13 ธ.ค.63-นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom เรื่อง "#ยุทธการหักคอเวียดกง" ระบุว่า นับวันยิ่งชัดเจนต่อการกระทำของม็อบสามนิ้ว อย่างล่าสุดออกมาประกาศ #เวียดกงโมเดล ที่จะเอามาใช้ในกรุงเทพฯ ซึ่งคนพวกนี้จะเรียกว่า #บางกอกโมเดล แผนที่คนพวกนี้กระทำ นั่นคือใช้ความคล่องแคล่ว ว่องไว ซ่องสุ่ม รอคอย และล่าถอยเมื่อภัยมา  ที่สำคัญคือ การเรียกร้องยกเลิกมาตรา 112 เป็นเงื่อนไขสำคัญในการเรียกร้อง เพื่อยั่วยุ ให้เกิดความรุนแรง และไปสู่แผนดังกล่าว

นพ.วรงค์ ระบุว่า คนกลุ่มนี้จะใช้นิวมีเดียในการสร้างกระแส ผิดถูกไม่ใช่ปัญหา แต่ขอให้ไปในทิศทางที่กำหนด และจะมีการขยายผลซ้ำๆผ่านเครือข่าย จนคนคล้อยตาม เมื่อสุกงอมเพียงพอ จึงโหมไฟสงครามปฏิวัติ
ซึ่งในทางยุทธศาสตร์เวียดกง จะใช้สงครามจิตวิทยา โฆษณาชวนเชื่อปลุกระดมมวลชน ให้เข้ามาร่วม ส่วนทางกองกำลังจะใช้ กองโจร ก่อการร้าย ก่อความไม่สงบ จนศัตรูอ่อนกำลัง จึงขยายเป็นสงครามปฏิวัติเต็มรูปแบบ
เป้าหมายของคนเหล่านี้คือ ล้มเลิกสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อสนองตัณหา ทุนสามานย์ที่ครอบงำพรรค สถาปนาระบอบประธานาธิบดี ขึ้นมาทดแทน

" แต่ #เวียดกงโมเดล จะล้มเหลว เมื่อมาประยุกตร์เป็น #บางกอกโมเดล เพราะ1.คนไทยยังมีความจงรักภักดี มีความศรัทธาต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เนื่องจากสถาบันไม่เคยรังแก เอาเปรียบประชาชน และสถาบันไม่ได้มีอำนาจ เพราะอำนาจทุกอย่างอยู่ที่ฝ่ายการเมือง 2.คนไทยรังเกียจนักการเมืองที่อยู่เบื้องหลัง ทั้งโกงบ้านกินเมือง ใช้อำนาจไม่ชอบ โกหกปลิ้นปล้อน สร้างความเกลียดชัง พูดอย่าง ครอบครัวทำอีกอย่าง  3.แกนนำมวลชน กลายเป็นหุ่นเชิด ท่องบท ไม่มีอุดมการณ์ หยาบคาย ไม่เป็นเอกภาพ แตกแยก ออกมาแฉกันเอง 4.สิ่งที่นำมาสร้างสงคราม โฆษณาชวนเชื่อล้วนเป็นสิ่งโกหก บิดเบือน 5.สถาบันเบื้องสูงมีการเรียนรู้ ปรับสภาพให้สอดคล้องกับบริบททางสังคมไทยที่เปลี่ยนไป จนยึดครองหัวใจของประชาชนได้"

ที่สำคัญฝ่ายประชาชนที่เบื่อหน่ายม็อบ ได้เกิดมวลชนแนวร่วม คิดแผนการหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ใช้ชื่อว่า #ยุทธการหักคอเวียดกง ตีโต้ ตีแผ่ในเชิงข้อเท็จจริง จนแผนการของม็อบระส่ำไม่เป็นขบวน โปรดติดตาม และให้ความร่วมมือ  #ยุทธการหักคอเวียดกง เพื่อให้ #บางกอกร่มเย็น ได้ ในหลายๆรูปแบบ จนกว่าบ้านเมืองสงบ
#ต่อต้านระบอบสาธารณรัฐ