เครือข่ายรามคำแหงเพื่อ ปชต. รวมตัวทวงถามคืบหน้าเหตุเสื้อเหลืองปะทะนักศึกษาบาดเจ็บ


เพิ่มเพื่อน    

27 ต.ค.63 - ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก นายนันทพงศ์ ปานมาศ พร้อมด้วยนายกฤษณะ ไก่แก้ว ผู้ประสานงานกลุ่มเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย นำมวลชนนักศึกษา และศิษย์เก่ารามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย ยื่นหนังสือต่ออธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง เพื่อทวงถามความคืบหน้าและการดําเนินการของมหาวิทยาลัยกรณีการทําร้ายนักเรียน นักศึกษา ประชาชน ที่ชุมนุมภายในมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา

นายนันทพงศ์  กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวผ่านมานานกว่า 1 สัปดาห์ไม่มีความคืบหน้า หนำซ้ำไม่ได้รับการปกป้อง หรือความยุติธรรม จากสถาบัน ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกวันนี้พวกเรารู้สึกอึดอัดเพราะรู้ดีว่าผู้กระทำเป็นใคร เป็นผู้มีอิทธิพลทั้งสิ้น บางคนเป็นเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงที่เคยก่อเหตุตบตีนักศึกษา ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงทำงานอยู่และได้มาก่อเหตุอีก  ลองคิดดูว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว เส้นใหญ่ขนาดไหนถึงได้กระทำการลักษณะดังกล่าวถึงสองครั้งสองครา เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลให้นักศึกษารามคำแหงได้รับบาดเจ็บหรือถูกทำร้ายร่างกายเท่านั้น ยังมีคนที่ไม่รู้เรื่องที่มาฟังการปราศรัยซึ่งเป็นเด็กมัธยมถูกทำร้ายร่างกายด้วย

สิ่งสำคัญที่อยากจะประกาศให้ทราบถึงจุดยืนของทางเครือข่ายรามว่า ทางเครือข่ายไม่ได้มีแนวคิดที่จะล้มล้างสถาบันตามที่ใครหลายคนกล่าวอ้าง หรือเข้าใจ เรายังอยากให้สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่กับสังคมไทยไปอย่างยาวนาน แต่เรามีจุดยืนของเราในการที่จะแสดงความคิดเห็นปฎิรูปในสิ่งที่พวกเราคิด ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อย่างไรก็ตามเหตุการณ์วันนั้นเรายังไม่ได้ปราศรัยอะไรเลย ทั้งนี้อยากทำความเข้าใจว่าคำว่าปฎิรูปไม่ได้แปลว่าล้มล้างสถาบัน แต่จะปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นนี่คือสิ่งที่พวกเราเรียกร้องมาตลอด ผู้ประสานงานกลุ่มเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตยกล่าว

นายนันทพงศ์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เข้าใจว่าการที่กล่าวอ้างว่าน้องมัธยมไปทำสายตาล้มล้างสถาบันใส่ ซึ่งนึกไม่ออกจริงๆว่าสายตาแบบนี้เป็นอย่างไร ซึ่งจริงอยู่ที่น้องมัธยมคนนั้นไปชู 3 นิ้วใส่เขา และวิ่งมาหาพวกเรา แต่อยากให้คิดดูว่าคู่กรณีเป็นถึงผู้ใหญ่มีหน้าที่การงานที่ดี แต่มาทำพฤติกรรมแบบนี้สมควรหรือไม่ อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางกลุ่มได้ติดตามทวงถามความคืบหน้าตลอด รวมทั้งขอดูภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าทางมหาวิทยาลัยยังไม่ส่งมาให้ ซึ่งเป็นการโยนเรื่องกันไปมา อย่างไรก็ดีหลังเกิดเรื่องก็มีโทรศัพท์มาข่มขู่ ซึ่งทางเครือข่ายมีคลิปเสียงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหลังจากนี้จะเดินทางไปสน.หัวหมาก เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี เนื่องจากทางผู้กำกับสน.หัวหมากออกมาเปิดเผยวานนี้ว่าหลักฐานไม่เพียงพอ ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าภาพข่าวในสังคมออนไลน์มีมากมาย  เหตุใดถึงบอกว่าหลักฐานไม่เพียงพอ หนำซ้ำยังบอกกับทางกลุ่มพวกตนว่ารู้อยู่แล้วว่าเสื้อเหลืองมาชุมนุมและยังจะไปจัดชุมนุมอีกทำไม

หนึ่งในเครืออข่ายรามคำแหงฯ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า มหาลัยแห่งนี้ไม่มีความปลอดภัยอีกต่อไป อยากรู้ว่าต่อไปจะใช้ชีวิตในมหาลัยแห่งนี้ได้อีกอย่างไร มหาลัยปกป้องกลุ่มคนเสื้อเหลืองมากกว่านักศึกษาของตัวเอง ซึ่งแตกต่างจากมหาลัยอื่นที่ต่างออกมาช่วยนักศึกษาของตัวเองที่ถูกดำเนินคดี มหาลัยเป็นสถานที่ราชการแต่กลับปล่อยให้คนนอกมาทำร้ายนักศึกษา มหาลัยไม่ให้ความเป็นธรรม  ไม่แสดงความรับผิดชอบ ฝากไปยังอธิการบดี และองค์การนักศึกษาม.รามฯให้ออกมารับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นำซ้ำยังมีเจ้าหน้าที่ของมหาลัยร่วมกับคนเสื้อเหลืองทำร้ายนักศึกษาด้วย

หลังจากเหตุการณ์ความรุนแรงวันนั้นจนวันนี้ทางมหาลัยยังไม่มีการยื่นมือเข้ามาช่วยนักศึกษาของตัวเองเลย เพราะหน้าที่ของ อธิการ รองอธิการ และเจ้าหน้าที่คือปกป้องนักศึกษาไม่ใช่ไปช่วยคนนอกมหาลัย นักศึกษาที่ได้รับบาดเจ็บก็ต้องช่วยเหลือกันเองเรื่องค่ารักษาพยายาล

ขณะที่ทาง รศ.อดุลย์ ตะพัง รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ที่ลงมารับเรื่องกล่าวว่า ในเบื้องต้นทางมหาวิทยาลัยได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว โดยมอบหมายให้ตนเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 7 วัน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะเร่งเยียวยาคนเจ็บ ส่วนจะมีบุคลากรของมหาวิทยาลัยเข้าไปเกี่ยวข้องในส่วนนี้คงต้องสอบสวนเพื่อดำเนินการทางวินัยต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ใจความในหนังสือที่ยืนถึงอธิการบดีมีใจความ ดังนี้ ตามที่เครือข่ายรามคําแหงเพื่อประชาธิปไตยได้นัดชุมนุมเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2563 เวลา 17.30 น. ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคําแหงมหาราช ภายใต้ชื่องาน “กรงขัง ผีเสื้อ อุดมการณ์” เพื่อให้ กําลังใจนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคําแหงที่ได้รับการประกันตัวออกมาจากการถูกจับกุมเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2563 เนื่องจากเข้าร่วมชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งในวันดังกล่าวช่วงเวลา 14.00 น. ทางภาคี เครือข่ายปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้นัดแถลงข่าวการจัดกิจกรรมในวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ปรากฏว่า เมื่อมีการแถลงข่าวสิ้นสุดลงแล้ว ทางภาคีเครือข่ายปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ยุติกิจกรรม แต่ได้ออก สื่อเชิญชวนให้คนมาร่วมต้อนรับการจัดกิจกรรมของทางเครือข่ายรามคําแหงเพื่อประชาธิปไตย เป็นการ สื่อท่ีบ่งบอกถึงพฤติกรรมของคนบางกลุ่ม ท่ีใส่เสื้อเหลืองแอบอ้างสถาบันแล้วใช้ความรุนแรงกับคนที่มี ความเห็นต่าง

เครือข่ายรามคําแหงเพื่อประชาธิปไตย เข้าใจต่อสถานการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างดี จึงได้ตัดสินใจที่จะ ดําเนินกิจกรรมตามที่ได้ประชาสัมพันธ์ไว้บริเวณหน้าตึกสํานักงานอธิการบดี ซึ่งมีพื้นที่ห่างกันและแต่ละกลุ่ม สามารถจัดกิจกรรมได้ตามปกติ ปรากฏว่าเมื่อดําเนินกิจกรรมไปได้ประมาณ 15 นาที ทางภาคีเครือข่าย ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งสวมเสื้อสีเหลือง และเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยบางคน ได้บุกมาทํา ร้ายนักเรียน นักศึกษา ประชาชน ที่ชุมนุมอย่างสันติ ปราศจากอาวุธ ส่งผลให้มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชน ได้รับบาดเจ็บจากการกระทําอย่างป่าเถื่อนดังกล่าว เครือข่ายรามคําแหงเพื่อประชาธิปไตย เชื่อการ กระทําดังกล่าวไม่เป็นไปตามเจตจํานงของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของประชาชน เคารพ ในหลักการประชาธิปไตย

เหตุการณ์การทําร้ายนักเรียน นักศึกษา ประชาชน เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลาหลายวันแล้ว ทางเครือข่ายรามคําแหงเพื่อประชาธิปไตย ยังไม่เห็นการดําเนินการอย่างเป็นรูปธรรมของผู้บริหาร มหาวิทยาลัยรามคําแหงแต่ประการใด จึงขอทวงถามความคืบหน้าและการดําเนินการ ดังนี้

1. ขอให้มหาวิทยาลัยไล่นายสมเดชคงวิจิตร์ออกจากการเป็นเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยเจ้าหน้าที่คน ดังกล่าวได้มีส่วนในการทําร้ายนักเรียน นักศึกษา ประชาชน และมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงใน หลายกรณีที่ผ่านมาในมหาวิทยาลัยรามคําแหง

2. ทางมหาวิทยาลัยได้ดําเนินการตามกฎหมายอย่างไรบ้าง สําหรับบุคคลท่ีได้ทําร้ายนักเรียน นักศึกษา ประชาชน ภายในมหาวิทยาลัย หรือผู้บริหารมหาวิทยาลัยมีความเกรงกลัวต่อกลุ่ม บุคคลดังกล่าว ที่มีความเชื่อมโยงกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยบางคน

3. ทางผู้บาดเจ็บจะไม่รับการช่วยเหลือจากมหาวิทยาลัยในเรื่องค่ารักษาพยาบาล จนกว่าผลการ ดําเนินการของมหาวิทยาลัยจะเป็นรูปธรรม และเป็นที่พอใจ เพราะไม่ต้องการเป็นข้อกล่าวอ้าง สร้างความชอบธรรมให้กับผู้บริหารมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตามเครือข่ายรามคําแหงเพื่อประชาธิปไตย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้บริหารมหาวิทยาลัย มีความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เกรงกลัวต่อกลุ่มบุคคลที่มีผลประโยชน์หรือมีความสัมพันธ์กับผู้บริหาร มหาวิทยาลัยบางคน 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"