“พายุโควิดนอกประเทศไทย” ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้เอ่ยไว้ในแถลงการณ์ เรื่อง “การระบาดอีกครั้งของโควิด–เราต้องเข้มแข็ง” ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจหลังเคารพธงชาติเมื่อวันอังคารนั้น “ลุงตู่” ยังได้เอ่ยอ้างถึงภาพของนานาประเทศประกอบไปด้วย แต่ ณ ปัจจุบันกลับดูเหมือน “พายุโควิด” จะพัดเข้าไทยแล้วจ้า ...๐

เพราะหากยึดตาม ศบค.ที่แถลงไว้เมื่อวันอังคารนั้น จะมีจังหวัดกลุ่มเสี่ยง 22-23 จังหวัดเท่านั้นที่ได้รับพิษจากตลาดกลางกุ้ง สมุทรสาคร แต่พอมาถึง วันพุธ ในการแถลงของ ศบค.รอบสอง ซึ่งก็น่าสังเกตเช่นกัน ว่าหากสถานการณ์ไม่เข้าข่ายรุนแรง หรือไม่น่าปริวิตกจริงก็ควรแถลงรอบเดียวเท่านั้น แต่นี่กลับแถลงทั้งเช้าและเย็น ซึ่งสาระสำคัญคือ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรอบใหม่จากตามนิยามของ “นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน” โฆษก ศบค. โดยเฉพาะจาก “สมุทรสาครไครซิส” นั้น มีกระจายไปถึง 23 จังหวัดแล้ว แต่ที่สำคัญ 22 จังหวัดดังกล่าวมีบางส่วนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่ต้น!!! เท่ากับ “โควิดแรงงานต่างด้าว” นั้นได้ระบาดไปถ้วนทั่วกันเลยทีเดียว ...๐

ยิ่งได้พินิจรายชื่อจังหวัดต่างๆ ด้วยแล้ว จึงไม่แปลกที่ชาวบ้านตลาดร้านถิ่นทั้งหลายถึงขั้นกุมขมับกันเลยทีเดียว เพราะกระจายไปแทบทุกภูมิภาคทีเดียว จึงไม่น่าแปลกที่ยามนี้ ใครต่อใคร โดยเฉพาะบรรดาพ่อค้าแม่ขายต่างใจเต้นระทึกว่า ศบค.ชุดใหญ่ที่มี “ลุงตู่” นั่งหัวโต๊ะ ซึ่งจะประชุมในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ จะมีการเคาะมาตรการเข้มอะไร ออกมา โดยเฉพาะเรื่องของ “ล็อกดาวน์และ “เคาต์ดาวน์” เพราะต้องยอมรับว่า “เทศกาลปีใหม่” นั้นเป็นช่วงทำเงินทำทองกันเลยทีเดียว ...๐

งานนี้ขอ ฟันธงเลยว่ามี “ล็อกดาวน์” และงด “เคาต์ดาวน์” แน่ แต่จะทั้งประเทศหรือจะเลือกเป็นรายจังหวัดหรือไม่นั้น ยังคงต้องแคะหูรอฟัง การชี้แจงจาก ศบค.ก่อน เพราะดูตามเทรนด์ขนาด “สวดมนต์ข้ามปี” หรือแม้แต่ “การสอบธรรมศึกษา” หรือแม้แต่ “พิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับแผ่นดินและปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า” ก็ยังต้องเป็นช้อยเก็บฉากตามๆ กัน ฉะนั้นเรื่องบันเทิงเริงรมย์จึงไม่น่าจะรอดบ่วงได้แน่นอน ยิ่งตัวเลขของผู้ติดเชื้อใน  กทม.จาก “สมุทรสาครไครซิส” พุ่งไปกว่า 20 คนด้วยแล้ว หากลงลึกในแต่ละจังหวัด ซึ่งแม้มีเพียงคนหรือสองคน แต่กลับมีการสัมผัสและมีกลุ่มเสี่ยงมากถึงระดับหลายร้อยทีเดียว ...๐ คงเป็นไป ตามอย่างที่ “รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์” คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกไว้นั้นแล ว่า “วิกฤติครานี้เรามีเวลาเพียง 4 สัปดาห์ ที่ต้องคุมการระบาดให้ได้ มิฉะนั้นมีโอกาสระบาดทวีคูณยากแก่การจัดการ และจะทำให้จำนวนการติดเชื้อต่อวันสูงสุดไปถึง 5 เท่าของระลอกแรก และใช้เวลาสู้ยืดเยื้อยาวไปถึง 2 เท่า หรือ 3 เดือนจะคุมได้” ซึ่งหากภาพเลวร้ายดังกล่าวเกิดขึ้นจริง การขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็คงไม่เป็นผลใดๆ ทั้งสิ้นแล้ว ...๐

แปลกแต่จริงสำหรับ “พรรคเพื่อไทย” ทั้งที่ทั่วบ้านทั่วเมืองเขาหวาดผวากับโควิดรอบใหม่ หรือโควิดรอบสอง แต่ กลับยังมีควันหลงเรื่องของการเลือกตั้ง  อบจ.กันอยู่เสียฉิบ ที่สำคัญเป็นการถอนหงอก “พิชัย นริพทะพันธุ์” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หลังมีการแชร์การวิเคราะห์ข่าวที่ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยได้ลงไปช่วยหาเสียง 4  ข่าวแล้วแพ้เรียบวุธ เพราะทำองครักษ์อย่าง “การุณ โหสกุล” ส.ส.กทม.ถึงการโพสต์เฟซบุ๊กอัดเละกันเลยทีเดียว ก่อนทิ้งท้ายได้แสบสันต์ถึงทรวงว่า “เป็นนักกีฬาอาชีพที่ยังเล่นอยู่สโมสรพรรคเพื่อไทย และไม่เคยคิดที่จะย้ายสโมสร” แหม! ไม่รู้ว่าเสี่ยเก่งตีวัวกระทบคราดถึง “ตระกูล” ใด หรือเปล่า ที่ยกครัวย้ายไปอยู่ “ไทยรักษาชาติ” เพื่อสร้างฝันใหญ่ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นฝันค้างก่อนจะสลายหายไปกลับสายลม ...๐

พท.ยุคใหม่หรือเปล่าไม่รู้ เพราะ กรณีบ้านพักหลวงของ “ลุงตู่” ก็น่าจะจบไปแล้ว แต่ดูเหมือน “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พท. จะยังไม่ยอมจบ โดยยังดึงดันต่อยอดเรื่องดังกล่าวต่อไป แต่ที่ขำไม่ออกคือมีลูกคู่อย่าง “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่ไขก๊อกพ้นพรรคร่วมรัฐบาลก็มาร่วมแทงหอกในแผลเก่ากับเขาด้วย ...๐

ทิ้งท้ายด้วยปัญหาชาวบ้าน ซึ่งก็เป็น ปัญหาเดิมๆ ว่าด้วย “รถเมล์” โดยเป็นเรื่องของการตัดระยะ โดยเฉพาะในสาย 519 นั้น มีการตัดระยะที่ต้องบอกว่าทำให้ชาวบ้านชาวช่องเดือดร้อนกันอย่างมาก เพราะปกติสายจะวิ่งจากอู่สวนสยาม-สาธุประดิษฐ์ กลับมาตัดระยะ ซึ่งมีทั้ง “อู่สวนสยาม-พระโขนง” และ “อู่สวนสยาม-คลองเตย” ซึ่งในส่วนของ “อู่สวนสยาม-คลองเตย” ยังให้อภัยได้ เพราะคนลงยังต่อรถไป “สาธุฯ” ได้ทันที แต่การตัดระยะ “อู่สวนสยาม-พระโขนง” นั้น ต้องเดินไปหาป้ายเกือบกิโลฯ แล้วยังไม่มีรถไปสาธุฯ อีกต่างหาก ที่สำคัญรถตัดระยะพระโขนงยังออกถี่เสียอีก อย่างนี้เขาเรียกว่าตัดระยะเอาเปรียบและกลั่นแกล้งชาวบ้านไหมเอ่ย ...๐

...ท.ศักดิ์