ผวารมต.ฮังการี ตรวจเจอโควิด ก่อนพบนายกฯ


เพิ่มเพื่อน    

  "รมต.ฮังการี" ตรวจพบติดโควิดระหว่างเยือนไทย! ยกเลิกถกนายกฯ-ดอน ส่งตัวรักษาสถาบันบำราศฯ "บิ๊กตู่" วอนอย่าตื่นตระหนก "อนุทิน" รัฐบาลฮังการีส่งเครื่องบินรับกลับแล้ว ชี้สะท้อนสาธารณสุขไทยเจ๋งคุมโรคได้ทัน

    ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายเปเตอร์ ซิยาร์โท รมว.ต่างประเทศและการค้าประเทศฮังการี มีกำหนดเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 3-4 พ.ย.2563 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับฮังการีในด้านต่างๆ และการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
    ทั้งนี้ คณะดังกล่าวเดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นในวันที่ 4 พ.ย. นายซิยาร์โทมีกำหนดการจะเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่ทำเนียบรัฐบาล รวมถึงจะหารือกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ ที่กระทรวงการต่างประเทศ ปรากฏว่าเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ รมว.ต่างประเทศและการค้าฮังการีได้ยกเลิกกำหนดการทั้งหมดในการเยือนประเทศไทยแล้ว
    ด้าน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ให้เขาดูแลรักษาจนแข็งแรง ปลอดภัยแล้วเดินทางกลับ ขณะเดียวกันขอให้ทุกคนอย่าตื่นตระหนก
    ต่อมาเวลา 12.50 น. ที่สถาบันบำราศนราดูร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข นำคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประกอบด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงภายหลังเข้าเยี่ยม รมว.ต่างประเทศและการค้าฮังการี ซึ่งตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ว่าได้มาเยี่ยมในฐานะตัวแทนของรัฐบาลไทย ซึ่งการเดินทางมาประเทศไทยครั้งนี้ รัฐมนตรีได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของรัฐบาลไทยทุกอย่าง โดยเดินทางมาพร้อมคณะ รวม 13 ราย ผ่านการคัดกรองและช่วงเวลา 21.00 น. ทีมแพทย์ทำการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR พบว่ารัฐมนตรีที่เป็นหัวหน้าคณะให้ผลเป็นบวก ส่วนคณะที่เหลือให้ผลเป็นลบ
    ทั้งนี้ เราตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง ผลตรวจบวกตรงกัน จึงได้เชิญมาเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ในห้องแยกโรคความดันลบของสถาบันบำราศนราดูร แต่ไม่มีอาการอะไร ร่างกายแข็งแรงมาก โดยเมื่อเป็นเช่นนี้กำหนดการต่างๆ ในไทย ต้องถูกยกเลิกไป และได้ร้องขอให้เครื่องบินพิเศษจากรัฐบาลของประเทศต้นทางมารับรัฐมนตรีและคณะกลับบ่ายวันที่ 4 พ.ย.
    นายอนุทินกล่าวว่า ในการเดินทางกลับนั้น แพทย์ไทยจะมีระบบการป้องกันอย่างรัดกุม เพื่อส่งผู้ป่วยอย่างปลอดภัย โดยจะแบ่งเป็นเครื่องบินพิเศษ 2 ลำ ลำแรกจะขนส่งเฉพาะผู้ติดเชื้อที่เป็นรัฐมนตรี และอีกลำจะขนส่งคณะติดตามอีก 12 ราย ซึ่งสถาบันบำราศฯ ได้จัดยาฟาวิพิราเวียร์ให้ 1 โดส สำหรับนำกลับไปรักษาที่ประเทศต้นทาง ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ทำให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขของไทยมีประสิทธิภาพ สามารถตรวจคัดกรอง เพื่อยืนยันกับคนไทยให้ประเทศได้ว่าเราไม่มีวันปล่อยให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ออกไปนอกการควบคุมของเรา
    ด้าน นพ.โอภาสกล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายนี้เป็นรัฐมนตรีระดับสูง เพศชาย อายุ 47 ปี เมื่อวันที่ 3 พ.ย. เวลา 18.30 น. เดินทางถึงประเทศไทย ต่อมาในเวลา 21.00 น. ทีมแพทย์ทำการตรวจหาเชื้อผู้เดินทางทั้งคณะ และวันที่ 4 พ.ย. หลังจากเวลา 00.00 น. ผลการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ให้ผลออกมาว่า พบ 1 ราย มีผลบวก อีก 12 รายให้ผลลบ ต่อมาเวลา 05.00 น. ทีมแพทย์ได้นำตัวผู้ติดเชื้อมายังสถาบันบำราศฯ
    ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายงานถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 7 ราย โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานกักกันของรัฐ เแบ่งเป็นคนไทย 3 ราย ชาวรัสเซีย 1 ราย, ชาวคูเวต 1 ราย, ชาวอิตาลี 1 ราย และชาวมัลดีฟส์ 1 ราย ส่งผลให้ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,804 ราย หายป่วยแล้ว 3,612 ราย โดยยังมีผู้ป่วยที่รักษาอาการอยู่ 133 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้เสียชีวิตรวม 59 ราย".

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"