ยันไม่โหลด‘หมอชนะ’ไม่ผิด


เพิ่มเพื่อน    

  ดรามา "หมอชนะ" รัฐบาล-ศบค.ยันไม่โหลด ไม่มีความผิด ไม่ติดคุก "หมอทวีศิลป์" แจงขอความร่วมมือจดบันทึกแทนได้ ขณะที่โฆษกรัฐบาลเผยถ้ามีสมาร์ทโฟนแล้วไม่ให้ความร่วมมือ อาจทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสอบถามมากขึ้น

    เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันว่า ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้หารือกันว่าต่อไปใครติดเชื้อโควิด-19 ถ้าตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีการติดตั้งแอปพลิเคชันหมอชนะ จะถือว่าท่านละเมิดข้อกฎหมายตามประกาศฉบับที่ 17 นี่คือสิ่งที่เราจะค่อยๆ เข้มขึ้น
    อีกทั้งยังเป็นการยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดในพื้นที่ 5 จังหวัด ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบและควบคุมการใช้เส้นทางคมนาคมเข้าและออกพื้นที่ ให้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เพื่อคัดกรองการเดินทางเข้าและออกพื้นที่ และให้ผู้อยู่ในเขตพื้นที่ควบคุมสุงสูดต้องติดตั้งและใช้ระบบแอปพลิเคชันหมอชนะ
    "แอปพลิเคชันหมอชนะตอนนี้ทุกคนควรจะต้องมี และถ้าติดเชื้อแต่พบว่าไม่มีแอปพลิเคชันหมอชนะ จะต้องมีบทลงโทษตามมา เนื่องจากเราจะต้องควบคุมโรคให้ได้โดยเร็ว ดังนั้น การอยู่ในสังคมร่วมกันการควบคุมโรคจะต้องเกิดขึ้น จึงขอความร่วมมือ เพราะเราไม่ต้องการบังคับ เพื่ออยู่ในสังคมด้วยกันและให้โรคติดเชื้อลดน้อยลง" นพ.ทวีศิลป์กล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นนี้อย่างกว้างขวาง ซึ่งส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และมีการตั้งคำถามว่าผู้สูงอายุที่ไม่ได้ใช้โซเชียลฯ อาจมีปัญหาได้ และพบว่าพรรคฝ่ายค้านเอาไปโจมตีรัฐบาลด้วย
    เช่น นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้าประชาชนติดโควิดจากมาตรการป้องกันที่ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล แต่ไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนโหลดแอปฯ หมอชนะไม่ได้ ต้องถูกปรับ ต้องติดคุก สังเวยความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลหรือไม่
    ทำให้ต่อมา นพ.ทวีศิลป์ชี้แจงระหว่างการประชุมทำความเข้าใจระหว่าง ศบค.กับองค์กรสื่อและสื่อมวลชนทุกสำนัก ประเด็นหากไม่โหลดแอปพลิเคชันหมอชนะในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 5 จังหวัดแล้วจะติดคุกนั้น ว่าไม่ขนาดนั้น เพราะเจตนาที่แท้จริงเป็นการขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่ใช้แอปพลิเคชันในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนหากประชาชนไม่มีสมาร์ทโฟน ไม่สามารถโหลดแอปพลิเคชันหมอชนะได้นั้น ก็สามารถใช้กระบวนการแบบแอปพลิเคชันไทยชนะได้ ในการจดบันทึกของตนเองด้วยมือได้ ยืนยันที่แถลง ศบค.ในวันเดียวกันนี้ในเรื่องดังกล่าวเป็นการอ่านตามเอกสาร แต่ความจริงไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น เพราะต้องการเพียงความร่วมมือกับประชาชนเท่านั้น
    ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า หากประชาชนมีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ก็ขอความร่วมมือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าว แต่หากไม่สะดวกในการติดตั้งแอปพลิเคชันหมอชนะ สามารถใช้การบันทึกหรือแผนการเดินทางให้กับด่านหรือจุดตรวจได้ แต่หากพบว่ามีการปิดบังข้อมูลโดยเจตนาที่อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ก็จะถือว่ามีความผิด ทั้งนี้ ถ้ามีสมาร์ทโฟนแล้วไม่ให้ความร่วมมือ อาจทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสอบถามมากขึ้น ก็ต้องเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย
    ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการตรวจเชื้อโควิด-19 นั้น อยากขอให้ทุกคนอย่าวิตกจนเกินไป บางคนไม่ได้ไปไหน ไม่ได้ไปในพื้นที่สุ่มเสี่ยง ไม่มีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อหรือเคยเดินทางไปยังพื้นที่ระบาด แพทย์แนะนำให้เฝ้าสังเกตอาการ เก็บตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน และถ้ามีเหตุผิดปกติก็ไปพบแพทย์ ซึ่งในการตรวจเชื้อแต่ละครั้งต้องช่วยกัน เพราะใช้น้ำยาที่มีราคาสูง และเราจำเป็นต้องจัดลำดับความสำคัญของผู้ที่มีความเสี่ยงให้ตรวจก่อน เพื่อที่จะได้ควบคุมโรคได้ถูกจุด
    "ขอเพียงอย่างเดียว ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ และต้องดูแลตัวเอง อย่าปกปิดซึ่งกันและกัน ขณะนี้มีข่าวว่าหลายคนมีความกังวลว่าโทรศัพท์ตัวเองนั้นไม่ทันสมัย ไม่สามารถที่จะโหลดแอปพลิเคชันได้ แล้วจะมีความผิด ผมได้สอบถามไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแล้ว ก็ได้รับการยืนยันว่าไม่ได้มีความผิดอะไร ถ้ามีโทรศัพท์ที่โหลดแอปฯ ไม่ได้ก็ต้องลงทะเบียน เพื่อควบคุมได้ว่าจะไปไหนต่อไป อย่างไรก็ต้องเขียนแผนต่างๆ เพื่อที่จะได้ตรวจสอบได้ ขอร้องว่าให้ช่วยกัน ใครมีโทรศัพท์ที่สามารถโหลดแอปพลิเคชันได้ก็ขอให้โหลด ขอร้องว่าอย่าไปอ่านหรือฟังข่าวที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ก็จะเกิดความตกใจกันไปทั้งหมด ผมเองก็ไม่ทราบว่าจะเขียนกันไปเพื่ออะไร” นายกรัฐมนตรีกล่าว.
        

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"