แดงเดือด! 'จตุพร' สุดทน 'ฟอร์ดเส้นทางสีแดง' ใส่ร้ายไม่เลิก เอาไปก่อน 4 คดี พรบ.คอมพ์


เพิ่มเพื่อน    

26 ธ.ค.63 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟชบุ๊คไลฟ์ peace talk กล่าวถึงการดำเนินคดีกับนายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ ฟอร์ด เส้นทางสีแดง โดยหลังปีใหม่ 2564 จะยื่นฟ้องตามความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ ขณะนี้ทนายความได้รวบรวมหลักฐานไว้พร้อมหมด ขอเที่ยวปีใหม่ให้สนุก หลังจากนั้นมาสู้คดีกัน

นายจตุพร กล่าวถึงฟอร์ด เส้นทางสีแดงโพสต์กล่าวหาว่า ตนพยายามให้อภัยมาตลอด จนเกินจะอดทน จึงต้องดำเนินคดี 4 โพสต์ล่าสุดหลังโดยจะแจ้งกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) หลังปีใหม่ เพื่อทำความจริงให้ปรากฎ เนื่องจากพฤติกรรมดูเหมือนได้ใจ แต่อย่าหยุดโพสต์ ขอให้ทำตามสบายใจเลย

นอกจากนี้ ได้ชี้แจงโพสต์ของนายฟอร์ดบางส่วนที่ตั้งคำถามใครเลือกจตุพร เป็นประธาน นปช.ว่า ก่อนตนมาเป็นคนเสื้อแดงนั้น ได้เป็นผู้นำนักศึกษาในเหตุการณ์ปี 2535 นำทัพมาต่อสู้ที่รามคำแหงเป็นที่สุดท้าย จากนั้นไปร่วมขบวนการภาคประชาชนมากมาย แล้วเข้าพรรคไทยรักไทยกระทั่งถูกยุบพรรค และต่อมาเกิดยึดอำนาจเมื่อปี 2549

อีกอย่าง ตนพยายามหลีกเลี่ยงไม่เข้าสู่ตำแหน่งในประธาน นปช. เพราะคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีหัวโขนหรือต้องเป็นอะไร หลังเหตุการณ์ 2553 เมื่อออกจากคุกได้เดินทางไปหลายพื้นที่เพื่อพลิกฟื้นขบวนการ นปช.กลับมาใหม่ และได้หารือ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ให้มารักษาการประธาน นปช. เพราะสะดวกในการขับเคลื่อน

อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกตนออกจากคุก กระทั่งมีการเลือกประธาน นปช.คนใหม่ ตนยังขอให้นางธิดาทำหน้าที่ต่ออย่างเป็นทางการ และถึงการชุมนุมในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงส่งไม้ต่อให้ตนนำทัพ นปช.ต่อสู้ในวันที่สู้อะไรไม่ได้แล้ว ซึ่งเป็นสถานการณ์ยากลำบาก เพราะขบวนการคนเสื้อแดงอ่อนแอและมีนักเลือกตั้งเข้ามาจัดการมวลชนแทน

"การใช้นักเลือกตั้งมาจัดการแทนนั้น เป็นความไม่ไว้วางใจของคนบนวิถีทางนักต่อสู้ แต่กลับคิดในเชิงผลประโยชน์ ขบวนการจึงต้องจบลงแบบที่เห็น ดังนั้น หลังการยึดอำนาจสิ่งที่เราทำได้คือการแสดงความคิดเห็น และสถานีพีซทีวีถูกปิดมากที่สุดจากการวิจารณ์ คสช."

นายจตุพร กล่าวถึงพี่น้องพ้องเพื่อนว่า เมื่อพร้อมๆกันควรมานั่งคุยหาทางออกกัน เนื่องจากเวลาที่ผ่านนั้น จะอยู่ระหว่างการรอคดีเข้าคุก ออกคุก นอกจากนี้ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน เป็นยุคสมัยของคนหนุ่มสาวแล้ว ส่วน นปช.เป็นองค์กรที่ผ่านพ้นตามประวัติศาสตร์ อีกทั้งการเคลื่อนไหว ไม่มีโอกาสเป็นครั้งที่สอง เพราะมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

พร้อมย้ำว่า ในขบวนการ นปช.ไม่มีใครสนใจตำแหน่งหัวโขนกัน แต่ที่มาของตนนั้นมาตามกระบวนการชัดเจน ไม่ได้กระโดดมา ส่วนเคยนำต่อสู้ไปสู่ความสำเร็จหรือไม่นั้น อยู่ที่มุมมองแต่ละคนในการต่อสู้ เนื่องจากระหว่างทางเต็มไปด้วยบาดแผล แล้วแต่จะอธิบายกัน

สำหรับวิสัยทัศน์ นโยบายนำทัพให้เกิดชัยชนะนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ตนผ่านอะไรมามากมาย แต่สิ่งสำคัญในสมรภูมิต่อสู้ย่อมมีแพ้และชนะหมุนวนเปลี่ยนกันไป เนื่องจากปัจจัยไม่ได้เกิดเฉพาะเราเอง ยังมีปรากฎการณ์ขององคาพยพการต่อสู้ด้วย

กรณีการติดคุกในคดีเดียวกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นั้น นายจตุพร กล่าวว่า เป็นการพยายามอธิบายใส่ร้าย จึงต้องดำเนินคดีนายฟอร์ดที่โพสต์ เพราะเป็นการตั้งคำถามให้เกิดความเข้าใจผิด เมื่อเป็นคนเก่งก็ไม่มีปัญหาอะไร

สำหรับคดีชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์นั้น ตนอธิบายมาต่อเนื่องสาธารณะรับรู้และเข้าใจ โดยตนอยู่ในสำนวนที่ 2 และศาลอาญานัด 25 ม.ค. 64 ซึ่งในที่สุดแล้ว เชื่อว่าคงไม่รอด เพราะคำวินิจฉัยสำนวนแรกก็คาดกันได้ แต่การตั้งคำถามลักษณะเสี้ยมๆแบบนี้ เป็นความเท็จและใส่ร้าย จึงต้องดำเนินคดี

นายจตุพร กล่าวถึงนายฟอร์ดถามการมีส่วนร่วมหรือเคยรณรงค์ยกเลิก ม.112 หรือไม่ว่า ตนถูกดำเนินคดี 112 แต่สู้คดี แต่ไม่จำเป็นต้องอวดตัวเท่านั้น อีกทั้งการถามไปเยี่ยมนักโทษคนเสื้อแดงติดคุกหรือไม่นั้น ตนอยู่ในคุกกับคนเสื้อแดง จึงไม่จำเป็นต้องโพนทะนาอะไร สำหรับการช่วยเหลือครอบครัวคนเสื้อแดงนั้น อดีตรัฐบาลยิ่งลักษณ์ช่วยเหลือและเยียวยาให้อย่างเป็นระบบมาแล้ว อีกอย่างกระบวนการนี้องค์กรได้ประสานการทำงานมาด้วยกัน

"วิธีการตั้งคำถามในลักษณะอย่างนี้ ดูเหมือนใหญ่โต ผมจึงต้องดำเนินคดีอย่างน้อย 4 คดี ถ้าโพสต์ใหม่ก็เอาอีก เพราะวิธีการชั่วร้ายพยายามอธิบายทำลายใส่ความ ใส่ร้าย ผมพยายามอดทน แต่ต้องเอากันสักตั้ง คุณอย่าหยุดโพสต์อีก โพสต์ 10 ครั้งก็แจ้งจับ 10 ครั้ง ตอนนี้ผมถอยไม่ได้ จึงต้องฟ้อง"

นายจตุพร กล่าวว่า นายฟอร์ดตั้งคำถามอธิบายความอย่างที่โพสต์นั้น เป็นการเห็นแก่ตัวที่สุด เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งเป็นเรื่องการใส่ร้ายกัน จึงต้องเจอกัน เพราะวันนี้เราต้องยืนหยัดอย่างเงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน อีกอย่างถ้าคนเสื้อแดงไปเห็นด้วยกับคดีบอสนั้น เป็นพฤติกรรมกระจอกที่สุด ตนรับไม่ได้


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"