โคราชไม่พ้นวิกฤติน้ำล้นเขื่อนบ่าท่วม


เพิ่มเพื่อน    

 

ผู้ว่าฯ โคราชสั่งโชคชัยเตรียมรับน้ำระลอกใหม่ เขื่อนลำมูลบนอั้นไม่อยู่ คาดอีก 2 วันต้องระบายออก แจ้งบ้านเรือนริมน้ำเตรียมอพยพ อรัญฯ เซ่นอีกศพ ขณะที่น้ำลดต่อเนื่อง ปภ.เผยยังมี 17 จังหวัดเผชิญอุทกภัย พายุฝนถล่มเกาะทะลุหักเป็นสองท่อน ประกาศเป็นเขตอันตราย อุตุฯ ให้จับตาพายุลูกใหม่ "โซเดล" รุนแรงระดับ 4 อีสานตอนใต้-ตะวันออกเผชิญฝนหนัก
    มีรายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในนครราชสีมา เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมนี้ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา พร้อมด้วยนางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา เดินทางเข้าพื้นที่ อ.ปักธงชัย, อ.โชคชัย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม จุดแรกในพื้นที่บ้านวังดู่ หมู่ที่ 8 ต.เมืองปัก อ.ปักธงชัย มอบอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค ผ้าอ้อมเด็ก ผู้สูงอายุ และผ้าอนามัยสตรี ให้ประชาชนกว่า 100 หลังคาเรือนที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร โดยในพื้นที่ปักธงชัยประสบอุทกภัยจำนวน 16 ตำบล 78 หมู่บ้าน 5,000 ครัวเรือน ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 12,000 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 23,000 ไร่
    นายวิเชียรกล่าวว่า มวลน้ำจาก อ.ปักธงชัยจะไหลไปสู่พื้นที่ อ.โชคชัยในอีก 1-2 วัน ซึ่งได้สั่งการให้นายอำเภอโชคชัยเตรียมความพร้อมรับมือกับน้ำ ทั้งนี้ เขื่อนลำตะคองและเขื่อนลำพระเพลิงยังไม่มีการปล่อยน้ำออกแต่อย่างใด น้ำที่ไหลบ่าขณะนี้เป็นน้ำที่ล้นสปิลเวย์ และน้ำที่ค้างตามทุ่งนาไหลลงสู่ลำคลอง
    ส่วนนายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ชลประทานจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ล่าสุด อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำรวม 330.188 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 105 ของความจุที่ระดับกักเก็บ 314 ล้าน ลบ.ม. หรือติดลบเกินกว่าความจุอ่าง 16 ล้าน ลบ.ม. แต่ขณะนี้ยังไม่มีการระบายน้ำออก เนื่องจากปริมาณน้ำในลำตะคองตลอดทั้งสายยังมีระดับสูง ส่วนปริมาณน้ำในเขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย ยังคงเกินระดับกักเก็บอยู่ที่ 165.12 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 106.53 ของความจุปกติที่ 155 ล้าน ลบ.ม. ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มที่จะลดลงเนื่องจากปริมาณฝนที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง  
    สำหรับเขื่อนลำมูลบน อ.ครบุรี ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอยู่ที่ 122.134 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 86.62 ของความจุที่ระดับกักเก็บ 141 ล่าสุด ผวจ.นครราชสีมามีหนังสือด่วนที่สุด คาดว่าจะมีน้ำไหลเข้าเขื่อนเต็มความจุกักเก็บในวันที่ 23 ต.ค. ทางเขื่อนจำเป็นต้องระบายน้ำออกลงคลองธรรมชาติ (ลำน้ำมูล) จึงขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมตลิ่งติดลำน้ำมูล และพื้นที่ลุ่มต่ำริมสองฝั่งลำน้ำ ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เตรียมความพร้อมอพยพกรณีเกิดสถานการณ์น้ำไหลหลากในพื้นที่ และให้หน่วยงาน เครือข่าย จิตอาสา ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิในพื้นที่ เตรียมพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
    มีรายงานว่า ขณะนี้มวลน้ำที่ล้นออกจากเขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย ได้ไหลไปถึง อ.โชคชัย ส่งผลทำให้มีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำหลายจุด เช่น ที่ปรางค์พะโค ซึ่งเป็นโบราณสถานอายุประมาณ 900 ปี ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 224 สายโชคชัย-ครบุรี ช่วงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 37 ท้องที่บ้านปรางค์พะโค ต.กระโทก อ.โชคชัย ถูกน้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตร เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลกระโทกและกำลังทหารได้ช่วยกันนำกระสอบทรายมาทำพนังกั้นน้ำเอาไว้ แต่ก็ไม่อยู่ นอกจากนี้น้ำยังท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่บ้านปรางค์พะโค หมู่ที่ 11 และบ้านหนองคล้า หมู่ที่ 2 กว่า 70 หลังคาเรือน
อรัญฯ น้ำลด-ตาย 1    
    สระแก้ว สถานการณ์น้ำท่วมในตลาดเทศบาลเมืองอรัญประเทศได้ลดลงอย่างรวดเร็วที่บริเวณถนนมหาดไทย หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองอรัญประเทศ และหน้า สภ.อรัญประเทศ ระดับน้ำลดลงเหลือความสูงประมาณ 10-20 ซม. ซึ่งในภาพรวมสภาพน้ำท่วมในเขตตลาดเทศบาลเมืองอรัญประเทศลดระดับลงประมาณ 50 ซม. บนถนนสายหลักรถยนต์สามารถขับเข้าไปได้ มีเพียงถนนบางเส้นทางที่น้ำยังท่วมสูงประมาณ 50 ซม. รถเล็กไม่สามารถขับผ่านไปได้
    ส่วนบริเวณหอนาฬิกา ทหาร มทบ.19 ได้นำรถยนต์บรรทุก 6 ล้อครัวพระราชทานมาตั้งเพื่อประกอบอาหารปรุงสุกช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในเขตตลาดเทศบาลเมืองอรัญประเทศ นอกจากนี้ กก.ตชด.12 ได้นำกำลังพลพร้อมเรือท้องแบนมาช่วยขนย้ายประชาชนเข้า-ออกชุมชนอีกด้วย
    เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศเผยว่า น้ำท่วมครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงอายุประมาณ 55 ปี ชาวชุมชนหลังด่าน ในเขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ ถูกไฟฟ้าชอร์ตเสียชีวิตคาบ้านพักที่เกิดน้ำท่วม สาเหตุเนื่องจากหญิงคนดังกล่าวใช้ราวเหล็กทำเป็นที่ตากผ้าภายในบ้าน แต่ราวเหล็กไปถูกสายไฟชำรุดทำให้ไฟชอร์ต
    ตรัง ที่วัดควนนาแค ต.บ้านควน อ.เมืองตรัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง พร้อมด้วยนายสราวุฒิ ธนาเจริญสกุล นายอำเภอเมืองตรัง นายอาชวงศ์ สาริพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมวางพวงหรีด พร้อมมอบเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์อุทกภัย คือนายคนอง บุญสนอง อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/11 หมู่ที่ 3 ต.บ้านควน อ.เมืองตรัง ซึ่งหายไปตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2563 พบศพวันที่ 19 ตุลาคม 2563 ที่บริเวณคลองนางน้อย หมู่ที่ 3 ต.บ้านควน อยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุเป็นระยะทางประมาณ 300 เมตร
    นายขจรศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้ฝนได้หยุดตกแล้ว สถานการณ์ต่างๆ เริ่มดีขึ้นตามลำดับ ยังมีพื้นที่ซึ่งยังมีน้ำท่วมขังอยู่ในขณะนี้คือ อ.เมืองตรัง กับ อ.กันตัง ส่วนความเสียหายด้านเกษตรทั้งประมงและปศุสัตว์ ได้สั่งการให้หน่วยงานเข้าไปสำรวจความเสียหายแล้ว
ปภ.แจ้งน้ำยังท่วม 17 จว.
    กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย ในพื้นที่ 31 จังหวัด รวม 114 อำเภอ 398 ตำบล 1,773 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 46,472 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 3 ราย (จันทบุรี ตรัง และสุราษฎร์ธานี) บาดเจ็บ 3 ราย (สิงห์บุรี) ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ 17 จังหวัด ดังนี้
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ต.ในเมือง อ.เมือง, นครราชสีมา อ.ปักธงชัย โชคชัย สูงเนิน โนนสูง พิมาย ปากช่อง อ.เมืองนครราชสีมา และเสิงสาง, บุรีรัมย์ อ.คูเมือง แคนดง บ้านกรวด, ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี อ.ศรีมหาโพธิ และ อ.กบินทร์บุรี ปัจจุบันระดับน้ำลดลง, สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว อรัญประเทศ และ อ.โคกสูง ปัจจุบันระดับน้ำลดลง, ชลบุรี อ.พนัสนิคม และเกาะจันทร์ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง, ฉะเชิงเทรา อ.แปลงยาว และคลองเขื่อน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
    ภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี อ.พระแสง, ตรัง อ.เมืองตรัง และกันตัง, นครศรีธรรมราช อ.ช้างกลาง, ภาคกลาง 7 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี อ.สว่างอารมณ์ และ อ.เมืองอุทัยธานี, ชัยนาท อ.วัดสิงห์ และหันคา, นครปฐม อ.กำแพงแสน อ.เมืองนครปฐม บางเลน ดอนตูม พุทธมณฑล สามพราน และนครชัยศรี, กาญจนบุรี อ.ด่านมะขามเตี้ย ท่ามะกา และห้วยกระเจา, สมุทรสงคราม อ.เมืองสมุทรสงคราม อัมพวา และบางคนที, สุพรรณบุรี อ.สามชุก สองพี่น้อง และหนองหญ้าไซ, ราชบุรี อ.บ้านโป่ง โพธาราม นอกจากนี้เกิดวาตภัยใน 4 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท กาญจนบุรี สิงห์บุรี และพังงา ได้รับผลกระทบจากดินสไลด์ 4 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ภูเก็ต สตูล และกระบี่
พายุฝนโค่นเกาะทะลุ
    มีรายงานว่า ผลกระทบจากคลื่นลมแรงและฝนตกหนักในภาคใต้ ทำให้เกาะทะลุซึ่งเป็นเขาหินปูนถึงกับพังเสียหาย โดยนายประยูร พงศ์พันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าสำรวจบริเวณเกาะทะลุ เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ห่างจากทางทิศตะวันตกของเกาะไก่ประมาณ 1 กิโลเมตร เบื้องต้นพบว่าหินที่ถล่มลงมาแตกออกเป็นสองก้อน น้ำหนักประมาณ 30,000-50,000 ตัน ส่งผลให้บริเวณด้านล่างซึ่งเดิมลึกประมาณ 10?เมตร ยุบลงไปอีก อยู่ที่ประมาณ 15 เมตร บริเวณแนวปะการังเสียหายไปประมาณ 20% โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาประมาณ 3?วันแล้ว คาดว่าเกิดจากอิทธิพลพายุดีเปรสชันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งฝนตกต่อเนื่อง ลมกระโชกแรง ส่งผลหินปูนบริเวณเกาะทะลุพังลงมา
    ต่อมาเมื่อวันพุธ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้ดำน้ำสำรวจบริเวณเขาทะลุที่ระดับความลึกประมาณ 20 เมตร พบก้อนหินขนาดใหญ่จำนวนมาก บางส่วนก็มีรอยแตก ชิ้นส่วนกระจัดกระจายทั่วบริเวณ นอกจากนั้นยังมีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่บนเขาทะลุหักโค่นลงมาทั้งต้น และพบว่ายังมีโพรงอากาศด้านล่างของเกาะทะลุมีความเสี่ยงที่จะพังถล่มลงมาได้ตลอดเวลา นักดำน้ำจึงต้องรีบขึ้นมาเพื่อความปลอดภัย ก่อนจะประกาศเป็นเขตอันตราย
จับตาพายุลูกใหม่ระดับ 4
    กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่อง "พายุโซนร้อนกำลังแรง “โซเดล” (พายุระดับ 4)" ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2563 ความว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ตุลาคม 2563 พายุโซนร้อน “โซเดล” (พายุระดับ 3) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง (พายุระดับ 4) แล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 16.4 องศาเหนือ ลองจิจูด 117.7 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 25-26 ตุลาคม 2563 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้ด้านตะวันออกและตอนล่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนบางแห่งกับมีลมแรง
    จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ใกล้เข้าสู่ฤดูหนาว สภาพอากาศในตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มหนาวเย็นและมีฝนตกกับเมฆปกคลุมต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเช้าวันที่ 21 ต.ค.นี้ อุณหภูมิในตัวเมืองเชียงใหม่อยู่ที่ 20-22 องศาเซลเซียส กับมีฝนตกเล็กน้อย ยอดดอยสุเทพถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอก ขณะที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ช่วงเช้ามีฝนตกเช่นกัน อุณหภูมิต่ำสุดวัดได้ 10 องศาเซลเซียส ที่กิ่วแม่ปาน และยอดดอยอินทนนท์วัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ 11 องศาเซลเซียส.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"