2 ธ.ค.63 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา ศาลแขวงพระนครเหนือ ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.2859/2563 ที่พนักงานอัยการคดีศาลแขวง และนางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยานายชูวงษ์ แซ่ตั้ง หรือเสี่ยจืด อดีตผู้รับเหมาก่อสร้างมูลค่านับหมื่นล้าน เป็นโจทก์ฟ้องนายชาญศักดิ์ ธนเตชา กรรมการผู้มีอำนาจบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นจำเลย ในความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่พนักงานพนักงานสอบสวนคดีอาญา

กรณีนายชาญศักดิ์ได้ให้ปากคำแก่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ เมื่อคืนวันที่ 26 มิ.ย. 2558 ที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ พรรคเพื่อไทย หลายสมัย อ้างว่า ขณะขับรถกลับจากการรับประทานอาหารมากับนายชูวงษ์ รถเกิดอุบัติเหตุชนต้นไม้ จนนายชูวงษ์เสียชีวิต มีการจงใจให้การเท็จช่วยเหลือ พ.ต.ท.บรรยิน เพื่อให้เวลาออกจากสนามกอล์ฟใกล้เคียงกับเวลาเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ และใกล้เคียงกับเวลาตายมากที่สุด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไขว้เขว สับสน โดยหากไม่สามารถหาหลักฐานอื่นมายืนยันได้ ก็จะทำให้ พ.ต.ท.บรรยิน พ้นความผิดการเหตุฆาตกรรมนายชูวงษ์ได้

ศาลสอบคำให้การนายชาญศักดิ์ จำเลยแล้วให้การรับสารภาพ ศาลเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาจำคุก 2 เดือน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 (แก้ไข) จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีประกอบคำรับสารภาพ ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นการกักขังแทน 1 เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนกองปราบฯ ได้สืบสวนสอบสวนคดีการโอนหุ้นและเสียชีวิตของนายชูวงษ์ เมื่อปี 2558 และเรียกนายชาญศักดิ์ ธนเตชา นักธุรกิจชื่อดังซึ่งอยู่ในก๊วนกอล์ฟ วันเสียชีวิตของนายชูวงษ์ และเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับ พ.ต.ท.บรรยิน และผู้ตายมาให้การเป็นพยาน โดยนายชาญศักดิ์ ได้เคยให้การยืนยันมาตลอดว่า ออกจากสนามกอล์ฟพร้อมผู้ตายและ พ.ต.ท.บรรยิน ช่วงประมาณ 21.00 น.แล้วมาเกิดเหตุพบนายชูวงษ์เสียชีวิต ในเวลาประมาณ 22.00 น. ของคืนวันเดียวกันนั้น

ทางการสืบสวนพบหลักฐานว่า ทั้งนายชาญศักดิ์ พ.ต.ท.บรรยิน และผู้ตาย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน เข้ารับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตั้งแต่เวลาก่อน 20.00 น. และออกจากสนามกอล์ฟเวลาประมาณ 20.10 น. ผู้ตายเสียชีวิตหลังรับประทานอาหารไม่นาน จึงกล่าวหาว่าให้ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนตาม ป.อาญา มาตรา 172 คดีนี้พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง แต่พนักงานสอบสวนเห็นแย้ง อัยการสูงสุดชี้ขาดให้ฟ้องต่อศาลแขวงในข้อหาให้การเท็จตาม ป.อาญา มาตรา 172 ต่อศาลแขวงพระนครเหนือดังกล่าว

ส่วนคดีที่ พ.ต.ท.บรรยินกับพวก ก่อเหตุอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีโอนหุ้นนายชูวงษ์นั้น ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี นัดฟังคำพิพากษาวันที่ 15 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.