อยรายละเอียดลงไปถึงประเภทการศึกษา เทคโนโลยี ไปจนถึงการท่องเที่ยวเอาเลยก็ยังได้ คือถ้าหากมีแต่ ความเป็นไทย โดยไม่มี ความเป็นธรรม รองรับ การไปคว้าเอา ลิเกสมัครเล่น มาต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยการรำไทยตามโรงรง โรงแรม แบบที่เคยทำๆ กันมา มันคงไม่ถึงกับเข้าท่า ดูดี ดูมีเสน่ห์ซักเท่าไหร่ หรือการแปลงวัฒนธรรมประเพณีเพื่อให้กลายเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากๆ เข้าไว้ ชนิดบางครั้ง บางครา ถึงกับ แก้ผ้า เล่นสงกรานต์อะไรประมาณนั้น มันก็ออกจะเกินไป ไม่ต่างอะไรไปจากการนำเอา ประชาธิปไตย ของฝรั่งแบบทั้งดุ้น ทั้งด้าม มาครอบหัวสังคมไทย การนำเอาระบบเศรษฐกิจแบบ ทุนนิยม มาใช้ฉุดลากกระชากถูทุกสิ่งทุกอย่าง โดยไม่จำเป็นต้องสนใจความมีเหตุ มีผล ความพอเพียง พอประมาณใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย...

(6)

        ยิ่งเป็น การศึกษา ยิ่งแล้วใหญ่...ถ้าหากเอาแต่ ลอกฝรั่ง มาแบบทั้งดุ้น ทั้งด้าม ผู้ที่มี ธรรมะ ขั้นสูงๆ อย่างเช่นอภิมหาพระ ท่านพุทธทาสภิกขุ ท่านจึงอดไม่ได้ที่จะต้องวิพากษ์ วิจารณ์ ไว้แรงๆ ว่าเป็น การศึกษาแบบหมาหางด้วน อะไรประมาณนั้น เพราะกลับเป็นตัวทำลาย ความเป็นไทย ที่เคยเป็นด้าน บวก จนเหลือแต่ด้าน ลบ ลูกเดียวล้วนๆ กลายเป็นความเป็นไทยที่ถูกรองรับเอาไว้ด้วย ความเห็นแก่ตัว ความปรารถนา ต้องการ ที่จะทำอะไรตามความพึงพอใจของตัว โดยไม่คิดจะสนใจผู้อื่น สังคม ประเทศชาติใดๆ แม้แต่น้อย ยิ่งบวกเข้ากับ “ไทยอุปถัมภ์” ด้วยแล้ว มันก็เลยอาจกลายเป็นการ ส่งเสริมคนชั่วให้ขึ้นไปมีอำนาจ สกัดกั้นขัดขวางคนดี ไม่ให้มีบทบาท ไปโน่นเลย...

(7)

        ด้วยเหตุนี้นี่เอง...เลยหนีไม่พ้นต้องหาทางนำเอา ความเป็นธรรม เข้าไปผนวกกับ ความเป็นไทย ให้กลายเป็นอันหนึ่ง อันเดียวกัน หรือให้เป็นไปในชนิดไม่อาจแยกออกจากกันได้เลย มันถึงจะทำให้ความเป็นไทยนั้นเป็นอะไรที่ดูดี ดูมีเสน่ห์ น่าปลื้มอก ปลื้มใจ ไม่ว่าต่อคนไทยด้วยกันเอง หรือต่อมวลมนุษยชาติก็แล้วแต่ ที่ล้วนแต่ปรารถนาความถูกต้อง ความเป็นธรรม ไปด้วยกันทั้งสิ้น โดยเฉพาะถ้าหากความเป็นไทยและความเป็นธรรมที่ว่านี้ มันไม่ได้ถูกแสดงออกแต่เพียง รูปแบบ ไม่ว่าในแง่เครื่องแต่งกาย ประเพณี วัฒนธรรม ฯลฯ แต่สามารถแสดงออกในระดับลึกไปถึง เนื้อหา ถูกนำไปสอดแทรกอยู่ในการเมือง เศรษฐกิจ พฤติกรรม และวิถีทางทางสังคม ฯลฯ อันนั้นนั่นแหละ...แผ่นดินอันงดงาม ก็จะอุบัติตามมา โดยไม่ต้องเสียเวลาลอยคอ รอคอย กันจน น้ำท่วมหลังเป็ด ก็ยังไม่เห็นวี่ เห็นแวว เอาเลยแม้แต่น้อย.                                                                              

 

 

 

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"