สมใจ'ทรัมป์' ม็อบกบฏบุกรัฐสภาขวางรับรอง'ไบเดน' โดนยิงดับ1ศพ


เพิ่มเพื่อน    

เยี่ยงอย่างประชาธิปไตย รุมประณามโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ปลุกม็อบก่อการกบฏ ยุผู้สนับสนุนบุกอาคารรัฐสภาขัดขวางการประชุมรับรอง "โจ ไบเดน" เป็นประธานาธิบดีคนใหม่เมื่อวันพุธ สมาชิกคองเกรสหนีตายจ้าละหวั่น มีหญิงโดนยิงดับในอาคาร 1 ศพ ชาติพันธมิตรช็อกสหรัฐย่ำยีประชาธิปไตย

    เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญภายในใจกลางสัญลักษณ์ระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐอเมริกาเมื่อกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคลื่อนขบวนด้วยอารมณ์โกรธแค้นบุกเข้าไปภายในอาคารรัฐสภา กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันพุธที่ 6 มกราคม ระหว่างที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและวุฒิสภาเปิดการประชุมร่วมเพื่อลงมติรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐวันที่ 3 พฤศจิกายน ซึ่งโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ชนะคะแนนทรัมป์ขาดลอย

    รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า ก่อนหน้าที่กลุ่มม็อบหนุนทรัมป์จะบุกฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่แล้วบุกเข้าไปภายในห้องประชุมรัฐสภา ทรัมป์ขึ้นกล่าวปราศรัยต่อผู้สนับสนุนของเขาใกล้กับทำเนียบขาวให้เคลื่อนขบวนไปยังอาคารรัฐสภา "เราไม่มีทางยอมแพ้ เราไม่มีทางยอมรับ" ทรัมป์ปลุกเร้าฝูงชนที่ร้องตะโกน มีเพียงไม่กี่คนที่สวมหน้ากากอนามัย

    ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวเตือนสมาชิกคองเกรสพรรครีพับลิกันที่ "อ่อนแอ" ว่าอย่าได้รับรองชัยชนะของไบเดน โดยเฉพาะรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุมร่วมสองสภาในวันพุธ "ผมหวังว่าไมค์มีความกล้าที่จะทำในสิ่งที่เขาต้องทำ"

    ในระหว่างที่ทรัมป์ปราศรัยปลุกเร้าอยู่นั้น คองเกรสเปิดการประชุมแล้ว และเพนซ์ ซึ่งจงรักภักดีต่อทรัมป์มาตลอด 4 ปีนับแต่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งแบบหักปากกาเซียนเมื่อปี 2559 กล่าวว่า เขาไม่เชื่อว่าเขามีอำนาจที่จะแทรกแซงกระบวนการนี้

    หลังเกิดเหตุวุ่นวาย เพนซ์รีบเผ่นออกจากอาคารรัฐสภาทันที แล้วออกแถลงการณ์เรียกร้องผู้สนับสนุนทรัมป์ ซึ่งบางคนร้องตะโกนต่อต้านเขา ว่าให้ "หยุดเดี๋ยวนี้"

    มีรายงานว่า หญิงคนหนึ่งโดนยิงเสียชีวิตภายในอาคารรัฐสภาอันศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นหัวใจของประชาธิปไตยอเมริกามานานกว่า 200 ปีแห่งนี้ แต่ไม่ชัดเจนว่าเธอโดนยิงอย่างไร ตำรวจกล่าวว่ามีอีกหลายคนได้รับบาดเจ็บด้วย สมาชิกคองเกรสถูกอพยพออกจากอาคารและได้รับหน้ากากป้องกันแก๊สขณะที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาขับไล่ฝูงชน

    มีภาพที่ผู้สนับสนุนทรัมป์คนหนึ่งซึ่งสวมกางเกงยีนส์และหมวกเบสบอลนั่งเก้าอี้ของนางแนนซี เพโลซี ประธานรัฐสภาพรรคเดโมแครต และยกขาข้างหนึ่งพาดโต๊ะทำงานของนาง บนโต๊ะมีกระดาษข่มขู่วางทิ้งไว้ ขณะที่ผู้ก่อจลาจลคนอื่นๆ ปีนอัฒจันทร์ที่จัดตั้งไว้เพื่อรองรับพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของไบเดนวันที่ 20 มกราคม พร้อมกับป้ายข้อความว่า "พวกเราประชาชนจะทำให้ ดี.ซี.คุกเข่า / เรามีอำนาจ"

    ราว 4 ชั่วโมงหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่กล่าวว่าพวกเขาสามารถเคลียร์ผู้ก่อจลาจลออกจากรัฐสภาได้แล้ว แต่ผู้สนับสนุนทรัมป์นับพันคนยังคงรวมตัวกันอยู่ด้านนอกอาคาร ท้าทายคำประกาศเคอร์ฟิวเวลา 18.00 น. ของนายกเทศมนตรีมูเรียล โบว์เซอร์

    ด้านไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ประณามเหตุการณ์รุนแรงครั้งนี้ว่าเป็น "การก่อการกบฏ" และเรียกร้องให้ทรัมป์แถลงต่อประชาชนทางโทรทัศน์ทันที เพื่อสั่งให้ผู้สนับสนุนหยุดการล้อมโจมตีอาคารรัฐสภา

    "ประชาธิปไตยของเราโดนโจมตีอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน" ไบเดนกล่าวจากรัฐเดลาแวร์ บ้านของเขา "ฉากแห่งความโกลาหลที่รัฐสภาไม่ได้สะท้อนความเป็นอเมริกาที่แท้จริง"

    ไม่นานหลังจากนั้น ทรัมป์เผยแพร่วิดีโอที่เขาเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกจากรัฐสภา แต่ยังคงยืนกรานกล่าวหาว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ทุจริต "เราต้องมีความสงบสุข กลับบ้านไปเถอะ เรารักคุณ พวกคุณพิเศษมากๆ" อย่างไรก็ดี บริษัทโซเชียลมีเดียพากันถอดหรือจำกัดวิดีโอของทรัมป์ชิ้นนี้ โดยระบุว่ากระตุ้นให้เกิดความรุนแรง

    นักประวัติศาสตร์กล่าวกันว่า นี่เป็นครั้งแรกที่อาคารรัฐสภาสหรัฐโดนบุกยึดนับแต่ปี พ.ศ. 2357 เมื่ออังกฤษเผาอาคารหลังนี้ระหว่างสงครามปี 2355

    คาเรน แบสส์ ส.ส.พรรคเดโมแครต สะท้อนเสียงของสมาชิกคองเกรสอีกหลายรายผ่านทวิตเตอร์ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐกำลังยุให้ก่อรัฐประหาร เราจะไม่กลัวการข่มขู่ เราจะไม่ยอมโดนขัดขวาง

    อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช จากพรรครีพับลิกันประณาม "พฤติกรรมบ้าบิ่น" ของเพื่อนสมาชิกคองเกรสพรรครีพับลิกัน "นี่คือความขัดแย้งผลการเลือกตั้งแบบที่จะเกิดในสาธารณรัฐกล้วยหอม ไม่ใช่สาธารณรัฐประชาธิปไตยของเรา" บุชกล่าว

    ชาติพันธมิตรของสหรัฐต่างพากันตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงของชาติมหาอำนาจแห่งนี้ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ประณาม "ฉากที่น่าอัปยศ"    

    โจเซป บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปกล่าวประณาม "การโจมตีระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐ" ที่เกิดขึ้นต่อสายตาผู้คนทั้งโลก, รัฐมนตรีต่างประเทศไฮโก มาส ของเยอรมนี เรียกร้องผู้สนับสนุนทรัมป์ "หยุดเหยียบย่ำประชาธิปไตย" ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศ ฌอง-อีฟว์ เลอ ดริยอง ของฝรั่งเศสกล่าวว่าเป็นการโจมตีประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง เจตจำนงและการลงคะแนนของประชาชนชาวอเมริกันต้องได้รับความเคารพ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"