‘เฉลิมพล มาลาคำ’โต้ตกอับ พร้อมเคลียร์ข่าวเสียชีวิต!


เพิ่มเพื่อน    

 

          เฉลิมพล มาลาคำ ตำนานหมอลำแนวหน้าของเมืองไทย ที่วันนี้จะมาเผยเส้นทางชีวิตในวงการบันเทิงกว่า 30 ปี เคยมีรายได้วันละเกือบ 2 แสนบาท ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow พร้อมเผยชีวิตนี้เคยลำบากถึงขั้นไม่มีข้าวจะกิน และขอแก้ข่าวเป็นหมอลำตกอับ

 

ตอนนั้นเพลงดังมาก เก็บค่าบัตรคนละ 10 บาท แต่ได้ 2 แสนเลย?

เฉลิมพล : ใช่ๆ ชนิดที่ว่าไม่เห็นตัวนักแสดง คนดูเกือบกิโล คือจำได้ติดตาเลย วันที่รู้สึกว่าตัวเองดัง คือเรารู้สึกว่าถ้าไม่ดังจริงคงไม่มาขนาดนั้น

 

เป็นอย่างนี้บ่อยครั้งไหม?

เฉลิมพล : ก็น่าจะเดือนนึง 2-3 ครั้ง ระดับแสนนึงมีเยอะ แต่ 2 แสนนี่มีบ้าง งานมีทุกวัน เราว่างไม่ได้ เราต้องพาลูกน้องตระเวนเดินสาย ช่วงแรกๆ ไม่เยอะเกือบร้อย แต่ถ้าเยอะสองร้อยขึ้น

 

แต่จริงๆ ตอนที่อาเริ่ม อาเริ่มมาจากเด็กเก็บของ มือกลอง?

เฉลิมพล : มือก่อนจะเป็นมือตีกอง พอสักพักมาอยู่วงดนตรี มาเก็บของ เก็บสังกะสี แบกเหล็ก เมื่อก่อนลำบากมาก

 

แล้วมาเป็นนักร้องได้ยังไง?

เฉลิมพล : ก่อนจะเป็นนักร้องมีวงอยู่แล้ว อยู่ที่บ้านตัวเอง ก็ทำวงสักพักมันไม่ประสบความสำเร็จ คือคนเขาใกล้จะทันสมัยแล้ว ก็เลยต้องหยุด เลิก ไปที่ใหม่  แต่ไปแบกเหล็กเหมือนเดิม ตอนนั้นได้ค่าจ้างวันละ 50 บาท

 

 

แล้วไต่เต้ามายังไง?

เฉลิมพล : ทีแรกประกวดร้องเพลงก่อน แล้วมาสมัคร หลังจากนั้นอยู่มาประมาณ 2 ปี ที่เราเป็นคอนวอย เก็บของ ได้มาบันทึกแผนเสียง วันที่2เมษายน 2528

 

ตอนนั้นใช้เงินวันละ 50 บาทพอไหม?

เฉลิมพล : ก็ต้องทำให้มันพอนะ เมื่อก่อนข้าวเหนียวปั้นนึง 10 บาทก็ได้เยอะ แล้วก๋วยเตี๋ยวชามนึงเราก็สามารถกินกับเพื่อนได้

 

จากเพลงแรกที่อัดไม่ได้ดังมาก อยู่มากี่ปีถึงดัง?

เฉลิมพล : อยู่มาประมาณปี 31 ช่วงนั้นรู้สึกว่าเศรษฐกิจตกต่ำ หัวหน้าวงเริ่มมีปัญหา ก็เลยมานั่งเขียนเพลง เพื่อนำผลงานใหม่ ยังไงก็ต้องดัง มั่นใจ คนเราเวลาเจอความลำบากมากๆ มันจะออกไอเดีย เริ่มจะหาคะแนนสงสาร ก็เขียนเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่ง ตามใจแม่เถอะน้อง สมัยก่อนเพลงมันออกทีนึง 12 ชุด ใน 12 เพลงก็มีสิทธิ์เสี่ยงนะไม่เพลงใดเพลงนึงก็ต้องโดน แต่อัลบั้มนั้นมา 3 เพลง ถึงรู้สึกว่าคนรู้จักทั่วประเทศ ตอนนั้นก็ยังอยู่วงพิมพ์ใจอยู่นะ

 

แล้วอาออกมาทำเองตอนไหน?

เฉลิมพล : ออกมาทำเองตอนปี 2535 ก็คือเพลงใกล้จะดับแล้ว ดังจนโรยแล้ว

 

 

แล้วตอนดังขนาดไหน?

เฉลิมพล : รายการช่อง5 ที่เขาถ่ายทอดสด ดีใจมากนะได้นั่งเครื่องบินครั้งแรก จากจังหวัดขอนแก่น เพื่อมาออกรายการโลกดนตรี ตื่นเต้นมาก

 

ตอนที่ดังมากๆ แล้วอยู่ดีๆ ยุบวง เพราะอะไร?

เฉลิมพล : ดังมากๆ ไม่ได้ยุบ มันมาตอนมันซาแล้ว เราโตแล้ว เราก็ขอความเป็นอิสระบ้าง เราอยู่กับนายทุนตั้งแต่ปี 28 จนถึงปี 35 เราขอโอกาสสู้ เพราะลูกโตแล้ว จะออกเรือนแล้วก็เลยขออนุญาตออกมาทำวงเอง

 

ตอนนั้นที่อยู่กับเขาต้องจ้างวงพี่หลักแสนเลยใช่ไหม?

เฉลิมพล : ตอนนั้นอยู่กับป๋าชินยังไม่ถึง พอออกมาทำเองก็ยังไม่ถึง ก็อยู่ 5-6 หมื่นก็ว่าหรูแล้ว ปี 2544 เพลงรอเมียเผลอ ดังมาก ตรงนั้นราคาขึ้นละ

 

แต่พอมาร้องคนเดียว รับงานคนเดียว กลายเป็นเงินเก็บมากกว่า?

เฉลิมพล : ใช่สบายกว่า

 

ตอนนั้นก็มีข่าวเม้าท์ว่า?

เฉลิมพล : ถ้าไปทั้งวงก็จะมี 1-2 แสน แต่ถ้าผมไปคนเดียวหลักหมื่นผมก็ดูได้ด้วย

 

 

แบบนี้คนจะคิดว่าเป็นศิลปินหมอลำตกอับไหม?

เฉลิมพล : ไม่นะ แฟนเพลงทั่วประเทศรู้ว่าผมไม่เคยตกอับ ยังไม่ได้ตกอับ เมื่อก่อนใช่ แต่ปัจจุบันไม่ใช่ ยืนก้าวมาถึงขนาดนี้แล้ว

 

อาบอกเมื่อก่อนใช่คือตอนไหน?

เฉลิมพล : ตั้งแต่เรายังไม่ดัง

 

เราได้รับทราบว่ามีคนรายงานข่าวแบบนี้ เราโกรธไหมว่าเราเป็นศิลปินตกอับ?

เฉลิมพล : ไม่โกรธ เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเราไม่ใช่ แต่การที่ให้ข่าวคือเขาขายข่าว ตอนที่เามาถ่าย เขาถ่ายดีๆ เขาอยากขายข่าว ทำงานมันมีจุดเด่นก็ไม่ว่าเขา ในเมื่อเราไม่เป็นแบบนั้น เราจะไปโกรธทำไม

 

พอเรามาเป็นศิลปินเดี่ยวงานเยอะขึ้นขนาดไหน?

เฉลิมพล : ก่อนโควิดไม่มีวันหยุดเลย

 

 

ที่มีข่าวว่าเสียชีวิตมันมาได้ยังไง?

เฉลิมพล : มันลือไปทั่วแล้ว ตายไปหลายคนแล้ว นักร้องตายเยอะ

 

ญาติพี่น้องไม่ตกใจเยอะเหรอ?

เฉลิมพล : ไม่หรอก มันมีโทรศัพท์เขาก็โทรถาม

 

มีอีกอาชีพเป็นเกษตรกร?

เฉลิมพล : ครับ มีเป็นวัวขุนเข้ามา คือการเลี้ยงวัว เลี้ยงความเป็นอาชีพของเกษตรกรชาวอีสานมานาน แต่พักนึงก็หายไป ตอนนี้คนเริ่มเลี้ยงวัว เลี้ยงควาย การเลี้ยงวัวเป็นธุรกิจที่มีรายได้ดี ก็เลยมาส่งเสริม หลังจากที่มีโควิดเข้ามา คนตกงาน ผมก็เลยไปเอาโคขุนมาเลี้ยง

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"