'ถวิล เปลี่ยนศรี' ดึงสติม็อบ3นิ้วศัตรูคนรุ่นใหม่ไม่ใช่สถาบัน แต่เป็นนักการเมืองโกงไร้จิตสำนึก


เพิ่มเพื่อน    

27 ต.ค.63 - ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 11.00 น. นายถวิล เปลี่ยนศรี ส.ว. อภิปรายว่า ขอขอบคุณคณะรัฐมนตรีที่ให้เกียรติเวทีรัฐสภา ได้หารือเรื่องที่สำคัญของชาติบ้านเมือง แม้สถานที่แห่งนี้ในบางครั้ง บางยุค อาจถูกใช้เป็นเวทีของเสียงข้างมากกระทำการตามอำเภอใจเพื่อตอบสนองผลประโยชน์ของนายทุนที่อยู่ด้านหลัง ปิดปากฝ่ายค้าน ปิดปากผู้ที่ไม่เห็นด้วยผ่านเรื่องราวที่สวนทางกับความรู้สึกนึกคิดของประชาชนมาบ้างก็ตาม แต่นั่นก็เป็นเพียงประวัติด่างพร้อยส่วนน้อยเท่านั้น ส่วนใหญ่สภาแห่งนี้ยังเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อยู่ ด้วยสภาแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่กระทำลุแก่อำนาจ กระทำการด้วยความหยาบช้าและไม่ละอายแก่ใจเช่นนั้น ต่างก็ได้รับบทเรียนอันเจ็บแสบจากประชาชนที่พวกเราได้เห็นกันอยู่

นอกจากนี้ นายถวิล ยังได้กล่าวถึงการชุมนุมด้วยว่า มีการล่วงละเมิดสถาบัน ทำให้ประเด็นนี้ยิ่งยุ่งยากซับซ้อนเพิ่มขึ้นทวีคูณ เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ คือสถาบันที่สำคัญของประเทศ เป็นที่เคารพสักการะของคนไทยทั้งประเทศ การจุดประเด็นความขัดแย้งในเรื่องเหล่านี้จึงเป็นเรื่องที่ล่อแหลมและอ่อนไหว และนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรง ไม่เป็นผลดีต่อความมั่นคงของประเทศแต่ประการใด

นายถวิล ได้เสนอแนะด้วยว่า ลำพังการกู้วิกฤตเศรษฐกิจภายหลังการแพร่ระบาดโควิด 19 ก็เหมือนการไต่เส้นลวดที่ปากเหว แล้วยังมีการชุมนุมแทบทุกวัน รัฐบาลก็เหมือนนักกายกรรมที่เดินอยู่บนเส้นลวดบนปากเหวและข้างล่างก็มีคนตะโกนแช่ง ด่าแช่งให้ตกลงมาแทบทุกวันดี แล้วก็ยังเขย่าและนำหินมาปาด้วย ซึ่งคงจะแก้ไขปัญหาได้ยาก ดังนั้น จึงขอเสนอให้ทุกคนควรจะถอยเพื่อให้รัฐบาลได้มีสมาธิในการพาพวกเราข้ามปัญหาสำคัญนี้ไป โดยให้ถือว่าปัญหานี้เป็นปัญหาของพวกเราทุกคน ถ้ารอดก็รอดด้วยกัน ถ้าตายก็ตายด้วยกัน เมื่อเปรียบเทียบกับหลายประเทศเรื่องนี้เราได้เปรียบกว่า เพราะเราควบคุมโรคได้ดี แต่ถ้าจะทิ้งเรื่องนี้เพื่อเอาชนะเท่านั้นก็เป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง

“ส่วนเรื่องการชุมนุมที่บานปลายไปจนถึงการขัดขวางขบวนเสด็จนั้น อยากเตือนไปถึงลูกหลานน้องๆที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ ขอให้ได้ทบทวน ขอให้ถือว่าเป็นคำเตือนของคนแก่คนหนึ่ง ตนเข้าใจดีว่าคนหนุ่มสาวมีความสำคัญที่จะรับภาระจากคนรุ่นหลังอย่างพวกเราต่อไป แต่เสียงของพวกเขาสมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับฟัง การแสดงออกควรเป็นไปตามกาลเทศะและให้เกียรติกับคนรุ่นก่อนด้วย

ในฐานะที่ตนทำงานด้านความมั่นคงมาตลอดชีวิต ขอเรียนว่าสำหรับประเทศไทยสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเรื่องที่มีความสำคัญและเป็นเสาหลัก ที่ค้ำยันและประกันความมั่นคงเป็นปึกแผ่นของประเทศนี้มาโดยตลอด ท่านจะนับถือเลื่อมใสในสถาบันนี้หรือไม่ก็ตาม สิ่งที่อยากเตือนคือ ท่านรื้อหรือทำลายเสาหลักของบ้านเมืองนี้ลงไม่ได้ ย้ำว่าท่านรื้อหรือทำลายเสาหลักนี้ไม่ได้ อันตรายต่อชาติบ้านเมืองถึงขั้นสูงสุดทีเดียว

ขอเรียนว่าศัตรูของคนรุ่นใหม่ไม่ใช่สิ่งที่พวกท่านต่อต้านอยู่ บ้านเมืองที่มีปัญหามากมายทั้งการโกงกิน ความล้าหลังไม่ใช่สถาบัน แต่เป็นเพราะนักการเมืองที่ไม่ดี ข้าราชการที่ทุจริต นายทุนที่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวขาดจิตสำนึก นั่นคือศัตรูที่แท้จริงของประเทศนี้ และเป็นศัตรูของพวกท่านด้วย สิ่งที่น่าเสียใจในครั้งนี้คือ นอกจากไม่รู้ว่าศัตรูเป็นใครยังไม่เอาใจใส่ว่าศัตรูของท่านเป็นอย่างไรแล้ว ยังไม่ทราบว่าคนไม่ดีเหล่านี้เกาะหลังท่านปลุกปั่นบงการท่านอยู่อย่างขี้ขลาด พวกเขาหักหลังพวกท่านเข้าสู่คุกตารางแล้วคอยตักตวงผลประโยชน์จากน้ำพักน้ำแรงของพวกท่านแบบจับปลาน้ำขุ่นไม่มีความรับผิดชอบหรือสำนึกชั่วดีใดๆ เรื่องนี้อาจแสลงใจลูกๆหลานๆที่เคลื่อนไหวอยู่บ้าง แต่คิดว่าจำเป็นต้องพูด” นายถวิล กล่าว

นายถวิล กล่าวด้วยว่า การปฏิรูปสถาบันที่ท่านเคลื่อนไหวอยู่ ถ้าทำด้วยความเกลียดหรือโกรธแค้นชิงชัง ท่านทำไม่ได้ การทำการปฏิรูปสิ่งใดสิ่งหนึ่งต้องทำด้วยความรัก เพื่ออยากจะเห็นให้ดีขึ้นจึงจะทำได้ แต่ถ้าเริ่มด้วยความเกลียดชังเหมือนที่เราได้เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ คิดว่าท่านทำไม่ได้ สุดท้ายขอประณามผู้ที่มีพฤติกรรมเป็นไอ้โม่งหรืออีแอบที่เอาความคิดความเกลียดชังสถาบันปลูกฝังใส่ลงไปในความคิดของเด็กๆอนาคตของประเทศนี้ เพียงเพื่อสนองความต้องการมักใหญ่ใฝ่สูงหรืออุดมการณ์ความคิดความเกลียดส่วนตัวของท่านโดยที่ไม่รับผิดชอบใดๆ ตนเห็นมามากแล้วว่าการกระทำการแบบนี้ ต้องพบกับอนาคตที่เลวร้ายอย่างไร นี่ไม่ใช่เป็นคำแช่งแต่เป็นเพียงเรื่องที่อยากเรียนให้ทราบ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"