สวธ.กำชับสภาวัฒนธรรม ปี 64 ลุยงานรักษามรดกภูมิปัญญา'อาหาร-ผ้าไทย'


เพิ่มเพื่อน    

   

 

     นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า ได้มอบนโยบายการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมให้ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดและเครือข่ายวัฒนธรรมในการประชุมเชิงปฏิบัติการชี้แจงและระดมความคิดสภาวัฒนธรรมทั่วประเทศที่โรงแรมดิอิมพิเรียล จังหวัดพิษณุโลก   จากสถานการณ์ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา การดำเนินงานด้านวัฒนธรรมในระดับต่างๆ จึงต้องทบทวนและคิดรูปแบบการทำงานใหม่ให้สามารถผลักดันงานวัฒนธรรมให้เกิดความเข้มแข็งภายใต้ข้อจำกัดด้านต่างๆ โดยมุ่งหวังให้สภาวัฒนธรรม เป็นองค์กรหลักของท้องถิ่นในการขับเคลื่อนงานด้วยการบูรณาการกับหน่วยงานในพื้นที่ อาทิ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชนต่างๆ หน่วยงานในพื้นที่ ส่งเสริม สืบสานและต่อยอดให้แผนงานของสภาวัฒนธรรมสู่แผนยุทธศาสตร์งานวัฒนธรรมของชาติ 

       " ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564  สวธ. มีเป้าหมายให้สภาวัฒนธรรมดำเนินการขับเคลื่อนภาคประชาชนให้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ใน 2 ด้านใหญ่ คือ ด้านอาหารหรือโภชนาการ และด้านอาภรณ์หรือผ้าไทย โดยเฉพาะด้านผ้าไทย ด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงให้ความสำคัญในการยกระดับผ้าไทยให้ได้รับความนิยมในเวทีระดับโลก ได้ทรงพระราชทานคำแนะนำในการจัดทำหนังสือแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย ปี คศ. 2020-2023 เพื่อพัฒนาและชี้นำทิศทางแนวโน้มการออกแบบผ้าไทยสู่สากล เป็น Trend Book ทิศทางในการขับเคลื่อนและพัฒนาสร้างกระแสความนิยมต่อผ้าไทย และการออกแบบเครื่องแต่งกายในเวทีระดับนานาชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของโลกในยุคสมัยใหม่  โดยให้สภาวัฒนธรรมดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลและระดมความคิดเห็นเครือข่ายทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำแผนการส่งเสริมและรักษา รวมถึงการต่อยอดนำมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมมาสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน " นายชาย กล่าว  

           อธิบดี สวธ. กล่าวว่า ประชุมครั้งนี้เป็นการสร้างความเข้าใจและเตรียมความพร้อมให้เครือข่ายทางวัฒนธรรม ก่อนเริ่มกระบวนการเพื่อให้ได้มาซึ่งคณะกรรมการสภาวัฒนธรรม พ.ศ.2564   โดยในการเลือกตั้งสภาวัฒนธรรม นี้ ประกอบด้วย 4 ระดับ ได้แก่ 1.สภาวัฒนธรรมตำบล/แขวง/เทศบาลองค์กรปกครองท้องถิ่นและสภาวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ  2.สภาวัฒนธรรมอำเภอ/เขต  3.สภาวัฒนธรรมจังหวัด/กทม.  และ 4.สภาวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งจะใช้การเลือกตั้งในรูปแบบใหม่ โดยกำหนดให้สภาวัฒนธรรมดำเนินการเอง เพื่อให้เกิดความจากความต้องการของพื้นที่อย่างแท้จริง และเกิดการบูรณาการร่วมกันของคนในชุมชน ซึ่งจะสร้างความเข้มแข็งให้ท้องถิ่นได้

          นายชาย กล่าวอีกว่า ตามพ.ร.บ.ธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2553  กำหนดให้สภาวัฒนธรรมมีหน้าที่สำคัญ คือ เสนอข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายและแผนแม่บทวัฒนธรรมของชาติ  เป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์และแนวคิดในการดำเนินงานวัฒนธรรม โดยเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย  ระดมทรัพยากร บุคลากรจากหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ เพื่อการดำเนินงานวัฒนธรรม  ส่งเสริม สนับสนุนและร่วมจัดกิจกรรมขององค์กรภาคีและเครือข่ายวัฒนธรรมเพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟู พัฒนา สร้างสรรค์ แลกเปลี่ยน สืบทอดและเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม  เผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมและผลการดำเนินงานขององค์กรภาคีและเครือข่ายวัฒนธรรม และดำเนินการอื่นใดตามที่คณะกรรมการ กระทรวงวัฒนธรรม จังหวัดหรือหน่วยงานอื่นๆ ขอความร่วมมือทางวัฒนธรรม 

          อย่างไรก็ตาม สวธ. ได้กำหนดการประชุมปรึกษาหารือเพื่อให้ได้มาซึ่งคณะกรรมการสภาวัฒนธรรม ตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๓ และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง  เพื่อให้สมาชิกสภาวัฒนธรรมและผู้แทนองค์กรเครือข่ายวัฒนธรรม ที่ได้ยื่นจดแจ้งเป็นเครือข่ายวัฒนธรรมในแต่ละระดับทั่วประเทศ ได้เข้าร่วมการประชุมปรึกษาหารือและคัดเลือกกันเองให้ได้จำนวนและสัดส่วนกรรมการตามที่ได้มีมติร่วมกัน ภายในกรอบระยะเวลา ดังนี้   สภาวัฒนธรรมตำบล สภาวัฒนธรรมเทศบาล สภาวัฒนธรรมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ และสภาวัฒนธรรมแขวง ระหว่างวันที่ 1 – 30 มกราคม 64   สภาวัฒนธรรมอำเภอ และสภาวัฒนธรรมเขต ระหว่าง 15 กุมภาพันธ์ – 15 มีนาคม    สภาวัฒนธรรมจังหวัด และสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร ระหว่าง 1-30 เมษายน  และ  สภาวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ภายในเดือนมิถุนายนนี้ 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"