อาคารSAT-1 สนามบินสุวรรณภูมิคืบ 95% ศักดิ์สยามยันได้ใช้แน่ปี65


เพิ่มเพื่อน    

 

30 ต.ค.63-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ( ทสภ.)ระยะที่ 2 พร้อมมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ว่า ขณะนี้ภาพรวมการก่อสร้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) คืบหน้าประมาณ 95% เหลืองานตกแต่งภายใน และติดตั้งระบบต่างๆ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือน เม.ย.65 โดยในส่วนของรถไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) คืบหน้าประมาณ 71% ขณะนี้รับมอบรถไฟฟ้าแล้ว 4 ขบวน จากทั้งหมด 6 ขบวน ส่วนอีก 2 ขบวนที่เหลือจะทำการรับมอบในเร็วๆ นี้ เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มทดสอบเดินรถเสมือนจริงได้ในเดือน ก.พ.64 และเปิดให้บริการเดือน เม.ย.65 พร้อมกับการเปิดใช้งานอาคาร SAT1  

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า เมื่อเปิดให้บริการ SAT 1 จะทำให้ ทสภ. สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มมากขึ้นเป็น 60 ล้านคนต่อปี จากปัจจุบันรองรับได้ 45 ล้านคนต่อปี ส่วนการก่อสร้างทางวิ่ง (รันเวย์) เส้นที่ 3 นั้น ซึ่งมีบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR จอยต์เวนเจอร์กับบริษัท ถนอมวงศ์บริการ จำกัด เป็นผู้รับจ้างวงเงินประมาณ 9,600 ล้านบาท ได้เริ่มก่อสร้างแล้วประมาณ 1 เดือน ตามแผนงานจะแล้วเสร็จภายในกลางปี 66 ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบิน ได้เป็น 900 เที่ยวบิน/วัน หรือรับผู้โดยสารได้ถึง 90 ล้านคน/ปี 

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องการก่อสร้างอาคาร North Expansion พื้นที่ประมาณ 4 แสนตารางเมตร (ตร.ม.)วงเงิน 4.2 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์  เบื้องต้นสภาพัฒน์เห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องก่อสร้าง จึงมอบให้กระทรวงคมนาคมจัดส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาอีกครั้ง เพื่ออธิบายถึงความจำเป็นในการก่อสร้าง รวมถึงข้อมูลความต้องการของสายการบินต่างๆ และการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารหลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย  

อย่างไรก็ตามได้เน้นย้ำให้ ทอท. ชี้แจงถึงเรื่องการปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) กับสภาพัฒน์ด้วย เพราะการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าาวจะยิ่งทำให้ต้องใช้พื้นที่ในการรองรับผู้โดยสารมากขึ้น ดังนั้นหากไม่มีการก่อสร้างอาคาร North Expansion จะสามารถรองรับผู้โดยสาร 90 ล้านคนได้อย่างไร 
นอกจากนี้ยังมอบให้ ทอท. ไปศึกษาการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบัน ด้านตะวันออก (East Expansion) พื้นที่ 1.2 แสนตร.ม.วงเงิน 8 พันล้านบาท และส่วนต่อขยายด้านตะวันตก (West Expansion) พื้นที่ 1.2 แสนตร.ม. วงเงิน 8 พันล้านบาท ว่าจะสามารถดำเนินการพร้อมกันกับการก่อสร้างอาคาร North Expansion ได้หรือไม่ เพื่อให้เพียงพอต่อการรองรับผู้โดยสารแบบวิถีใหม่การเดินทาง (Transport New Normal) 

ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า การก่อสร้างอาคาร North Expansion วงเงินลงทุน 42,000 ล้านบาท จะเป็นตัวหลักสำคัญในการรองรับการเดินทางของผู้โดยสารในปี 2565 ซึ่งคาดว่าจะต้องมีการบริหารจัดการสนามบิน ตามมาตรการสาธารณสุข โดยต้องมีการเตรียมพื้นที่รองรับการทางสังคม (Social Distancing) เนื่องจาก หลังเกิดโควิด-19 คาดว่า องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) จะออกมาตรการ วิถีใหม่การเดินทาง (Transport New Normal) 
โดยอาคาร North Expansion ที่จะมีพื้นที่ เพิ่มอีก 170,000งเมตร และพื้นที่ส่วนอาคารเทียบเครื่องบิน (Airside) อีก 125,000 ตารางเมตร มีพื้นที่เพิ่มสำหรับตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และช่องตรวจค้นผู้โดยสาร รวมทั้งหลุมจอดประชิดอาคารอีก 14 หลุม จะรองรับการเดินทางของผู้โดยสารได้อย่างสะดวกและปลอดภัยเมื่อเปรียบเทียบกับการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านตะวันออก (East Expansion) ซึ่งจะเพิ่มเพียงพื้นที่อาคารผู้โดยสาร 66,000 ตารางเมตร ไม่พียงพอต่อ การรองรับผู้โดยสารแบบ New Normal คน ซึ่งหากเริ่มดำเนินการในต้นปี 2564 จะแล้วเสร็จในปี 2567 ทันต่อสถานการณ์ในการรองรับผู้โดยสารที่จะกลับสู่การเดินทางอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"