ให้เป็นเยี่ยงอย่าง สิงคโปร์จำคุกหญิงปิดบังข้อมูลสอบสวนโรคโควิด


เพิ่มเพื่อน    

หญิงชาวสิงคโปร์โดนศาลตัดสินจำคุก 5 เดือนเมื่อวันศุกร์ ฐานปิดบังข้อมูลเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคที่ติดตามการสัมผัสเชื้อไวรัสโคโรนา โดยไม่แจ้งเรื่องพบปะกับเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งเพราะไม่ต้องการให้ครอบครัวทั้งสองฝ่ายเข้าใจว่าคบชู้ สุดท้ายต่างติดโควิด-19 ด้วยกันทั้งคู่

    เอเอฟพีอ้างข้อมูลในเอกสารของศาลสิงคโปร์ว่า โอ บีฮก อายุ 65 ปี กับลิม เกียงฮง เพื่อนชายวัย 72 ปี พบกัน 5 ครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว แต่โอจงใจปิดบังข้อมูลเรื่องนี้ต่อเจ้าหน้าที่สอบสวนติดตามโรคของกระทรวงสาธารณสุข เพราะนางไม่ต้องการให้ครอบครัวของนางหรือครอบครัวของลิมรู้ว่าทั้งคู่พบปะกันบ่อยครั้ง ด้วยความที่กลัวว่าครอบครัวและเพื่อนๆ จะสงสัยว่าทั้งคู่คบหากันแล้วลือกันไปว่าพวกเขากำลังคบชู้

    เจ้าหน้าที่รู้เรื่องการพบปะของทั้งสองคนหลังจากตรวจประวัติการจอดรถ, ดูภาพจากกล้องวงจรปิด, บันทึกการโทรศัพท์ และการใช้เครดิตการ์ด

    หลังจากโอเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะติดเชื้อไวรัสโคโรนา นางคุยโทรศัพท์กับลิม ขอให้เขาปิดเรื่องการพบกันเป็นความลับ ต่อมาในเดือนมีนาคม ลิมถูกตรวจพบว่าติดโควิด-19

    แชนเนลนิวส์เอเชียรายงานว่า ผู้พิพากษามาร์วิน เบย์ กล่าวในคำตัดสินว่า เหตุผลที่โอปิดบังข้อมูลนั้นเห็นแก่ตัว ในภาวะที่ผลประโยชน์ของสาธารณะเป็นเรื่องจำเป็นอย่างเร่งด่วนเพื่อควบคุมโรคระบาด ด้วยเหตุนี้ศาลจึงต้องส่งข้อความที่ชัดเจนให้เห็นว่า การเก็บงำข้อมูลที่อาจจะทำให้ผู้สอบสวนติดตามโรคเข้าใจผิดนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง

    โอรับสารภาพผิดข้อหาขัดขวางความพยายามติดตามการสัมผัสโรค ความผิดนี้มีโทษสูงสุดปรับ 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือจำคุก 6 เดือน หรือทั้งจำและปรับ นางเป็นคนแรกที่โดนตัดสินลงโทษในความผิดที่เกี่ยวข้องกับข้อหานี้

    ถึงวันศุกร์ สิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อไวรัสสะสมมากกว่า 58,800 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพียง 29 ราย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"