หมอหนูชงหั่นกักตัว10วัน เปิดปท.ช่วงเทศกาลปีใหม่


เพิ่มเพื่อน    

 

ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9 ราย ในสถานกักโรคของรัฐ ขณะที่ “อนุทิน” เตรียมชง ศบค.ชุดใหญ่หั่นวันกักตัวจาก 14 เหลือ 10 วัน เล็งเปิดประเทศช่วงเทศกาลปีใหม่ “ปลัด สธ.” ชี้เป็นความเสี่ยงที่ยอมรับได้ หาก 3 เดือนตัวเลขผู้ป่วยไม่โอเวอร์อาจลดกักตัวเหลือแค่ 7 วัน
      เมื่อวันศุกร์ที่ 13 พ.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9 ราย ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,861 ราย หายป่วยเพิ่ม 4 ราย ยอดรวมผู้รักษาหายป่วย 3,697 ราย รักษาในโรงพยาบาล 104 ราย และผู้เสียชีวิตสะสม 60 ราย
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่นั้น รายที่ 1 เดินทางมาจากเลบานอน เป็นหญิงไทย อายุ 56 ปี อาชีพพนักงานนวด, รายที่ 2 มาจากฟิลิปปินส์ เป็นเพศชาย สัญชาติอินเดีย อายุ 37 ปี อาชีพวิศวกร, รายที่ 3, 4, 5 มาจากสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเพศชาย สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ อายุ 76 ปี, เพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 52 ปี เป็นแม่บ้าน ทั้ง 2 รายเป็นสามีภรรยา และเพศชาย สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ อายุ 74 ปี, รายที่ 6 มาจากอินเดีย เพศหญิง สัญชาติอินเดีย อายุ 45 ปี, รายที่ 7 มาจากคูเวต เพศชาย สัญชาติไทย อายุ 42 ปี ส่วนรายที่ 8 และ 9 เป็นผู้มีประวัติเคยติดเชื้อโควิด-19 โดยรายที่ 8 มาจากฝรั่งเศส เป็นเพศชาย สัญชาติฝรั่งเศส อายุ 43 ปี และรายที่ 9 มาจากสหราชอาณาจักร เป็นเพศชาย สัญชาติอังกฤษ อายุ 66 ปี เกษียณอายุราชการ
      ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเปิดงาน Smart Living with COVID-19 ว่าขณะนี้ไทยมีความพร้อมทั้งด้านยาเวชภัณฑ์ และการรักษาในการรับมือกับโควิด-19  ซึ่งในส่วนการลดวันกักตัว 10 วัน จากเดิม 14 วันนั้น ทำตามหลักวิชาการทางการแพทย์ และเตรียมเสนอให้ ศบค.ชุดใหญ่ และนายกรัฐมนตรีพิจารณา โดยข้อมูลที่จะให้ ศบค.นั้นมีรอบด้าน แต่ทุกอย่างก็คำนึงความรู้สึกของประชาชน จึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยทำความเข้าใจ ว่าการลดมาตรการการกักตัวนี้ ทำในกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำที่มีอัตราป่วยน้อยหรือเท่ากับไทยเท่านั้น ส่วนประเทศที่มีอัตราการป่วยโควิดสูงยังคงกักตัว 14 วันเท่าเดิม
“ทุกอย่างมีเหตุผลและใช้ความรู้ทางวิชาการประกอบ คาดว่าจะเสนอ ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาในสัปดาห์หน้า หากเห็นชอบมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา คาดว่าจะเริ่มเปิดประเทศไทยจริงปลายธันวาคม ต้อนรับปีใหม่ โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา นอกจากต้องรับการตรวจคัดกรองก่อนเข้าประเทศแล้ว ยังต้องตรวจเชื้อระหว่างกักในไทย โดยมีการตรวจในวันที่ 0, วันที่ 5 และ วันที่ 9 มีตั้งการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR และการตรวจเลือดหาภูมิคุ้มกัน ทั้ง IgM และ IgG” นายอนุทินระบุ
นายอนุทินยืนยันว่า ความพร้อมด้านยาและเวชภัณฑ์นั้น ในส่วนของยาฟาวิพิราเวียร์ มีสำรองไว้ 610,000 เม็ด และยาเรมดิสซิเวียร์ ชนิดฉีดอีก 710 หลอด ยังมีหน้ากากอนามัยและหน้ากากแบบ N95 และชุด PPE สำรองไว้จำนวนมาก เชื่อว่าเพียงพอรับมือกับสถานการณ์ โดยขณะนี้ทุกประเทศยังไม่มีวัคซีนป้องกันโควิด ดังนั้นวัคซีนป้องกันตนเองพื้นฐาน ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ มีระยะห่าง ยังจำเป็นที่สุด
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. กล่าวว่า การลดการกักตัวจาก 14 วัน มาเป็น 10 วัน ไม่มีความแตกต่าง ส่วนใหญ่การพบผู้ป่วยจะพบใน 3-5 วันแรก พ้น 10 วัน ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยพบว่ามีอาการป่วยแล้ว หรือหากมีเชื้อก็มีปริมาณเชื้อน้อยมาก การลดวันกักตัวจะทำในกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำที่มีอัตราป่วยและติดเชื้อน้อยกว่าไทยหรือเท่ากับไทย ได้แก่ จีน ไต้หวัน มาเก๊า และเวียดนามก่อน ส่วนในประเทศที่มีอัตราป่วยติดเชื้อสูง ยังคง 14 วันเท่าเดิม
“หากมีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยในปีหน้าประมาณ 10 ล้านวัน และเมื่อกักตัวเหลือ 10 วัน โอกาสที่จะพบคนป่วยติดเชื้อหลุดรอดมีแค่ 100 คน จาก 10 ล้านคน หรือคิดเป็นโอกาสพบผู้ป่วย 2 คนต่อสัปดาห์ ซึ่งการป้องกันในไทยยังคงเหมือนเดิมคือการสวมหน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือ ซึ่งการแง้มประตูเปิดประเทศ ทำให้ประเทศเสี่ยงต่ำก่อน และแน่นอนต้องเผชิญความเสี่ยง แต่ก็เป็นความเสี่ยงที่พอยอมรับได้” นพ.เกียรติภูมิกล่าว และว่า หากพบว่าการใช้มาตรการลดวันกักตัว 10 วันไปสัก 3 เดือน ไม่มีผู้ป่วยเพิ่มจำนวนมาก ก็อาจพิจารณาลดการกักตัวเหลือ 7 วัน จากนั้นก็อาจลดเหลือ 0 วัน โดยมาตรการเหล่านี้ต้องมีการประเมินเป็นระยะ
นพ.โอกาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สิ่งที่ไทยต้องเผชิญหากมีการลดการกักตัว ก็มีตั้งแต่พบผู้ป่วยเล็กน้อยเหมือนกรณีหญิงฝรั่งเศส หรือการพบผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อภายในครอบครัว หรือการติดเป็นจำนวนมาก ซึ่งขึ้นอยู่กับการป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัย และการล้างมือ มีระยะห่าง ส่วนมาตรการที่จะต้องปรับเพิ่มคือ การเพิ่มระบบการบัญชาการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ต่างๆ ให้มีทั้งระบบเขตและจังหวัด โดยมีเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคเพิ่มขึ้นจากเดิม 1,000 ทีม เป็น 3,000 ทีม ในเดือน ธ.ค. และมีระบบการติดตามผู้ที่รับการกักตัวในสถานที่กัก เพื่อง่ายแก่การติดตาม.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"