คมนาคมปรับแบบแทรมภูเก็ตลั่นช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างกว่าหมื่นล้าน


เพิ่มเพื่อน    

 


6 พ.ย.63-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้ารางเบา (แทรม) จ.ภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติ-ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 41.7 กิโลเมตร (กม.) วงเงินประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.)สัญจร ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานรับทราบ โดยขณะนี้ได้มอบให้ รฟม. ไปพิจารณาปรับรูปแบบระบบการเดินรถ เพื่อลดต้นทุนค่าก่อสร้าง ซึ่งปัจจุบันเมืองใหญ่ๆ ในต่างประเทศ ก็ปรับมาใช้เป็นรถเมล์ไฟฟ้า (EV) ล้อยางกันแล้ว ช่วยประหยัดค่าก่อสร้างได้หมื่นกว่าล้านบาท เพราะไม่ต้องทำระบบราง และระบบอาณัติสัญญาณ อีกทั้งยังเกิดประโยชน์กับประชาชน เพราะค่าโดยสารจะถูกลงด้วย

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงที่ รฟม. กำลังออกแบบรายละเอียดโครงการยังสามารถปรับปรุงได้ และในร่างเงื่อนไขเอกสารการประกวดราคา (ทีโออาร์) ก็ไม่ได้ปิดกั้นว่าจะต้องเป็นแทรมเท่านั้น ดังนั้นเมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไป ก็ควรเปลี่ยนการเดินรถในรูปแบบเดิมๆ ที่มีราคาแพง และความคุ้มค่าน้อย เพราะจากการดูผลการศึกษาล่าสุด ก็พบว่ามีผู้ใช้บริการเพียงแค่ประมาณ 3.9 หมื่นคนต่อวัน อย่างไรก็ตามการปรับรูปแบบระบบการเดินรถดังกล่าว น่าจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่นานว่าจะเลือกใช้รูปแบบใดแทนแทรม เบื้องต้นน่าจะเป็นรูปแบบรถเมล์บีอาร์ที แต่เป็นแบบไฟฟ้า วิ่งตามแนวเกาะกลางถนน โดยคาดว่าจะเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาเห็นชอบได้ภายในปี 63 และมีแผนจะเปิดให้บริการในปี 69

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า การใช้พื้นที่เกาะกลางถนน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ซึ่ง รฟม. ได้หารือกับกรมทางหลวง (ทล.) แล้ว ซึ่งการดำเนินการจะรื้อเกาะกลางออก ทำผิวจราจรใหม่ และใช้แบริเออร์กั้นระหว่างเลนของรถเมล์บีอาร์ที และรถยนต์ทั่วไป แต่สิ่งที่ รฟม. ต้องพิจารณาเพิ่มเติมคือ การสร้างสถานีที่จะให้ผู้โดยสารเข้าไปใช้บริการ ต้องมีการปรับแบบเพิ่มเติมหรือไม่ และบางแห่งยังสามารถนำพื้นที่ใช้เป็นเชิงพาณิชย์ได้ด้วย นอกจากนี้ต้องพิจารณาด้วยว่าเมื่อรถถึงทางแยก จะต้องปรับเป็นแบบใด เช่น ทำเป็นอุโมงค์ลอด หรือหากจะให้ประหยัดเงินมากขึ้น ก็ควรใช้เพียงแค่การบริหารสัญญาณไฟจราจร ซึ่งต้องให้รถเมล์บีอาร์ทีไปก่อน

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ส่วนเรื่องเส้นทางเดินรถ และจำนวนสถานีนั้น ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง โดยมีระยะทางประมาณ 42 กม. และมี 21 สถานี อย่างไรก็ตามในอนาคตยังมีแผนจะให้โครงการนี้เชื่อมกับรถไฟที่จะไปพังงาที่บริเวณท่าอากาศยานภูเก็ตด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไป จ.พังงา มีระยะทางประมาณ 4 กม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการแทรมภูเก็ต แนวเส้นทางโครงการฯ เริ่มจากท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ไปตามทางหลวงหมายเลข 4031 (แยกศาลาแดง-แยกหมากปรก) เชื่อมทางหลวงหมายเลข 4036 (แยกเหนือคลอง-แหลมกรวด) เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 402 (โคกกลอย-เมืองภูเก็ต) เพื่อเข้าเมืองภูเก็ต จากนั้นผ่านอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรี และท้าวศรีสุนทร ข้ามสะพานสารสิน มุ่งหน้าสถานีปลายทางท่าเรือฉลอง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"